The Active ไทยพีบีเอส - ภาคีเครือข่ายฯ ตั้งวงคุยร่วมหาทางออก “แก่ก่อนรวย” จะไปทางไหนดี ออกแบบชีวิต ซีซัน 2 เมื่อชีวิตต้องไปต่อ การทำงานหลังวัยเกษียณจึงจำเป็น นักวิชาการเสนอขยายอายุเกษียณแบบสมัครใจ ค่อยๆ เปลี่ยน ค่อยๆ ขยับ คุ้มครองสิทธิผู้สูงอายุ ส่งเสริมการมีงานทำ
องค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย (ส.ส.ท.) หรือไทยพีบีเอส โดยศูนย์สื่อสารวาระทางสังคมและนโยบายสาธารณะ หรือ The Active ร่วมกับภาคีเครือข่าย จัดเวที Policy Forum "Unretirement: The Next Chapter ชีวิตไม่เกษียณ" ในงานมนุษย์ต่างวัย Fest 2025 ชีวิตดี...ชีวิต ซีซัน 2 It’s Okay To Be You เมื่อวันที่ 22 มิ.ย. 2568
รศ.เฉลิมพล แจ่มจันทร์ ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยประชากรและสังคม มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวว่า สถานการณ์สังคมสูงอายุในประเทศไทยเริ่มตั้งแต่ปี 2548 โดยปี 2567 เป็นสังคมสูงวัยโดยสมบูรณ์ และจะเป็นสังคมสูงวัยระดับสุดยอดในอีก 10 ปีข้างหน้า หรือประมาณการปี 2578 จะมีผู้สูงอายุสูงถึง 27-30% หมายความว่าจะมึผู้สูงอายุมากถึง 1 ใน 3 ของจำนวนประชากร ซึ่งการเปลี่ยนไปสู่สังคมสูงวัยระดับสุดยอดของไทยถือว่ามีอัตราที่เร็วมาก ที่สำคัญคือ ผู้สูงอายุไทยอยู่ในสถานการณ์ที่เรียกว่า “แก่ก่อนรวย” ดังนั้น หากไม่มีการเตรียมความพร้อม หมายถึงไม่มีเงินออมเพียงพอ การทำงานหลังวัยเกษียณจึงมีความจำเป็นอย่างมาก อย่างไรก็ตาม การทำงานของผู้สูงอายุขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ได้แก่ 1. จำเป็นต้องทำแต่ไม่พร้อม เช่นมีปัญหาสุขภาพ เงินออมไม่เพียงพอ 2. มีความพร้อมแต่ไม่จำเป็น เป็นกลุ่มที่มีบำนาญ เป็นกลุ่มที่ไม่ต้องสร้างรายได้ แต่ต้องการสร้างคุณค่าให้ตนเอง 3. ความคุ้มเสี่ยง ซึ่งส่วนใหญ่มองว่าไม่คุ้ม เนื่องจากสภาพแวดล้อม ซึ่งเกือบ 90% เป็นแรงงานนอกระบบ
“การส่งเสริมผู้สูงอายุให้ยังคงอยู่ในตลาดแรงงาน ถือเป็นทางรอด เพราะผู้มีอายุ ตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไปยังคงมีศักยภาพ และยังเป็นกำลังสำคัญที่จะช่วยพัฒนาประเทศได้ สำหรับเรื่องการ “ขยายอายุเกษียณ” ในแวดวงวิชาการมีการพูดคุยกันมายาวนาน มองว่าการขยายเวลาเกษียณที่ครอบคลุมกลุ่มภาครัฐที่มีอยู่ประมาณ 2-3 ล้านคน เป็นการขยายเวลาการทำงานแบบสมัครใจ ลดชั่วโมงการทำงานให้เหมาะสม และค่อยเพิ่มขยายอายุทีละ 1 หรือ 2 ปี เพื่อไม่ให้กระทบต่อคนรุ่นใหม่ และการบังคับอาจส่งผลกระทบในวงกว้าง ขณะเดียวกันคนกลุ่มใหญ่ที่สุดของสังคมคือภาคเอกชน ก็สามารถขยายอายุการทำงาน โดยแยกออกจากสิทธิในระบบประกันสังคมการจ่ายสิทธิประโยชน์” รศ.เฉลิมพลกล่าว
