xs
xsm
sm
md
lg

วิกฤตลุ่มน้ำเหนือ!! พบปลาติดเชื้อหนัก-สารพิษเกินมาตรฐาน ชาวประมงโอดวอนรัฐเร่งแก้ปัญหา

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เพจ “สมาคมแม่น้ำเพื่อชีวิต” รายงานสถานการณ์วิกฤตปลาป่วยในลุ่มน้ำเหนือ ชาวประมงในพื้นที่โอดได้รับความเดือดร้อนหนัก เร่งรัฐแก้ไขปัญหาดังกล่าว

เมื่อวันที่ 10 มิ.ย. เพจ “สมาคมแม่น้ำเพื่อชีวิต” ได้เผยภาพปลาจากสถานการณ์วิกฤตปลาป่วยในลุ่มน้ำทางภาคเหนือของไทยซึ่งพบการแพร่กระจายของปลาติดเชื้อเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยเฉพาะในแม่น้ำกก แม่น้ำโขง และแม่น้ำสาขาอื่นๆ สร้างความเดือดร้อนอย่างสาหัสให้ชาวประมงพื้นบ้าน และเรียกร้องให้รัฐบาลเร่งแก้ปัญหาดังกล่าว

โดยทางเพจรายงานว่า “ปลาป่วย! สารพิษในน้ำเกินมาตรฐาน : ชาวประมงเดือดร้อนหนัก วอนรัฐเร่งแก้ปัญหา
..........................................................................................................
10 มิถุนายน 2568

พบปลาติดเชื้อรุนแรงขึ้น วันนี้ทางสมาคมแม่น้ำเพื่อชีวิตได้พบปลาแข้ติดเชื้อตัวใหม่ ที่ชาวประมงแม่น้ำกกจับได้ โทร.ประสานให้มารับตัวอย่างไปศึกษา จากการติดตามสถานการณ์ปลาในลุ่มน้ำโขงเหนือของทางสมาคมแม่น้ำเพื่อชีวิตยังพบปลาติดเชื้อกระจายเพิ่มมากขึ้น ในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมาได้พบว่าจำนวนปลาที่ผิดปกติมีเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ในแม่น้ำกก และแม่น้ำโขง และมีตุ่มตามตัวที่รุนแรงขึ้น ทั้งแม่น้ำกก แม่น้ำสาย แม่น้ำรวก รวมถึงแม่น้ำโขง จนส่งผลต่อความเชื่อมั่นของชุมชนในจังหวัดเชียงราย ได้สร้างผลกระทบเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะชาวประมงริมแม่น้ำกกได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงจากกรณีการปนเปื้อนสารพิษในแม่น้ำ หลังจากพบว่าค่าน้ำมีสารปนเปื้อนเกินมาตรฐาน แม้ผลการตรวจสอบสารโลหะหนักในตัวปลายังไม่เกินเกณฑ์ จากผลตรวจห้องปฏิบัติการกลางจังหวัดเชียงใหม่ ส่งตรวจโดยกรมประมง ทั้ง 3 ครั้ง คือ

ครั้งที่ 1 วันที่ 11 เมษายน 2568 หลังฝายเชียงราย พบสารหนู 0.013 mg/kg สารปรอท (Hg) 0.09 mg/kg
ครั้งที่ 2 วันที่ 28 เมษายน 2568 แม่น้ำโขงอำเภอเชียงแสน พบสารปรอท (Hg) 0.14 mg/ kg สารตะกั่ว (pb) 0.05 mg/kg
ครั้งที่ 3 วันที่ 1-2 พฤษภาคม 2568 จุดที่ 1 โป่งนาคำ พบปลากินเนื้อ มีสารปรอท (Hg) 0.054 mg/ kg สารตะกั่ว (pb) 0.11 mg/kg
จุดที่ 2 ฝายเชียงราย ตัวอย่างปลากินเนื้อ พบมีสารปรอท (Hg) 0.089 mg/ kg
จุดที่ 3 บริเวณแม่น้ำกก ตำบลเวียง อำเภอเชียงแสน ตัวอย่างปลากินเนื้อ พบมีสารปรอท (Hg) 0.13 mg/ kg

ข่าวสารการพบปลาติดเชื้อ และผลตรวจสารปนเปื้อนได้สร้างความกังวลและส่งผลต่อความเชื่อมั่นของผู้บริโภคทำให้ชาวบ้านไม่สามารถจำหน่ายปลาได้ตามปกติ รายได้หดหายอย่างต่อเนื่อง

