“พ่อเลี้ยงเจ” วิเคราะห์ ถ้าไม่เปลี่ยนนายกฯ ก็รอวันโดนไล่ เพราะ “อุ๊งอิ๊ง” หมดความชอบธรรม แต่ถ้าเปลี่ยนนายกฯ หรือยุบสภา โดยไม่ยกเลิก MOU 43, 44 ทหารเหนื่อยฟรี แก้ปัญหาเขมรไม่ได้ นักการเมือง-ทหารใหญ่ก็โดนฮุนเซนแบล็กเมล์กันต่อไป
“พ่อเลี้ยงเจ” วิเคราะห์ไว้ในเพจ “พ่อเลี้ยงเจจากดาวอังคาร” แบบฟันธงว่า ถึงจะเปลี่ยนนายกฯ หรือยุบสภา ก็ไม่สามารถแก้ปัญหาชายแดนไทย-เขมรได้ เพราะปัญหาอยู่ที่ MOU 2543 ที่ยอมรับแผนที่ 1 ต่อ 200,000 ทั้งที่ทหารไทยใช้แผนที่ 1 ต่อ 50,000 ที่ใช้กันในระดับสากล แม้แต่กัมพูชาเอง การปักปันเขตแดนที่ติดกับลาวหรือเวียดนามก็ใช้ 1 ต่อ 50,000 แต่ชายแดนที่ติดกับประเทศไทยกลับใช้แผนที่ 1 ต่อ 200,000 เพราะมี MOU 43 รับรองทําให้กัมพูชาได้เปรียบล้ำแดนเข้ามาเรื่อยๆ
เพราะฉะนั้นถ้าเปลี่ยนนายกฯ แต่ถ้าไม่เปลี่ยนนโยบาย ทหารก็ได้แต่ยันเอาไว้อยู่แค่นั้น ไม่มีประโยชน์อะไรเกิดขึ้น เรื่องราวสงบเดี๋ยวก็เกิดขึ้นมาใหม่ ถ้าดูตามรายชื่อแคนดิเดตนายกฯ ที่มีอยู่ตอนนี้
เริ่มจาก “อุ๊งอิ๊ง” แพทองธาร ชินวัตร ที่ยังหน้าด้านอยู่ต่อ แต่ก็น่าจะอยู่ไม่นาน จะโดนบีบไปเรื่อยๆ แล้วจะต้องกระเด็นออกไปแน่นอน
มาที่ “ชัยเกษม นิติศิริ” เป็นคนของพรรคเพื่อไทยก็จะยึดหลักการเดิมของพรรคเพื่อไทย MOU 43-44 ไม่ยกเลิก ประชุม JBC ก็ยังใช้ทูต “ประศาสน์” คนเดิม ในหลักการเดิม
ส่วน “อนุทิน ชาญวีรกูล” ก็เป็นฝ่ายค้านไปแล้ว แต่ถ้าเอาขึ้นมาก็ต้องจับตาเรื่อง “บ่อนช่องสายตะกู” ที่อยู่ติดชายแดนจังหวัดบุรีรัมย์ให้ดี นอกจากบิ๊ก คสช.แล้วยังมีข่าวว่าผู้มีอิทธิพลแถวนั้น ตํารวจใหญ่นายหนึ่งได้ส่วนแบ่งด้วย ต้องระวัง “ฮุนเซน” แฉ จะตายกันยกแผง
มาที่ “พีรพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค” ซึ่งกะฟลุกว่าถ้าตัวเองไม่ได้ก็ต้องเป็น “ลุงตู่” ได้ ก็ยังมีคำถามว่าถ้าได้เป็นนายกฯ แล้ว จะแก้ไขปัญหาเรื่องนี้ยังไง ตอนไปเจรจากับพรรคเพื่อไทยกลับไปต่อรองเรื่องเปลี่ยนนายกฯ เป็น “ชัยเกษม” แทนที่จะต่อรองให้เลิก MOU 43 ให้เปลี่ยนคณะเจรจา JBC ใหม่ ให้ยึดแผนที่ 1 ต่อ 50,000 ถึงจะร่วมรัฐบาลต่อ
