“หลวงตาสุจ” ขอบคุณรัฐบาลและประชาชนกัมพูชาที่ต้อนรับไปอยู่ประเทศ บอกขออย่าส่งอาตมากลับมาไทย ไม่งั้นจะผูกคอตายในรถตำรวจ ทิ้งชีวิตไว้เขมรดีกว่า ด้าน “ฮุนเซน” เล่นใหญ่ สั่งลูกชายขอพระราชทานสัญชาติกัมพูชาให้ อ้างไม่ได้แทรกแซงกิจการภายในของไทย
เว็บไซต์ข่าว Phnom Penh Post รายงาน เมื่อวันที่ 20 มิ.ย.ว่า ประชาชนและผู้นำกัมพูชาพร้อมต้อนรับอย่างอบอุ่นต่อ “หลวงตาสุจ” พระชื่อดังจากจังหวัดบุรีรัมย์ ประเทศไทย ที่ขอไปอาศัยอยู่ในกัมพูชา โดยนายฮุนมาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ตอบรับคำขอของหลวงตาสุจที่จะมาอาศัยอยู่ในกัมพูชา หลังจากที่พระสงฆ์รูปนี้อ้างว่าไม่สามารถกลับมาประเทศไทยได้
หลวงตาสุขเป็นพระที่มีชื่อเสียงอย่างมากในกัมพูชา เนื่องจากมีลีลาการเทศน์ที่ตลกขบขัน และเดินทางไปเทศน์ในกัมพูชาบ่อยครั้ง
Phnom Penh Post ระบุว่า หลังจากเกิดข้อพิพาทเรื่องพรมแดนระหว่างกัมพูชากับไทยเมื่อปลายเดือนพฤษภาคม มีภาพในเฟซบุ๊กที่ทหารไทยเข้าไปสอบถามหลวงตาสุจกรณีที่หลวงตาสุจอ้างว่าชาวเขมรสุรินทร์หรือชาวเขมรสูงบางส่วนลืมต้นกำเนิดบรรพบุรุษของตน ซึ่งหมายถึงดินแดนไทยเคยเป็นส่วนหนึ่งของอาณาจักรเขมร
หลวงตาสุจซึ่งขณะนี้อยู่ในแคนาดา กล่าวผ่านวิดีโอคลิปในเฟซบุ๊กเมื่อวันที่ 19 มิ.ย.ซึ่งกลายเป็นไวรัลไปทั่วโลกออนไลน์เขมรว่า ภายใต้สถานการณ์ปัจจุบัน หลวงตาไม่สามารถกลับประเทศไทยได้ และร้องขอต่อรัฐบาลกัมพูชาเพื่อย้ายไปอยู่ที่นั่้น
“จากที่ทราบมา อาตมาไม่สามารถข้ามชายแดนเข้าประเทศไทยได้แม้แต่ก้าวเดียว อาตมาต้องไปที่ไหนสักแห่ง แต่ไม่ใช่ประเทศไทย ต้องเป็นกัมพูชานี่แหละ อาตมาขอร้องรัฐบาลกัมพูชาอย่างสุภาพว่าอย่าจับกุมและส่งตัวอาตมากลับประเทศไทย ถ้าหากรัฐบาลกัมพูชาจับกุมอาตมาอย่างโหดร้ายและส่งตัวอาตมากลับประเทศไทย ก่อนที่จะถึงดินแดนไทยอาตมาขอผูกคอตายบนรถตำรวจ และทิ้งชีวิตของอาตมาไว้บนดินแดนกัมพูชาดีกว่า”
ขณะที่นายกรัฐมนตรีฮุนมาเนตประกาศว่าพร้อมต้อนรับหลวงตาสุจ และย้ำว่าเขาจะต้อนรับพระสงฆ์และพลเมืองกัมพูชาคนอื่นๆ เช่นกันที่ถูกเลือกปฏิบัติหรือดูหมิ่นเพราะเป็นชาวเขมร หรือแสดงความคิดเห็นที่ปกป้องศักดิ์ศรีและบูรณภาพแห่งดินแดนของกัมพูชา พร้อมให้คำมั่นว่าจะไม่มีชาวเขมรคนใดถูกเลือกปฏิบัติหรือถูกเนรเทศไปยังประเทศอื่น
ขณะที่ชาวเน็ตกัมพูชาก็ออกมาสนับสนุนการต้อนรับหลวงตาสุจอย่างกว้างขวาง ผู้ใช้เฟซบุ๊ก Chantong TL โพสต์ว่า “พวกเราดีใจมากที่หลวงตาสุจมาอาศัยอยู่ในกัมพูชา เราเปิดใจต้อนรับท่านด้วยความเคารพและความรัก และเราขอขอบคุณนายกรัฐมนตรีสำหรับความเมตตากรุณาที่ยอมรับให้ท่านมาอาศัยอยู่ในประเทศของเรา”
Bro Chan Chan แสดงความคิดเห็นว่า “มากัมพูชาเถอะหลวงพ่อ เพราะกัมพูชามีประชาชนที่เข้าใจ ซื่อสัตย์ และมีศักดิ์ศรี ซึ่งชาวเขมรก็รักเขมรเหมือนกัน”
ขณะเดียวกัน เมื่อวันที่ 20 มิถุนายน นายฮุนเซน ประธานวุฒิสภา แสดงความยินดีกับหลวงตาสุจที่ได้รับการต้อนรับจากนายกรัฐมนตรี เขาหวังว่านายกรัฐมนตรีจะกราบบังคมทูลกษัตริย์กัมพูชาเพื่อขอพระราชทานสัญชาติกัมพูชาให้แก่หลวงตาสุจ เพื่อให้สามารถรับใช้ในฐานะพลเมืองกัมพูชาได้
