สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ NIA เตรียมจัดงาน “Startup x Innovation Thailand Expo 2025 (SITE 2025)” เวทีที่รวมพลังนวัตกรรมและสตาร์ทอัพที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ระหว่างวันที่ 4-6 กรกฎาคม 2568 ณ พารากอนฮอลล์ ชั้น 5 ศูนย์การค้าสยามพารากอน ภายใต้แนวคิด “Global Innovation Partnership - AI & Sustainability: The Next Era of Innovation” งานปีนี้จะเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการไทยได้เชื่อมต่อโดยตรงกับเครือข่ายนานาชาติจาก 10 ประเทศพันธมิตร ครอบคลุมทั้งญี่ปุ่น เกาหลี ฮ่องกง สิงคโปร์ เช็ก ฮังการี ฟินแลนด์ สวิตเซอร์แลนด์ กาตาร์และชิลี พร้อมการสนับสนุนจากกว่า 100 หน่วยงาน ทั้งในและต่างประเทศ
ไฮไลต์ของ SITE 2025 ได้แก่ Global Forum, 100 Startup Pitching, 30+ Business Matching Sessions และ 300 บูทนิทรรศการนวัตกรรม ที่เปิดโอกาสให้ทุกภาคส่วนในระบบนวัตกรรม ตั้งแต่ผู้พัฒนาเทคโนโลยี นักลงทุน นักวิจัย ภาครัฐ ไปจนถึงเยาวชนและนิสิตนักศึกษา ได้มีส่วนร่วมในเวทีที่ขับเคลื่อนอนาคตร่วมกัน
โดยวันนี้ (19 มิ.ย.) ดร.กริชผกา บุญเฟื่อง ผู้อำนวยการสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ NIA กล่าวว่า “SITE 2025 เป็นมากกว่างานมหกรรม แต่คือพื้นที่ที่ทำให้ความร่วมมือระดับโลกเกิดขึ้นจริงในรูปแบบที่ลึก ครอบคลุม และมีเป้าหมายร่วมกัน ผ่านเทคโนโลยี AI และแนวทางความยั่งยืนที่กำลังเป็นแกนกลางของเศรษฐกิจโลก เพื่อให้เกิดผลลัพธ์เชิงรูปธรรม ทั้งด้านธุรกิจ การลงทุน และนโยบายนวัตกรรม ในปีนี้ NIA ได้ออกแบบกิจกรรมภายในงานให้เป็นมากกว่าการจัดแสดงเทคโนโลยี โดยจะประกอบด้วย เวทีสัมมนา กว่า 30 หัวข้อ ครอบคลุมทุกมิติของนวัตกรรมโลกบน 3 เวทีหลัก ได้แก่ Main Stage ที่เปรียบเสมือน "หัวใจ" ของงาน รวบรวมฟอรั่มระดับนานาชาติจากผู้นำความคิดระดับโลก ถ่ายทอดวิสัยทัศน์แห่งอนาคต พร้อมอัปเดตเทรนด์ล่าสุดด้าน Global Innovation Partnership, AI และ Sustainability จากทั้งภาครัฐ เอกชนและองค์กรระหว่างประเทศ ต่อเนื่องด้วย Global Stage ซึ่งเป็นเวทีเจาะลึกเชิงนโยบายและยุทธศาสตร์ มุ่งวิเคราะห์โอกาส ความท้าทาย และแนวทางเชื่อมโยงนวัตกรรมเข้าสู่ตลาดโลก และสุดท้ายกับ Pitch Stage พื้นที่เฉพาะสำหรับสตาร์ทอัะไทยและต่างชาติที่จะได้โชว์ไอเดีย ผลักดันเทคโนโลยี และต่อยอดธุรกิจต่อหน้านักลงทุนจากทั่วโลก โดยไฮไลต์ของเวทีนี้คือ การแข่งขัน Startup Thailand League รอบชิงชนะเลิศระดับประเทศ และการนำเสนอผลงานใน 100 Startup Pitching ซึ่งครอบคลุมเทคโนโลยีมาแรงอย่าง AI, Deep Tech และนวัตกรรมเพื่อความยั่งยืน
พร้อมกันนี้ ภายในงานยังมีนิทรรศการจากกว่า 300 สตาร์ตอัปและองค์กรนวัตกรรมชั้นนำที่จะนำผลงานจริง เทคโนโลยีต้นแบบและโซลูชันที่พร้อมขยายสู่ตลาดมาจัดแสดงให้สัมผัสแบบใกล้ชิด รวมถึงกิจกรรม Business Matching กว่า 30 รอบ ที่เปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการได้พบกับนักลงทุน เจ้าของเทคโนโลยี และพันธมิตรจากทั้งในและต่างประเทศแบบเจาะลึก และ Prime Minister Awards รางวัลเกียรติยศระดับประเทศ ที่จะยกย่ององค์กร สตาร์ตอัป และความร่วมมือด้านนวัตกรรมที่สร้างความเปลี่ยนแปลงได้อย่างเป็นรูปธรรม ทั้งในระดับประเทศและระดับสากล
