เพจดัง "ทำไมถึงเจ๊ง" ชี้เป้า! แนะรัฐบาลไทยใช้มาตรการ "แบนส่งออกเกลือ" ตอบโต้กัมพูชา เชื่อไทยเสียหายน้อยที่สุด แต่กระทบกัมพูชาอย่างรุนแรง ทั้งขาดแคลนเกลือ ราคาพุ่ง และกระทบความมั่นคงทางอาหาร ด้านเพจ "เจ้าหญิงน้อยแห่งอันดามัน" เมนต์ มองว่าเกลือคือจุดอ่อนสำคัญของกัมพูชาในขณะนี้
วันนี้ (21 มิ.ย.) เพจ “ทำไมถึงเจ๊ง” ที่มีผู้ติดตามเกือบ 1 แสนคน ออกมาโพสต์ข้อความแสดงความคิดเห็นแนะรัฐบาลวิธีแก้เผ็ดเขมร ให้ยุติการส่งออกเกลือ โดยทางเพจได้ระบุข้อความว่า
"หากจะตอบโต้ทางการค้าให้ทางฝั่งไทยเสียประโยชน์น้อยที่สุดและดำเนินการได้เร็วที่สุดแต่ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
ขอแนะนำยุติการส่งออกเกลือไปยังกัมพูชาครับ
โดยจากข่าวในหลายสิบวันที่ผ่านมามีการประกาศจะตัดอินเทอร์เน็ต ตัดไฟ ตัดการขายเชื้อเพลิงน้ำมันต่างๆ ซึ่งก็มีประชาชนที่ออกมาสนับสนุน ซึ่งเราต้องไม่ลืมครับว่ามันมีผลกระทบมายังฝั่งเราด้วยโดยเฉพาะภาคธุรกิจ
แต่ถ้าเป็นเกลือ เรามีการส่งออกและบริโภคในประเทศค่อนข้างเยอะทั้งทางอุตสาหกรรมและทางด้านอาหาร ประเทศเรามีทะเลสองฝั่งและมีการผลิตเกลือเป็นจำนวนมาก สวนทางกับทางฝั่งกัมพูชาที่มีพื้นที่ติดทะเลสำหรับผลิตเกลือค่อนข้างน้อย และสภาพอากาศช่วง 1-2 ปีนี้ไม่เป็นใจในการผลิตเกลือ
จากข่าวล่าสุดกัมพูชามีเกลือในสต๊อกของรัฐบาลเพียงพอสำหรับ 1 ปี ราว 50,000 ตัน ผลผลิตปีนี้เก็บเพิ่มได้อีก 30,000 ตัน แต่ตัวเลขการใช้เกลือในประเทศเฉลี่ยอยู่ที่ปีละ 80,000 ตัน
แอดลองใช้ AI ตั้งโจทย์ ลองอ่านดูครับ
.
.
.
หากประเทศไทยไม่ส่งออกเกลือให้กับกัมพูชาเป็นเวลา 3 ปี จะส่งผลกระทบหลายด้านต่อกัมพูชา ดังนี้:
1. ปัญหาการขาดแคลนเกลือรุนแรง:
* ความต้องการเกลือของกัมพูชา: กัมพูชามีการผลิตเกลือภายในประเทศจากนาเกลือในจังหวัดกำปอตและแกบ แต่ผลผลิตขึ้นอยู่กับสภาพอากาศและยังไม่เพียงพอต่อความต้องการใช้ภายในประเทศทั้งหมด ทำให้ต้องพึ่งพาการนำเข้าเกลือจากต่างประเทศ โดยเฉพาะจากจีน อินเดีย และประเทศไทย (โดยเฉพาะเกลือสินเธาว์จากภาคอีสานซึ่งใช้ในอุตสาหกรรม)
