ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ ราชบัณฑิตและผู้เชี่ยวชาญด้านไวรัสวิทยาคลินิกจากจุฬาฯ โพสต์ข้อความเน้นย้ำถึงความสำคัญของจริยธรรมทางการแพทย์ที่อยู่เหนือกว่ากฎหมาย ยกตัวอย่างการคัดลอกผลงานและการขอใบรับรองแพทย์ที่ไม่เป็นจริง ชี้ชัดคุณธรรมและความซื่อสัตย์คือหัวใจของการประกอบวิชาชีพและเป็นสิ่งที่ทุกคนควรยึดมั่น
วันนี้ (13 มิ.ย.) ยง ภู่วรวรรณ ราชบัณฑิต สำนักวิทยาศาสตร์ ศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้ออกมาโพสต์ข้อความ ระบุจริยธรรมอยู่สูงกว่ากฎหมาย โดยได้ระบุข้อความว่า
“ในแวดวงการแพทย์ การสอนเรื่องคุณธรรมและจริยธรรมเป็นรากฐานสำคัญที่แพทย์ทุกคนต้องยึดถือปฏิบัติ โดยหลักการทั่วไปแล้ว จริยธรรมมักอยู่เหนือกว่าข้อบังคับทางกฎหมายเสมอ
ความผิดทางจริยธรรมมีทั้งที่ผิดกฎหมายและไม่ผิดกฎหมาย ตัวอย่างเช่น การคัดลอกผลงานของผู้อื่นโดยทำให้เข้าใจผิดว่าเป็นของตนเอง หากผลงานนั้นมีลิขสิทธิ์ ย่อมมีความผิดทางกฎหมายอย่างแน่นอน แต่หากผลงานนั้นหมดลิขสิทธิ์หรือเป็นสมบัติสาธารณะ การกระทำดังกล่าวก็ยังคงผิดจริยธรรม หากไม่ระบุแหล่งที่มาหรืออ้างอิงให้ชัดเจน เพื่อให้ผู้อื่นเข้าใจผิดว่าเป็นผลงานของตน เช่น การคัดลอกบทกลอนของสุนทรภู่โดยไม่ให้เครดิต แม้สุนทรภู่หรือทายาทอาจไม่สามารถฟ้องร้องตามกฎหมายได้ แต่การกระทำดังกล่าวก็ยังคงผิดจริยธรรมอย่างชัดเจน
ด้วยเหตุนี้ วงการแพทย์จึงให้ความสำคัญต่อเรื่องจริยธรรมเป็นอย่างมาก แพทย์ทุกคนต้องเผชิญกับสถานการณ์ที่ต้องตัดสินใจบนพื้นฐานของจริยธรรมอยู่เสมอ ดังเช่นกรณีที่ผู้ป่วยท้องเสียซึ่งอาการสามารถรักษาหายได้ภายในหนึ่งถึงสองวัน แต่กลับขอใบรับรองแพทย์เพื่อหยุดงานเป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์ ในสถานการณ์เช่นนี้ แม้ผู้ป่วยจะเป็นญาติสนิทหรือผู้มีพระคุณ แพทย์ก็ไม่สามารถกระทำการตามคำขอได้โดยเด็ดขาด เพราะทุกการกระทำต้องอยู่บนพื้นฐานของความจริงและยึดมั่นในหลักวิชาชีพเป็นสำคัญ
อันที่จริงแล้ว คุณธรรมและความซื่อสัตย์เป็นสิ่งที่ทุกคนควรยึดมั่น ไม่ใช่เพียงแค่บุคลากรทางการแพทย์เท่านั้น”