กัมพูชาแสบปิดด่านบ้านแหลม ฉวยโอกาสฤดูผลไม้จันทบุรีส่งออกเวียดนาม สกัดรถบรรทุกติดค้างจำนวนมาก หวังผู้ประกอบการกดดันรัฐบาลไทยเปิดด่านปกติ ด้านฝ่ายความมั่นคงชงทำหนังสือประท้วงฟ้องนานาชาติ ทำเกินกว่าเหตุ
เมื่อวันที่ 13 มิ.ย.68 ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้า จากกรณีกัมพูชาปิดด่านถาวรบ้านช่องโด่ง จังหวัดพระตะบอง ที่เชื่อมกับด่านถาวรบ้านแหลม ต.เทพนิมิต อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี โดยเป็นการปิดเส้นทางหลัก ไม่ให้รถยนต์ รถบรรทุกขนส่งสินค้าของไทยผ่านด่านดังกล่าว ส่งผลให้ติดอยู่ฝั่งกัมพูชา ส่วนรถบรรทุกคนกัมพูชาข้ามมาซื้อของฝั่งไทยข้ามกลับไปฝั่งกัมพูชาไม่ได้เช่นกัน
โดยสถานการณ์ล่าสุด มีรายงานรถกะบะ รถบรรทุก รถจักรยานพ่วงข้าง ของคนกัมพูชา เข้ามาซื้อผลไม้ ผัก ฝั่งไทยนำไปขายต่อให้เวียดนามยังติดอยู่ที่ฝั่งไทย ส่วนรถบรรทุกคนไทยติดฝั่งกัมพูชายังไม่ทราบจำนวน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในทุกวันศุกร์จะมีการขนส่งสินค้าจากฝั่งไทยข้ามไปฝั่งกัมพูชา โดยกัมพูชาได้ใช้จังหวะที่รถบรรทุกของสองประเทศข้ามด่านไปแล้วปิดด่าน หวังให้สินค้าผลไม้ ผักของไทยได้รับความเสียหายโดยไม่จำเป็นต้องได้รับการชดเชย
ด้านเจ้าหน้าที่ความมั่นคง เตรียมเสนอรัฐบาลทำหนังสือประท้วงกัมพูชาต่อนานาชาติ ฐานดำเนินการสร้างความเดือดร้อนให้ประชาชนทั้งสองฝ่ายที่ไม่เกี่ยวข้องกับการพิพาทระหว่างรัฐกับรัฐ ซึ่งการกระทำดังกล่าวไม่สมเหตุสมผลและเกินความจำเป็น ต่อสถานการณ์ของระดับความขัดแย้งปัจจุบัน
ด้านพาณิชย์จังหวัดจันทบุรี พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สำนักงานฯ ได้ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์บริเวณด่านบ้านแหลม อ. โป่งน้ำร้อน จ. จันทบุรี พบว่า
1. มีการปิดด่านในฝั่งกัมพูชา โดยห้ามรถยนต์เข้า-ออก แต่บุคคลทั่วไปสามารถเดินทางเข้า-ออก ได้
2. ร้านค้าบริเวณหน้าด่านปิดเกือบทั้งหมด ทำให้สถานการณ์ค้าขายบริเวณหน้าด่านเงียบเหงา
3. จากการปิดด่านดังกล่าว ทำให้มีรถสินค้าติดค้างอยู่ฝั่งไทยประมาณ 120 คัน โดยเป็นรถขนสินค้าอุปโภคบริโภคทั่วไป และรถขนส่งผลไม้
การปิดด่านดังกล่าว ได้รับแจ้งว่า เป็นไปตามคำสั่งรัฐบาลกัมพูชา ที่ต้องการกดดันนักธุรกิจไทยให้นำเสนอหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแก้ปัญหาที่ลดเวลาการปิด-เปิดด่าน โดยทางฝั่งกัมพูชาทราบดีว่า จังหวัดจันทบุรีระบายสินค้าผลไม้ออกทางด่านบ้านแหลมไปกัมพูชาและเวียดนามเป็นจำนวนมากในช่วงเวลานี้
สำนักงานฯ ได้ประชาสัมพันธ์แจ้งไปยังผู้ส่งออกว่า อาจต้องไปใช้ด่านอื่นไปพลางก่อน ในการส่งสินค้าจากจันทบุรี เช่น ด่านบ้านผักกาด หรือ จุดผ่อนปรนทางการค้าบ้านซับตารี
ล่าสุด พล.ร.ต.ปารัช รัตนไชยพันธ์ รองโฆษกกองทัพเรือ กล่าวว่า สืบเนื่องจากการปิดด่านฝั่งกัมพูชา ส่งผลให้มีรถขนส่งสินค้าค้างอยู่ที่ด่านเป็นจำนวนมาก ค้างอยู่ฝั่งไทยประมาณ 150 คัน ค้างอยู่ฝั่งกัมพูชาประมาณ 70 คัน ทั้งนี้ กองบัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด (กปช.จต.) ได้เร่งรัดประสานงานกับฝั่งกัมพูชาขอให้เปิดด่าน ระบายรถที่ตกค้างของทั้งทั้งสองฝั่ง เพื่อให้ประชาชนเกิดความเดือดร้อน
ต่อมาเมื่อเวลา 17.00 น. ฝั่งกัมพูชาได้เปิดประตูเพื่อระบายรถขนส่งสินค้าทั้งสองฝั่งแล้ว ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ประจำด่าน ได้เข้าช่วยอำนวยความสะดวกดังกล่าวเพื่อให้เกิดความรวดเร็วในการผ่านแดน