* ผลกระทบต่อชีวิตประจำวันและอุตสาหกรรม: เกลือเป็นสิ่งจำเป็นในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะใช้ในการบริโภค ถนอมอาหาร หรือใช้ในอุตสาหกรรมต่างๆ เช่น อุตสาหกรรมอาหาร การเกษตร (สำหรับสัตว์) หากขาดเกลือจะส่งผลกระทบต่อความเป็นอยู่ของประชาชนโดยตรง และอาจทำให้ภาคอุตสาหกรรมที่ต้องใช้เกลือประสบปัญหาการผลิต
* ราคาเกลือสูงขึ้น: เมื่ออุปทานลดลงและมีความต้องการคงที่หรือเพิ่มขึ้น ราคาเกลือในกัมพูชาจะพุ่งสูงขึ้นอย่างมาก ทำให้เป็นภาระแก่ประชาชนและธุรกิจ
2. ผลกระทบต่อเศรษฐกิจและสังคม:
* การหาแหล่งนำเข้าอื่น: กัมพูชาจะต้องเร่งหาแหล่งนำเข้าเกลือจากประเทศอื่นแทน เช่น จีน หรืออินเดีย ซึ่งอาจมีต้นทุนที่สูงขึ้น ค่าขนส่งที่เพิ่มขึ้น หรือต้องใช้เวลานานในการปรับเปลี่ยนคู่ค้า
* ปัญหาชายแดน: แม้ว่าข้อมูลล่าสุดจะระบุว่าการซื้อขายเกลือที่ชายแดนไทย-กัมพูชาเป็นไปตามปกติ ไม่ได้มีการกักตุนเกลืออย่างที่เคยเป็นข่าว แต่หากมีการหยุดส่งออกเกลือจริง อาจทำให้เกิดความตึงเครียดบริเวณชายแดน และส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ทางการค้าโดยรวมระหว่างสองประเทศ
* ผลกระทบต่อเกษตรกรและผู้ประกอบการไทย: การหยุดส่งออกเกลืออาจส่งผลกระทบต่อเกษตรกรผู้ทำนาเกลือและผู้ประกอบการเกลือในประเทศไทยที่เคยส่งออกไปยังกัมพูชา ทำให้ต้องหาตลาดใหม่หรือปรับลดกำลังการผลิต
* ความมั่นคงทางอาหาร: เกลือเป็นส่วนประกอบสำคัญในการถนอมอาหาร หากขาดเกลืออาจส่งผลกระทบต่อความมั่นคงทางอาหารของกัมพูชา โดยเฉพาะในพื้นที่ที่การเข้าถึงอาหารสดมีข้อจำกัด
3. การปรับตัวของกัมพูชา:
* เพิ่มการผลิตภายในประเทศ: กัมพูชาอาจพยายามเพิ่มกำลังการผลิตเกลือในประเทศให้เพียงพอต่อความต้องการ ซึ่งอาจต้องใช้การลงทุนในเทคโนโลยีการผลิตที่ทันสมัยขึ้น หรือขยายพื้นที่เพาะปลูก
* หาทางเลือกอื่น: อาจมีการศึกษาและนำเข้าสารทดแทนเกลือ หรือพัฒนาวิธีการถนอมอาหารแบบอื่นที่ไม่ต้องใช้เกลือมากนัก
โดยสรุป การที่ประเทศไทยไม่ส่งออกเกลือให้กัมพูชาเป็นเวลา 3 ปี จะสร้างผลกระทบที่รุนแรงต่อกัมพูชา ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และความเป็นอยู่ของประชาชน ทำให้กัมพูชาต้องเร่งหาทางออกในการจัดหาเกลือมาใช้ภายในประเทศ และอาจส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในโครงสร้างการค้าเกลือของภูมิภาคได้
.
.
.
