หลัง “กัมพูชา” สั่งห้ามฉายและนำเข้าละคร-ภาพยนตร์ไทยทั้งหมด อ้างเหตุผลด้านความมั่นคง พร้อมเตรียมนำละครชีวประวัติ "สมเด็จฮุน เซน" เรื่อง 'ลูกชายใต้แสงจันทร์วันเพ็ญ' เข้าฉายแทนผังรายการเดิมที่เป็นของไทย ซึ่งละครดังกล่าวเป็นเรื่องราวชีวประวัติของสมเด็จอัครมหาเสนาบดีเดโช ฮุน เซน และบุน รานี โดยจะถ่ายทอดเส้นทางการต่อสู้เพื่อกอบกู้ประเทศจากระบอบเขมรแดง และการนำพากัมพูชาสู่ความเจริญรุ่งเรือง
จากกรณีกระทรวงสารสนเทศเขมรออกประกาศห้ามฉายละครไทยทางทีวีตั้งแต่เที่ยงคืน 12 มิ.ย.ที่ผ่านมา อ้างเพื่อความมั่นคง ส่วนกระทรวงวัฒนธรรมก็สั่งห้ามนำเข้าหนังไทย-ฉายหนังไทยในโรงหนังทุกแห่ง มีผลเที่ยงวันนี้ (13 มิ.ย.) เขมรเตรียมฉายละครชีวประวัติ "ฮุน เซน" แย่งผังละครไทย
ล่าสุดในวันเดียวกันนี้ (13 มิ.ย.) มีรายงานว่าสถานีโทรทัศน์แห่งชาติกัมพูชา (TVK) เตรียมฉายละครโทรทัศน์ชีวประวัติของสมเด็จอัครมหาเสนาบดีเดโช ฮุน เซน ภายใต้ชื่อเรื่อง 'ลูกชายใต้แสงจันทร์วันเพ็ญ'
โดยจะเข้ามาแทนที่ผังรายการเดิมซึ่งเป็นละครจากประเทศไทย ละครเรื่องนี้จะบอกเล่าเรื่องราวชีวิตของ สมเด็จฮุน เซน และบุน รานี ตั้งแต่เส้นทางการต่อสู้เพื่อกอบกู้ประเทศจากระบอบเขมรแดง ไปจนถึงการนำพากัมพูชาไปสู่ความเจริญรุ่งเรืองในฐานะผู้นำประเทศ
สำหรับละครเรื่อง "ลูกชายใต้คืนวันเพ็ญ" เคยถูกเขียนเป็นบทละครพูดและออกอากาศทางวิทยุ Bayon ซึ่งได้รับความนิยมอย่างมากจากประชาชนชาวกัมพูชาทั่วประเทศ และเป็นหนึ่งในเรื่องที่ได้รับความนิยมสูงสุด แม้เนื้อเรื่องจะเป็นนวนิยาย แต่ก็อิงจากเหตุการณ์จริงในชีวิตของสมเด็จฮุนเซน
เนื้อเรื่องเริ่มต้นจากฮุนเซนสร้างครอบครัวในช่วงเวลาที่ประเทศชาติอยู่ในยุคแห่งความวุ่นวาย เผชิญกับสงครามและยุคฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ เช่นเดียวกับประชาชนชาวกัมพูชาทั่วไป ครอบครัวของฮุนเซน และบุน รานี ภรรยาต้องสูญเสียลูกชายที่เพิ่งเกิด และจากการตัดสินใจอันเด็ดเดี่ยวของฮุน เซนที่ยอมเอาชีวิตเป็นเดิมพันช่วยประเทศชาติ ทำให้ครอบครัวต้องพลัดพรากอีกครั้ง แต่ผลที่ตามมาคือการปลดปล่อยประเทศจากระบอบเขมรแดงอันโหดร้ายเมื่อวันที่ 7 มกราคม 2522
ละครเรื่องนี้ ถือเป็นส่วนหนึ่งของสื่อโฆษณาชวนเชื่อที่ช่วยให้ฮุนเซนยังคงครองอำนาจในกัมพูชามาจนปัจจุบัน โดยละครได้สร้างภาพว่าฮุนเซนเป็นผู้นำที่ยิ่งใหญ่ สามารถนำพากัมพูชาให้รอดพ้นจากหายนะของสงครามกลางเมืองด้วยการปราบเขมรแดงสำเร็จ ทั้งที่ฮุนเซนเองก็เคยเป็นส่วนหนึ่งของเขมรแดง ก่อนที่จะแยกตัวออกมาแล้วไปร่วมกับฝ่ายต่อต้านเขมรแดงในเวียดนาม และกลับมาโค่นล้มเขมรแดงในปี 2522