ฮุนเซนย้ำว่าเรื่องนี้จะไม่ทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างกัมพูชากับไทยหยุดชะงักหรือเป็นการแทรกแซงกิจการภายในของไทย เพราะกัมพูชาจะไม่อนุญาตให้หลวงตาสุจเคลื่อนไหวต่อต้านไทย
อดีตนายกรัฐมนตรีกัมพูชาได้กล่าวด้วยว่า เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่ โดยยกตัวอย่างกรณีในอดีตที่กัมพูชาให้ความช่วยเหลืออดีตนายกรัฐมนตรีไทย ทักษิณ และยิ่งลักษณ์ ชินวัตร บิดาและอาของนายกรัฐมนตรีไทยคนปัจจุบัน โดยอนุญาตให้พำนักอยู่ในกัมพูชาได้
เมื่อเช้าวันที่ 20 มิถุนายน หลังจากได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นจากผู้นำและประชาชนกัมพูชา หลวงตาสุจได้เผยแพร่คลิปวิดีโอแสดงความขอบคุณต่อประชาชนและรัฐบาลกัมพูชา
“อาตมาขอคารวะคณะสงฆ์และราชอาณาจักรกัมพูชาด้วยความเคารพอย่างสูง อาตมาขออวยพรให้รัฐบาลกัมพูชา ประชาชน และพุทธศาสนิกชน ไม่ว่าจะเป็นชาวเขมรหรือชาวต่างชาติ อาตมาพระอาจารย์สุจขอขอบคุณรัฐบาลกัมพูชาที่ให้การต้อนรับข้าพเจ้าอย่างอบอุ่นและอนุญาตให้อาตมาเดินทางเข้าสู่กัมพูชาได้อย่างปลอดภัย”
หลวงตาสุจสัญญาว่าจะอุทิศชีวิตเพื่อพระมหากษัตริย์กัมพูชาและแผ่นดินของกัมพูชา และขออวยพรให้รัฐบาลและประชาชนมีสันติสุขและเจริญรุ่งเรือง
สำหรับหลวงตาสุจ หรือ พระมหานรินธร ปสนฺโน อายุ 60 ปี เป็นพระนักเทศน์สายฮาชื่อดังแห่งอีสานใต้ พื้นเพพ่อแม่เป็นคนสุรินทร์แต่ไปเกิดที่บุรีรัมย์ ปัจจุบันจำพรรษาอยู่ที่วัดป่าโคกคฤห์ ต.ป่าชัน อ.พลับพลาชัย จ.บุรีรัมย์
หลังเกิดเหตุขัดแย้งไทย-กัมพูชา หลวงตาสุจได้ไลฟ์เป็นภาษาเขมรว่า ตนเกลียดคนสุรินทร์ เพราะมีปัญหากับเขมรที่ปราสาทตาเมือนธม พร้อมบอกให้ทหารกัมพูชายิง คนสุรินทร์ให้ตายหมด ตนสบายใจ ไม่เอาคนสุรินทร์ ตายหมดก็ดี ซึ่งทำให้ชาวบ้านเข้ามาตำหนิเป็นจำนวนมาก นอกจากนี้ หลวงตาสุจยังได้ส่งสิ่งของไปช่วยเหลือทหารกัมพูชา หลังจากนั้นได้ไลฟ์ด่าสาปแช่งคนสุรินทร์
มีรายงานอีกว่า หลวงตาสุจเคยบวชอยู่ จ.สุรินทร์หลายวัด แต่มีปัญหากับทุกวัด จนหนีไปอยู่บุรีรัมย์และโด่งดังที่นั่น หลังจากนั้นดังไปถึงกัมพูชา เพราะการเทศน์ที่สนุกสนานพูดไทยปนเขมร ชาวบ้านชอบ จึงได้รับกิจนิมนต์ไปเขมรบ่อยมาก และได้รับการยกย่องจนหลงตัวเองว่ารู้จักกับพระชั้นผู้ใหญ่ของเขมร
เมื่อหลงชื่อเสียงเพราะดังในเขมร พอกลับมาไทยก็เริ่มเปลี่ยน ไปเทศน์สาย เจ้าภาพโทร.ตามก็โวยวายและเทงาน ยกเลิกไม่ยอมไปดื้อๆ บางงานได้รับซองน้อยก็โวยวาย ชอบไปอยู่เขมรเพราะโดนอวยเยอะ รู้จักคนใหญ่โต ตอนนี้ไปอยู่วัดเขมรที่แคนาดา มีข่าวว่าได้พาสปอร์ตเขมรแล้ว และขอกลับไปอยู่กัมพูชา
นอกจากนี้ มีรายงานว่าสาเหตุที่แท้จริงที่หลวงตาสุจด่าชาวสุรินทร์ มาจากเคยมีปัญหากับพระผู้ใหญ่ที่จังหวัดสุรินทร์ที่สั่งให้หลวงตาสุจออกจากอุทยานพนมสวาย จ.สุรินทร์ เพราะไปตั้งสถานธรรมอยู่ในเขตอุทยาน จึงย้ายจากสุรินทร์มาอยู่ที่ อ.พลับพลาชัย จ.บุรีรัมย์ และในช่วงนี้เกิดความขัดแย้งแนวชายแดนระหว่างไทยกับกัมพูชาพอดี