จากโจทย์ที่ตั้งว่าถ้าประเทศไทยไม่ส่งออกเกลือให้กับกัมพูชาเป็นเวลา 3 ปีจะเกิดอะไรขึ้น แต่ที่ท่านอ่านคือคำตอบครับ
ดังนั้นในนามเพจทำไมถึงเจ๊ง จึงขอเสนอถ้ามีมาตรการแบนสินค้าเพื่อเป็นการตอบโต้ แบบที่ประเทศไทยเสียหายน้อยที่สุด ควรเป็นเกลือครับ
และจากที่ไปงาน expo osaka มาเมื่อเดือนที่แล้ว แวะไปดูบูทของกัมพูชาเขามีการนำเสนอสินค้าส่งออกขึ้นชื่อของกัมพูชานั่นก็คือเกลือครับ มีการให้รายละเอียดถึงคุณภาพของเกลือและการไปเปิดบูทในงาน expo ก็เพื่อมองหาตลาดใหม่ๆ ในต่างประเทศ
ถ้าเกิดการขาดแคลนในประเทศการส่งออกก็จะลดลงหรือทำไม่ได้ ตรงนี้มีประโยชน์เกิดขึ้นหลายทางในด้านการตอบโต้ที่เราจะเสียหายน้อยที่สุดแต่สร้างความเสียหายได้มากที่สุด
#ทำไมถึงเจ๊ง"
นอกจากนี้ทางเพจยังได้ระบุข้อความเพิ่มเติมอีกว่า
แน่นอนครับว่าเมื่อกัมพูชาเจอมาตรการนี้เขาก็ต้องหาทางออกระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาวซึ่งเชื่อว่าก็จะแก้ไขปัญหาได้ครับ แต่ในระหว่างที่เจอปัญหาก็จะเจอผลกระทบหลากหลายที่ประดังเข้ามา การกักตุน ผู้ค้ารายใหม่เสนอราคาที่สูงกว่าเพิ่มต้นทุน รวมไปถึงเปลี่ยนเส้นทางการขนส่งและเปลี่ยนผู้ซื้อ ในการซื้อจำนวนมากต้องใช้เวลาและการต่อรองครับ โดยท่าทางประเทศคู่ค้ามองว่านี่คือโอกาสที่จะขายได้ราคาดี ทางเวียดนามก็อาจจะขึ้นราคาเกลือล่วงหน้า หากต้องการนำเข้าจากจีนหรือประเทศที่ไกลกว่านั้นก็มีเรื่องของค่าขนส่งที่เพิ่มขึ้นมา
ด้วยลักษณะภูมิประเทศที่ติดทะเลน้อยส่งผลต่อการผลิตเกลือในระยะยาว จึงต้องนำเข้าเกลืออุตสาหกรรมและเกลือเพื่อการบริโภคยาวนานหลายสิบปี
content นี้เป็นการยกตัวอย่างนะครับเพราะจากข่าวไม่ว่าจะยุติการส่งออกก๊าซธรรมชาติ น้ำมันมันมีผลกระทบที่เห็นภาพความเสียหาย และเป็นทางไทยโดยเฉพาะผู้ประกอบการที่ต้องได้รับผลกระทบไปด้วย
ซึ่งแม้จะเลือกเกลือเป็นคำตอบแต่ก็มีผลกระทบครับ แต่เมื่อเทียบดูการจัดการแล้วง่ายกว่าน้ำตาล ง่ายกว่าน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ
และบังเอิญเป็นจุดอ่อนของกัมพูชาในช่วงเวลานี้ที่กำลังพัฒนาธุรกิจหลายๆ อย่างในประเทศ แต่วัตถุดิบสำคัญที่ไม่ได้สำรองไว้มากพอคือเกลือ
ดังนั้น ถ้าจะนำร่องแม้จะมีผลกระทบต่อภาคธุรกิจไทย เกลืออาจจะเป็นทางเลือกที่เจ็บน้อยที่สุดแต่ได้ผลประโยชน์สูงสุดในการตอบโต้ครับ
ด้านเพจ “เจ้าหญิงน้อยแห่งอันดามัน” ก็เข้ามาแสดงความคิดเห็นต่อโพสต์ดังกล่าวเช่นกันว่า
“ในด้านอุตสาหกรรม ถ้าขาดเกลือไปก็จะผลิตเคมีเช่นคลอรีนไม่ได้ไปด้วยและต้องเปลี่ยนเป็นนำเข้าแทน
ในด้านการถนอมอาหาร ตรงนี้กัมพูชามีการถนอมอาหารเก็บไว้กินค่อนข้างมากซึ่งต้องใช้เกลือ การหมักดองต่างๆ ก็เช่นกัน
ตรวจสอบข้อมูลดูแล้วปีนี้ผลผลิตเกลือไม่ได้ตามเป้า และโกดังที่สต๊อกสินค้ามีใช้เต็มที่ 1 ปี
ในส่วนของการส่งออก เกลือยังพอหาเจ้าใหม่ได้เพราะราคาเราก็ไม่ได้สูง"