สาวสวยได้เผยอุทาหรณ์หลังตนเองไปฉีดฟิลเลอร์ทั่วหน้าเพราะอยากสวย แต่กลับแพ้ฟิลเลอร์อย่างหนัก ทำให้ปากมีอาการบวมมาก อาการปวดแสบปวดร้อนทรมาน ย้ำเป็นเพราะร่างกายตัวเอง สุดท้ายฉีดยาฆ่าเชื้อและฉีดสลาย
วันนี้ (9 มิ.ย.) ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งได้เผยประสบการณ์เพื่อเป็นอุทาหรณ์จากการทำสวยด้วยการฉีดฟิลเลอร์แต่กลับมีอาการแพ้อย่างหนักทำให้เกิดอาการบวมแบบปวดแสบปวดร้อนทรมาน โดยระบุข้อความว่า “ผ่านมา 2 ปีอยากมาแชร์ประสบการณ์ ชีวิตเกือบพังเพราะอยากสวย หมอไม่ผิด คลินิกไม่ผิด เป็นที่ร่างกายเราที่แพ้เอง แพ้ฟิลเลอร์หนักมาก เสียทั้งเงิน ทั้งเวลา
ครั้งแรกฉีดฟิลเลอร์คาง 1 cc บวมแต่คิดว่าแพ้ปกติ ครั้งที่สองฉีดฟิลเลอร์ 4 cc
คาง 1 cc ร่องแก้ม 2 cc ปาก 1cc ย้ำฉีดปากแค่ 1 cc แต่ร่างกายแพ้หนักมาก
ตามรูปคือแย่มากปากบวมแบบปวดแสบปวดร้อนทรมานมาก
ตอนนั้นคิดคำเดียวในใจคือ กูไม่น่าเล้ย กูทำไปทำไม วันถัดไปหมอก็นัดไปฉีดยาฆ่าเชื้อและฉีดสลาย ไปติดต่อกัน 5 วัน ใช้เวลา 1 อาทิตย์กว่าจะยุบ และใช้เวลา 2 อาทิตย์ถึงจะได้หน้าเดิมกลับมาแต่ก็รู้สึกไม่เหมือนเดิม 100% คือผิวมันตึงมันพังไปแล้ว
ใครจะทำหัตถการใดๆ ก็เช็กร่างกายตัวเองดีๆ ว่ามีอาการแพ้ไหม ไม่งั้นอาจจะเจอตัวเองเวอร์ชันแบบนี้ได้ แต่สุดท้ายแล้วผู้หญิงทุกคนอยากสวย ทุกวันนี้คืองดฟิลเลอร์ตลอดไป กลัว55555 แต่ก็ยังอยากสวยเหมือนเดิม จบ
ปล. มาแชร์ไว้เป็นกรณีศึกษานะคะ หากใครเจอเหตุการณ์แบบนี้คำแนะนำคืออย่าเพื่งไปปรึกษาเพื่อนหรือใครๆ หาหมอรักษาให้หายก่อนค่ะ เพราะถ้าบอกเพื่อนหรือคนรอบข้างเราจะยิ่งจิตตกค่ะ
เคสเราคือแรกๆ ก็ด่าหมอ ด่าคลินิก จนสุดท้ายมารู้ว่าตัวเรานั่นแหละที่แพ้เอง เพราะเราฉีด 2 ครั้ง คนละคลินิก คนละหมอ ส่วนยี่ห้อฟิลเลอร์ ม่วง ดำ ทอง เราลองมา 3 ตัว แพ้ทุกตัวค่ะ เพราะฉะนั้นเราไม่โจมตีตัวยานะคะ ของแบบนี้แล้วแต่บุคคลจริงๆ
ปล.2 ช่วงนี้คือมีคนทักว่าเติมฟิลเลอร์สิ แก้มตอบ อยากบอกว่าอยากเติมใจจะขาดแย้วค่า แต่มันบ่ได้"