“ปัญหาแม่น้ำมีสารพิษ อยากให้รัฐบาลหรือหน่วยงานเข้ามาช่วยชาวประมงเราเดือดร้อนกันทุกคนเลย แม่ค้าที่มารับซื้อปลาเขาไม่ซื้อเลยตอนนี้เขาปิดโทรศัพท์หนีไม่ยอมซื้อปลา พบปลาติดเชื้อในปลากดและปลาแข้ตัวขนาดเล็ก ชาวบ้านสบคำทุกหลังคาหากินกับแม่น้ำ ทั้งในแม่น้ำคำ แม่น้ำกก และแม่น้ำโขง น้ำรวกก็เข้าไปหา รวมถึงข้ามเขตแดนไปหาปลาทางฝั่งลาวก็มี เพราะชาวบ้านต้องอาศัยทำมาหากินอยู่กับแม่น้ำ ต้องอาศัยพึ่งพาแม่น้ำ ถ้าไม่มีแม่น้ำก็ไม่มีอาหารการกิน ผลกระทบตอนนี้ไม่มีใครมาซื้อปลาเลย แม่ค้าก็ไม่มีเลย อยากให้หน่วยงานมาช่วยเหลือ ตอนนี้ชาวประมงต้องไปหาจับปลาในหนอง ในหลง ตอนนี้อยากให้ผู้หลักผู้ใหญ่เข้ามาดูแลพัฒนาแหล่งน้ำ หรือนำปลามาปล่อยให้ชาวบ้านได้มีปลากิน ได้บริโภค ได้มีแหล่งอาหารสำรองแทนปลาในแม่น้ำสายหลัก”

นายบุญสุข สุวรรณดี ชาวประมงบ้านสบคำ ตำบลเวียง อำเภอเชียงแสน จังหวัดเชียงราย ให้สัมภาษณ์ด้วยความกังวล พร้อมระบุว่าหลังเกิดเหตุการณ์ รายได้จากการประมงลดลงจนแทบไม่มีเหลือ
ด้านสมาคมแม่น้ำเพื่อชีวิตได้เร่งลงพื้นที่รวบรวมข้อมูลผลกระทบและหาแนวทางช่วยเหลือชาวประมงท้องถิ่นที่ได้รับผลกระทบ รวมถึงการเก็บรวบรวมตัวอย่างปลาจากหลายจุดตลอดลำน้ำกก และแม่น้ำโขงเพื่อเก็บตัวอย่างปลาให้ครอบคลุมพื้นที่ ติดตามสถานการณ์ปลาในแม่น้ำอย่างต่อเนื่อง และเตรียมนำปลาตัวอย่างส่งตรวจสอบในเชิงวิทยาศาสตร์ต่อไป เป็นหลักฐานเพื่อเรียกร้องการเจรจาปิดเหมืองที่คาดว่าเป็นต้นตอของการปล่อยสารพิษลงสู่แม่น้ำ พร้อมสนับสนุนข้อมูล ผลักดันให้รัฐบาลเปิดการเจรจาเพื่อ “ปิดเหมือง” ดังกล่าวอย่างถาวร

ด้านนายสมเกียรติ เขื่อนเชียงสา นายกสมาคมแม่น้ำเพื่อชีวิต ได้กล่าวถึงแนวทางการติดตามเรื่องสถานการณ์ผลกระทบต่อปลาติดเชื้อว่า
“สถานการณ์ปลา ณ ตอนนี้เราก็ยังพบปลาที่มีลักษณะการติดเชื้ออยู่ เราได้ติดตามเพื่อนำปลาไปตรวจ หากพบว่าปลาที่พบมีสารพิษในตัวปลาก็สันนิษฐานได้ว่ามาจากเหมือง ตอนนี้สถานการณ์ปลาได้กระจายไปถึงแม่น้ำโขงแล้ว ตอนนี้เราพบปลาที่มีความผิดปกติภายนอก หลังจากนี้เราจะส่งเข้าสู่กระบวนการทางวิทยาศาสตร์เพื่อหาสาเหตุและการวิเคราะห์สารปนเปื้อน ตอนนี้ทั้งลุ่มน้ำโขงเหนือยืนยันได้แล้วว่ามีการปนเปื้อนสารโลหะหนัก ข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ก็จะนำไปเป็นข้อมูลพื้นฐานในอนาคต ในการเรียกร้องปิดเหมือง”

ปัญหานี้ไม่ใช่แค่เรื่องปลาหรือชาวประมง แต่เป็นเรื่องของสิ่งแวดล้อมและความมั่นคงทางอาหารของประชาชนในระยะยาว เราต้องการเห็นความรับผิดชอบจากต้นตอของปัญหา ไม่ใช่เพียงแค่คำอธิบายว่า ยังไม่เกินมาตรฐาน’ขณะนี้ยังไม่มีท่าทีจากหน่วยงานรัฐต่อข้อเรียกร้องดังกล่าวอย่างชัดเจน แต่กระแสกดดันจากภาคประชาชนและองค์กรสิ่งแวดล้อมกำลังเพิ่มสูงขึ้น โดยเรียกร้องให้รัฐบาลดำเนินการตรวจสอบอย่างโปร่งใส และพิจารณาทางเลือกในการปิดเหมืองที่สร้างผลกระทบต่อชุมชนและสิ่งแวดล้อมอย่างรุนแรง“



กำลังโหลดความคิดเห็น