ตลาดไท ตลาดกลางค้าส่งสินค้าเกษตรครบวงจรใหญ่ที่สุดในอาเซียน เปิด “ตลาดกลางวัตถุดิบสมุนไพร” แห่งแรกของประเทศ บนพื้นที่กว่า 5,500 ตารางเมตร รองรับปริมาณสินค้ากว่า 57,600 ตันต่อปี ตั้งเป้าเชื่อมโยงห่วงโซ่อุปทาน ส่งเสริมระบบนิเวศการค้าสมุนไพรจากต้นน้ำถึงปลายน้ำ ชูคุณภาพและความครบครัน ทั้งสมุนไพรสด เครื่องเทศ เครื่องปรุงรส ผักพื้นบ้าน สมุนไพรวัตถุดิบอาหาร และสมุนไพรแห้ง เจาะกลุ่มผู้ประกอบการทุกระดับ คาดสร้างมูลค่าการค้ากว่า 6,000 ล้านบาทต่อปี พร้อมผนึกกำลังกระทรวงสาธารณสุข และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ลงนาม MOU เดินหน้ายกระดับสร้างมาตรฐานสมุนไพรคุณภาพ รองรับความต้องการของตลาดทั้งในและต่างประเทศ
สำหรับการจัดงานเปิด “ตลาดกลางวัตถุดิบสมุนไพร” ในครั้งนี้ได้รับเกียรติจาก นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ขึ้นกล่าวถึงแนวนโยบายเรื่อง “การพัฒนาสมุนไพรไทยเพื่อสร้างความเข้มแข็งทางสุขภาพและเศรษฐกิจ และ นายอิทธิ ศิริลัทธยากร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้ขึ้นกล่าวนโยบายเรื่อง “การยกระดับคุณภาพวัตถุดิบสมุนไพรไทยให้ได้มาตรฐาน เพื่อเข้าสู่ตลาดกลางวัตถุดิบสมุนไพร” โดยมี นายประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ ประธานกิตติคุณ บริษัท ไทย แอ็กโกร เอ็กซเชนจ์ จำกัด (ตลาดไท) คณะผู้บริหารกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ผู้บริหารจังหวัดปทุมธานี ผู้แทนหน่วยงานภาครัฐ เอกชน ตลอดจนเกษตรกร ผู้ค้า ผู้ประกอบการ เข้าร่วมในพิธีเปิด ณ ตลาดไท ซอย 13-16 ตลาดผักและสมุนไพร 2
นางสาววรามาศ ภัทรประสิทธิ์ ผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ไทย แอ็กโกร เอ็กซเชนจ์ จำกัด ผู้บริหารตลาดไท กล่าวว่า จากการขยายตัวของตลาดสมุนไพรที่มีอัตราการเติบโตมาอย่างต่อเนื่อง ตลาดไท ในฐานะตลาดค้าส่งที่สำคัญของประเทศ จึงได้เปิดพื้นที่กว่า 5,500 ตารางเมตรให้เป็น ตลาดกลางวัตถุดิบสมุนไพร เพื่อให้เป็นศูนย์กลางวัตถุดิบสมุนไพรคุณภาพแห่งแรกของประเทศไทย ที่มุ่งสร้างโอกาสและเชื่อมโยงเกษตรกร ผู้ค้า ผู้ประกอบการ และผู้ซื้อ ในการรวบรวม ซื้อขาย และกระจายสินค้าสมุนไพรคุณภาพออกสู่ตลาด ครอบคลุมทั้งสมุนไพรสด เครื่องเทศสด สมุนไพรพื้นบ้าน ตลอดจนสมุนไพรแห้ง รองรับความต้องการของกลุ่มผู้ประกอบการทั้งกลุ่มโรงงานอุตสาหกรรมน้ำพริก โรงงานอาหารกระป๋อง กลุ่มโมเดิร์นเทรด ร้านอาหาร ธุรกิจสปา การแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ผู้ค้าตลาดสดทั่วประเทศ ผู้ประกอบการส่งออกสมุนไพรไทยไปยังตลาดต่างประเทศ เช่น ฮ่องกง ดูไบ ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ อินเดีย จีน และกลุ่มประเทศยุโรป เป็นต้น
การเปิดตลาดกลางวัตถุดิบสมุนไพรของตลาดไทในครั้งนี้ นับเป็นการสานต่อยุทธศาสตร์การขับเคลื่อนวัตถุดิบสมุนไพรในแผนปฏิบัติการด้านสมุนไพรแห่งชาติ ฉบับที่ 2 ในการสร้างตลาดกลางวัตถุดิบสมุนไพรที่มีคุณภาพและได้มาตรฐาน ตั้งแต่ปี 2563 ตลาดไทได้ร่วมกับกระทรวงสาธารณสุข และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ สนับสนุนพื้นที่ให้แก่เกษตรกรเข้ามาจำหน่ายพืชผัก ผลไม้ สมุนไพรสดและเครื่องเทศสด ยกระดับวัตถุดิบให้มีคุณภาพ โดยกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือกช่วยตรวจวิเคราะห์โลหะหนักและสารสำคัญในสินค้า เช่น ขมิ้นชัน ตะไคร้ ใบบัวบก ใบมะกรูด ข่า กระชาย ใบชะพลู ฯลฯ นอกจากนี้ ยังให้การสนับสนุนการพัฒนามาตรฐานการผลิตสินค้า GAP เกษตรอินทรีย์ เพื่อรองรับกลุ่มธุรกิจสำหรับการแพทย์ทางเลือก เช่น ธุรกิจสปา ธุรกิจเวชสำอาง ธุรกิจสมุนไพรและอาหารเสริม คลินิกแพทย์แผนไทย แพทย์แผนจีน การแพทย์ทางเลือก อีกด้วย
ในโอกาสเปิดตลาดกลางวัตถุดิบสมุนไพร ของตลาดไทในครั้งนี้ มีพิธีลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) ระหว่างกระทรวงสาธารณสุข กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และตลาดไท ร่วมดำเนินการในแบบพหุภาคีตามบทบาทหน้าที่ของแต่ละหน่วยงาน อำนวยความสะดวก ร่วมกันพัฒนาสมุนไพรไทยในมิติต่างๆ เช่น กระทรวงสาธารณสุขรับภารกิจสร้างความเชื่อมั่นให้ผู้บริโภคในการเข้าถึงวัตถุดิบสมุนไพรที่มีคุณภาพและมาตรฐาน กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เป็นผู้ประสาน สนับสนุนให้เกษตรกรนำสมุนไพรทั้งที่เป็นวัตถุดิบสด วัตถุดิบแห้งและผลิตภัณฑ์สมุนไพรมาจำหน่ายที่ตลาดกลางสมุนไพร ขณะที่ ตลาดไท รับบทบาทในการพัฒนาตลาดค้าส่งสมุนไพร ให้ได้มาตรฐานตรงต่อความต้องการของเกษตรกรและผู้ประกอบการ เป็นต้น
“การเปิดตลาดกลางวัตถุดิบสมุนไพรแห่งแรกของประเทศไทยที่ตลาดไท รวมถึงการลงนาม MOU ในครั้งนี้ จะเป็นก้าวสำคัญของการขับเคลื่อนสร้างความยั่งยืนให้แก่ธุรกิจสมุนไพรของประเทศไทยได้อย่างเป็นรูปธรรม” นางสาววรามาศกล่าวปิดท้าย
