xs
xsm
sm
md
lg

ทางเลือกที่ไม่มีใครอยากเจอ "ใส่ท่อ-เจาะคอ-ปั๊มหัวใจ" ไม่ใช่แค่ยื้อชีวิต แต่คือการเลือก 'คุณภาพชีวิต' ในวาระสุดท้าย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



"ใส่ท่อ-เจาะคอ-ปั๊มหัวใจ" สามคำที่ลูกทุกคนไม่อยากได้ยิน! นพ.เก่งพงศ์ ตั้งอรุณสันติ อายุรแพทย์ผู้ดูแลผู้สูงวัยในภาวะวิกฤต ได้ออกมาไขข้อข้องใจถึงหัตถการสำคัญเหล่านี้ พร้อมแนะทางเลือก "การดูแลแบบประคับประคอง" เพื่อให้พ่อแม่จากไปอย่างสงบและมีคุณภาพชีวิตที่ดีที่สุดในวาระสุดท้าย พร้อมเป็นกำลังใจให้ทุกครอบครัวที่กำลังเผชิญหน้ากับการตัดสินใจครั้งสำคัญนี้

เมื่อวันที่ 11 มิ.ย. นพ.เก่งพงศ์ ตั้งอรุณสันติ อายุรแพทย์ผู้ดูแลผู้สูงวัยในภาวะวิกฤต ได้ออกมาเขียนบทความเพื่อให้ข้อมูลและเป็นกำลังใจแก่ทุกครอบครัวที่กำลังเผชิญทางแยกอันแสนยากลำบาก โดยได้ระบุข้อความว่า

"ใส่ท่อ เจาะคอ ปั๊มหัวใจ ไม่มีลูกหลานคนไหนอยากได้ยิน หรืออยากเห็นภาพเหล่านี้เกิดขึ้นกับพ่อแม่ของตัวเอง แต่ในชีวิตจริง

บางครั้งมันก็มาเร็วและมาแบบไม่ทันตั้งตัว" หมอเก่งกล่าวถึงความรู้สึกของลูกทุกคนที่ต้องเลือกว่าจะ "ทำ" หรือ "ไม่ทำ" หัตถการที่อาจเปลี่ยนคุณภาพชีวิตของพ่อแม่ไปตลอดกาล ทำความเข้าใจหัตถการสำคัญ หมอเก่งได้อธิบายถึงหัตถการหลักๆ ที่มักถูกพิจารณาในภาวะวิกฤตของผู้สูงอายุ:
1. ใส่ท่อช่วยหายใจ (Intubation)
เหมาะสำหรับ: ภาวะระบบหายใจล้มเหลวเฉียบพลัน เช่น หัวใจวาย ปอดบวมน้ำ หรือการติดเชื้อรุนแรง
ข้อดี: ช่วยชีวิตได้ในภาวะวิกฤต และใช้ในระยะสั้นเพื่อให้ร่างกายฟื้นตัว
ข้อเสีย: ผู้ป่วยไม่สามารถพูดได้ อาจต้องใช้ยานอนหลับ หากอาการไม่ดีขึ้นใน 7-14 วัน อาจต้อง "เจาะคอ" และในผู้ป่วยระยะท้ายหรือโรคเรื้อรัง อาจเป็นการยื้อเพียงร่าง แต่ไม่ใช่คุณภาพชีวิต
คำถามสำคัญ: "ถ้าท่านฟื้นแล้วต้องนอน ICU ต่อ จะรับได้หรือไม่?"
2. เจาะคอ (Tracheostomy)

เหมาะสำหรับ: ผู้ป่วยที่ใส่ท่อช่วยหายใจเกิน 1-2 สัปดาห์ หรือผู้ที่ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจระยะยาว

ข้อดี: ผู้ป่วยหายใจได้สบายขึ้นกว่าการใส่ท่อผ่านปาก และทำความสะอาดเสมหะได้ง่าย

ข้อเสีย: เป็นแผลถาวรที่ต้องดูแลตลอดชีวิต สื่อสารลำบาก และมีโอกาสติดเชื้อสูงหากดูแลไม่ดี

คำถามสำคัญ: "หากต้องมีท่อที่คอตลอดชีวิต จะยอมรับได้ไหม?"

3. ปั๊มหัวใจ (CPR-Cardiopulmonary Resuscitation)

เหมาะสำหรับ: กรณีหัวใจหยุดเต้นกะทันหัน

ข้อดี: มีโอกาสรอดในบางกลุ่ม เช่น คนอายุน้อย หรือโรคเฉียบพลันที่รักษาได้

ข้อเสีย: ในผู้สูงอายุ โรคเรื้อรัง หรือมะเร็งระยะท้าย โอกาสรอดต่ำมาก (น้อยกว่า 5%) และหากรอดชีวิต อาจกลายเป็นผู้ป่วยติดเตียง หรือพิการถาวร รวมถึงอาจเกิดภาวะแทรกซ้อน เช่น กระดูกซี่โครงหัก หรือเลือดออกในปอด ซึ่งเจ็บปวดมาก

คำถามสำคัญ: "ถ้าท่านกลับมาได้ แต่ไม่รู้สึกตัวอีกเลย ครอบครัวจะยอมรับได้หรือไม่?"

หมอเก่งย้ำว่ายังมีอีกทางเลือกที่สำคัญ นั่นคือ "การดูแลแบบประคับประคอง" หรือ Palliative Care ซึ่งเป็นแนวทางที่ไม่เน้นการยื้อชีวิต แต่ให้ความสำคัญต่อการให้ผู้ป่วย "มีชีวิตอย่างมีคุณภาพ" ลดความเจ็บปวดให้มากที่สุด สงบที่สุด และจากไปอย่างสมศักดิ์ศรีที่สุด

สำหรับผู้ป่วยมะเร็งระยะสุดท้าย หัวใจล้มเหลวเรื้อรัง หรือสมองเสื่อมรุนแรง การเลือก "ไม่ใส่ท่อ ไม่เจาะคอ ไม่ปั๊มหัวใจ" ไม่ใช่การทอดทิ้ง แต่คือการ "ให้ท่านพักอย่างสง่างาม"

ทางออกคือ "คุณภาพชีวิตที่ดีที่สุด"

"หมออยากบอกลูกหลานทุกคนว่า...คุณไม่ได้ต้องเลือกว่าจะ 'ให้ตาย' หรือ 'ให้รอด' แต่คุณต้องเลือกว่าจะ 'ให้ท่านมีคุณภาพชีวิตที่ดีที่สุด...จนถึงวินาทีสุดท้าย'" หมอเก่งให้ข้อคิด พร้อมเน้นย้ำว่า ไม่มีคำว่า "ผิด" ถ้าการตัดสินใจนั้นเกิดจากความรัก ความเข้าใจ และข้อมูลที่ครบถ้วน ท้ายที่สุดแล้ว ปลายทางของชีวิตไม่ใช่เครื่องช่วยหายใจ แต่คือ "ความสงบ" และ "ความรัก" ที่เรามอบให้กัน

"ขอส่งใจให้ทุกบ้านที่ต้องตัดสินใจเรื่องเหล่านี้ หมอเข้าใจ...มันไม่ง่ายเลย แต่คุณไม่ได้เดินลำพัง"
กำลังโหลดความคิดเห็น