กฤษฎี ตั้งจิตถนอมสิน วัย 62 ปี ผู้ผ่านการอบรมโครงการชีวิต ซีซัน 2 วิชา อัปสกิลขั้นสุดสู่การเป็นที่ปรึกษามืออาชีพ เล่าว่า เคยมีอาชีพเป็นวิศวกรในบริษัทหลักทรัพย์แห่งหนึ่ง แต่ต้องตกงานในวัย 40+ ปี โดยการเออร์รีรีไทร์ หรือ “การเกษียณก่อนกำหนด” ไปสมัครงานที่ไหนก็ไม่มีใครรับ ด้วยเหตุผลอายุเกิน 35 ปี และเงินเดือนสูงเกินไป เลยตัดสินใจเข้าร่วมอบรมกิจกรรมที่สนใจ เพื่อเพิ่มทักษะต่อยอดความรู้ จนมาเจอโครงการ “ที่ปรึกษา” ของเพจมนุษย์ต่างวัย ทำให้ปัจจุบันใช้ความสามารถที่มีและการพัฒนาตนเองมาเป็นที่ปรึกษาให้บริษัท SMEs ไทยหลายแห่ง และยังมีโอกาสได้ทำงานใกล้บ้าน โดยการเป็นบาริสตา มีรายได้ชั่วโมงละ 50 บาท หรือ 200 บาทต่อวัน สิ่งที่อยากฝากไว้คือ ผู้สูงอายุที่ออกไปงานมีสังคม จะมีสุขภาพที่ดีกว่า การติดบ้าน และในที่สุดติดเตียง
ด้าน วสันต์ ภัยหลีกลี้ กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ มองว่า ปัจจุบันยังไม่มีกฎหมายเฉพาะในการคุ้มครองสิทธิผู้สูงอายุ ในขณะที่สังคมเปลี่ยนและผู้สูงอายุไทยมีอายุเฉลี่ยยืนขึ้น ถึงเวลาต้องปรับให้มีกฎหมายเฉพาะสำหรับผู้สูงอายุ เพื่อคุ้มครองสิทธิผู้สูงอายุ ให้มีสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการทำงาน มีหลักประกันรายได้ที่เพียงพอ และมีศักดิ์ศรีในการใช้ชีวิต นอกจากนี้เสนอให้ปรับนิยามของ “ผู้สูงอายุ” ใหม่ เนื่องจากปัจจุบันนิยามผู้สูงอายุอยู่ที่ 60 ปี เมื่อก้าวสู่เลข 60 ก็มองว่าตัวเองชราภาพทันทีแม้จะผ่าน 59 ปีมาวันเดียว ซึ่งส่งผลต่อทัศนคติในการทำงาน จึงควรปรับนิยามอายุเพื่อส่งเสริมการทำงานในวัยหลัง 60 ปี
ทั้งนี้ สามารถติดตามย้อนหลังได้ทุกช่องทางของ The Active พร้อมร่วมเรียนรู้และผลักดันประเด็นเรื่องการออมและการเกษียณที่ยั่งยืน กับแพลตฟอร์ม Policy Watch ได้ที่ https://policywatch.thaipbs.or.th/policy/finance-3
ไม่พลาดทุกข่าวสาร สาระความรู้ และคอนเทนต์คุณภาพ ติดตามไทยพีบีเอสทุกช่องทางออนไลน์ ได้ที่
▪ Website : www.thaipbs.or.th
▪ Application : Thai PBS
▪ Social Media Thai PBS : Facebook, YouTube, X , LINE, TikTok, Instagram, Threads, Linkedin