“พีรพันธุ์” อ้างเรื่องพลังงาน เขียนร่างกฎหมายมา 3 ปีแล้วไม่จบสักที “ลุงตู่” อยู่มา 8 ปีก็ไม่ทําเรื่องนี้ เพราะนายทุนของพรรครวมไทยสร้างชาติก็คือทุนพลังงานที่ผูกขาดอยู่ทุกครัวเรือนขณะนี้ และกําลังลามไปถึงสัญญาณอะไรบางอย่างที่คุณขาดไม่ได้ในแต่ละวัน ซึ่งเขาต้องการให้พรรครวมไทยสร้างชาติเป็นพรรคที่ค้ำรัฐบาลเท่านั้น
“พีระพันธุ์” ได้ทิ้งโอกาสที่จะเป็นรัฐบุรุษ แทนที่จะทําให้รัฐบาลไปต่อไม่ได้ เพื่อฝากชื่อเอาไว้เลือกตั้งครั้งหน้า ซึ่งอย่างน้อยกลุ่มอนุรักษนิยมก็ยังเห็นความกล้าหาญ กล้าที่จะเทคะแนนให้
ฉะนั้น “พีระพันธุ์” ถึงจะต่อรองกับนายทุนพลังงาน แต่ในอีกทางก็ร่วมมือกับนายทุนพลังงาน และในเมื่อหมดจากรัฐบาลนี้แล้ว เลือกตั้งใหม่ก็หมดโอกาสไปการเมืองต่อ เพราะทุนพลังงานเขาไปตั้งพรรคใหม่แล้ว
แทนที่ “พีระพันธุ์” จะเป็นความหวังของคนไทย ก็เสียโอกาสนี้ไป จากวีรบุรุษกลายเป็น “วีรบุหลุด” หลุดไปเรียบร้อย
ตอนนี้การเมืองพยายามถ่วงเวลาให้อารมณ์ของคนไทยสงบลง แต่มันไม่สงบ มันจะค่อยๆ ระอุขึ้นเรื่อยๆ นวดกันไปเรื่อยๆ บวกกับที่ฮุนเซนจะแฉออกมา จะได้เห็นวิญญูชนจอมปลอม ผู้ดีจอมปลอมออกมาอีกหลายคนอย่างแน่นอน
ต้องฝากถึงเอฟซีของพรรคคนดีอย่างรวมไทยสร้างชาติ เอฟซีของลุงตู่ ง่ายๆ ว่า รัฐบาลนี้ นายกรัฐมนตรีคนนี้ และพรรคเพื่อไทย หมดความชอบธรรมในการเป็นรัฐบาลแล้ว อยู่ต่อไปก็อายหมา โดนฮุนเซนแบล็กเมล์ตลอดแน่นอน ในเมื่อหมดความชอบธรรมแล้ว ถ้าคุณยังร่วมรัฐบาลต่อ เท่ากับกําลังพายเรือให้โจรนั่งต่อไปหรือเปล่า
อีกประเด็น ถ้า “ลุงตู่” กลับมาเป็นนายกฯ หรือรัฐมนตรีกลาโหมคนใหม่ในรัฐบาลเพื่อไทยที่จะตั้ง มาจากสาย “ลุงตู่” ที่ซูเอี๋ยกัน เชื่อขนมกินได้เลยว่าทหารจะทํางานยากขึ้น เพราะว่าจะโดนควบคุมจากนายเก่าให้ไม่กล้ากระโตกกระตากขึ้นมา อย่างรองแม่ทัพภาคที่ 2 ที่ออกมาแฉว่าเขมรรุกล้ำมาตั้ง 500-600 ครั้งแล้วตั้งแต่มี MOU 43 สมัย “ลุงตู่” ก็ไม่เคยกล้าแฉแบบนี้ เพราะว่าผู้ใหญ่ครอบอยู่ ถ้ามีคนแบบนี้มาจากฝั่งเดิมอีก ก็คือบรรลัย