ดร.กริชผกา กล่าวทิ้งท้ายว่า “NIA ขอเชิญทุกคนที่มีหัวใจแห่งการสร้างสรรค์ ไม่ว่าจะเป็นนวัตกร นักลงทุน ผู้ประกอบการ นักศึกษา หรือผู้ที่กำลังมองหาโอกาสใหม่ ๆ มาร่วมเป็นส่วนหนึ่งของ SITE 2025 เพราะนี่คือเวทีที่คุณจะได้เชื่อมโยงกับผู้เล่นระดับโลก อัปเดตเทรนด์อนาคต และสร้างความเปลี่ยนแปลงที่มีความหมายร่วมกัน อีกทั้งยังเป็นโอกาสสำคัญในการร่วมขับเคลื่อนประเทศไทยให้ก้าวไปพร้อมโลก ผ่านยุทธศาสตร์ Groom - Grant - Growth - Global อย่างเป็นรูปธรรม”
รวมถึงกิจกรรม Business Matching กว่า 30 รอบ ที่เปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการได้พบกับนักลงทุน เจ้าของเทคโนโลยี
นอกจากนี้ ในงานแถลงข่าวยังมีช่วงเสวนาพิเศษหัวข้อ “Accelerating Innovation Through Global Partnerships” ซึ่งสะท้อนความร่วมมือจากหลากหลายภาคส่วนเพื่อขับเคลื่อนนวัตกรรมไทยสู่เวทีโลก โดยในมุมของภาครัฐ นายปริวรรต วงษ์สำราญ รองผู้อำนวยการด้านระบบนวัตกรรม NIA กล่าวว่า “นวัตกรรมยุคนี้ไม่มีเส้นแบ่งประเทศอีกต่อไป สิ่งที่ NIA กำลังทำ ไม่ใช่แค่ส่งเสริมผู้ประกอบการให้มีโอกาส แต่คือการวางรากฐานของระบบนิเวศที่ ‘เชื่อมไทยกับโลก’ อย่างเป็นรูปธรรม ผ่านความร่วมมือกับพันธมิตรในยุโรปและเอเชีย เราไม่ได้มองแค่นวัตกรรมที่เกิดขึ้นในวันนี้ แต่กำลังสร้างโครงสร้างที่เอื้อต่อการเติบโตระยะยาว เพื่อให้สตาร์ตอัปไทยเติบโตได้ไกลขึ้น อย่างยั่งยืนกว่าเดิม” ด้าน นางสาลินี ผลประไพ รองอธิบดีกรมเศรษฐกิจระหว่างประเทศ กล่าวว่า ปัจจุบันนวัตกรรมเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย กระทรวงการต่างประเทศจึงเร่งผลักดันสตาร์ตอัปไทยสู่เวทีโลก ผ่านเครือข่ายสถานเอกอัครราชทูตและสถานกงสุลใหญ่ 98 แห่งทั่วโลก รวมทั้งร่วมมือกับหน่วยงานพันธมิตรทั้งในและต่างประเทศ เช่น NIA BOI EEC depa และกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ ในการจัดกิจกรรมส่งเสริมการลงทุน การเจรจาการค้า การเปิดตลาดและการจับคู่ธุรกิจ พร้อมกันนี้ ยังมีนโยบายวีซ่าเพื่อดึงดูดผู้มีศักยภาพจากต่างประเทศเข้ามาเสริมระบบนิเวศนวัตกรรมในไทยอย่างเป็นระบบ
ในฝั่งของภาคเอกชนและสมาคมธุรกิจนวัตกรรม นายธนพงษ์ ณ ระนอง นายกสมาคมไทยผู้ประกอบการธุรกิจเงินร่วมลงทุน (TVCA) เน้นย้ำว่า “Global Partnership คือหัวใจของการลงทุนยุคใหม่ เพราะช่วยเพิ่มโอกาสในการขยายธุรกิจและสร้างการ Exit ที่มีมูลค่าสูงขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่ม AI และ Deep Tech ที่กำลังได้รับความสนใจจากนักลงทุนทั่วโลก นักลงทุนสมัยนี้มองหาสตาร์ทอัพที่สามารถเชื่อมต่อกับเครือข่ายโลกได้จริง” ขณะที่ นายธนวิชญ์ ต้นกันยา นายกสมาคมการค้าสตาร์ทอัพไทย (TSA) กล่าวถึงความพร้อมของสตาร์ทอัพไทยว่า “วันนี้สตาร์ทอัพไทยต้องกล้าฝันใหญ่ เปิดรับมุมมองใหม่จากนานาชาติ และพัฒนาทักษะ Pitching ที่ตอบโจทย์นักลงทุน ซึ่ง SITE 2025 ถือเป็นสนามจริงในการทดลอง เชื่อมต่อ และต่อยอดเครือข่ายระดับสากล”
ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการเปลี่ยนแปลงระดับโลก พร้อมพบกับผู้คิด ผู้สร้างและผู้ลงทุนในระบบนวัตกรรมโลกได้ที่ SITE 2025
ระหว่างวันที่ 4-6 กรกฎาคม 2568 ณ พารากอน ฮอลล์ ชั้น 5 ศูนย์การค้าสยามพารากอน
เข้าร่วมฟรี! ไม่มีค่าใช้จ่าย ลงทะเบียนได้ที่: https://site.nia.or.th
ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ทาง Facebook: NIA Thailand