กระทรวงกลาโหมกัมพูชาออกแถลงการณ์ กล่าวหาไทยไม่ทำตามผลประชุม JBC ละเมิด MOU 2543 บินโดรน ขุดสนามเพลาะ ระดมอาวุธ เสริมกำลังตามแนวชายแดน เป็ยภัยคุกคามต่อความมั่นคง ลั่นจะไม่ยอมให้รุกรานเด็ดขาด พร้อมปกป้องดินแดนไม่ว่าจะแลกด้วยอะไรก็ตาม
วันนี้ (17 มิ.ย.) กระทรวงกลาโหมกัมพูชาได้ออกแถลงการณ์ มีใจความว่า กระทรวงกลาโหมมีเกียรติที่จะแจ้งให้สาธารณชน สื่อมวลชนในประเทศและต่างประเทศทราบถึงความคืบหน้าล่าสุดของสถานการณ์บริเวณชายแดนกัมพูชา-ไทย ดังนี้
กัมพูชาตั้งใจที่จะรักษาสันติภาพและคงจุดยืนในการแก้ไขปัญหาชายแดนกับฝ่ายไทยผ่านศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ICJ) กรณีปราสาทตาเมือนธม ปราสาทตาเมือนโต๊ด ปราสาทตาควาย และพื้นที่สามเหลี่ยมมรกต ด้วยสันติวิธีและความรับผิดชอบสูง
ในการนี้ กัมพูชาได้จัดการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม (JBC) ในวันที่ 14-15 มิถุนายน 2568 และได้ตกลงกันในภารกิจที่ฝ่ายกัมพูชา-ไทยต้องปฏิบัติ
น่าเสียดายที่ฝ่ายไทยไม่เคารพข้อตกลงดังกล่าวและยังเพิ่มการกระทำที่ละเมิดอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของกัมพูชา ซึ่งขัดต่อบันทึกความเข้าใจปี 2000 (MOU 2000)
ฝ่ายไทยได้เพิ่มกิจกรรมปล่อยโดรน ขุดสนามเพลาะ เพิ่มและระดมอาวุธสนับสนุนทุกประเภท สร้างโครงสร้างพื้นฐาน และเพิ่มจำนวนทหารตามแนวชายแดนด้านจังหวัดพระวิหารและอุดรมีชัย ซึ่งเป็นภัยคุกคามร้ายแรงต่อสันติภาพและความมั่นคงของทั้งสองประเทศ
กองทัพกัมพูชาสนับสนุนจุดยืนของรัฐบาลกัมพูชาในการแก้ไขข้อพิพาทตามกฎหมายระหว่างประเทศและโดยสันติ และรักษาจุดยืนที่มั่นคงทั้งกองทัพและประชาชนทั่วประเทศ โดยเคารพอธิปไตยของประเทศเพื่อนบ้าน และมุ่งมั่นที่จะเปลี่ยนพื้นที่ชายแดนให้เป็นพื้นที่สันติ แต่ไม่อนุญาตให้มีการรุกรานจากประเทศใดๆ โดยเด็ดขาด และมุ่งมั่นที่จะปกป้องบูรณภาพแห่งดินแดนไม่ว่าจะต้องแลกด้วยอะไรก็ตาม
จากข้อมูลข้างต้น จึงขอให้ประชาชน นักข่าวทั้งในประเทศและต่างประเทศรับทราบ