แม่ของเด็กหญิงวัย 8 เดือน เตือนเหล่าผู้ปกครอง หลังลูกสาวพบป่วยด้วย "โรคตาวาว"หรือ "มะเร็งที่จอประสาทตา“ เนื่องจากดวงตาข้างหนึงมีลักษณะวาวคล้ายตาแมว แม่ใช้แฟลชถ่ายรูปยิ่งเห็นชัด
วันนี้ (9 มิ.ย.) ผู้ใช้เฟซบุ๊ก “วิริดา คูรัมย์“ ได้โพสต์อุทาหรณ์ หลังมีเด็กหญิงวัย 8 เดือน ตรวจพบเจอโรคมะเร็งที่จอประสาทตาจากการตอนแฟลชโทรศัพท์ โดยระบุว่า ”ตอนแฟลชโทรศัพท์ช่วยชีวิตน้องน้องฟินตรวจเจอตอนอายุ 8 เดือนคะ
โรคนี้เรียกง่ายๆคือ "โรคตาวาว"หรือ "มะเร็งที่จอประสาทตา“ อาการของโรคนี้อาจไม่แสดงออกชัดเจน แต่สามารถสังเกตุได้ถ้าเป็นไม่เยอะ จะดูปกติมากๆ
เริ่มเรื่องเลยแล้วกัน แม่เริ่มสังเกตุเห็นตาน้องไม่เหมือนกัน ตาข้างซ้ายของน้องจะมีอาการวาว หรือเหมือนตาแมวเวลาโดนแสงสะท้อน เลยพูดบอกพ่อของน้อง แล้วก็ให้พี่สาวเค้าช่วยดูว่าเห็นเหมือนแม่ไหม หลังจากนั้นเราก็หาข้อมูล ในโซเชียลฯ พอหาข้อมูลเจออย่างละเอียดหัวใจแทบแตกสลาย แล้วแม่ก็เริ่มใช้แฟลชถ่ายรูปลูกดู แล้วก็ได้ภาพตามนี้ ซึ่งมันตรงกับข้อมูลที่เรารับรู้มา คืนนั้นคือนอนไม่หลับเลย
รีบพาลูกไปตรวจที่โรงพยาบาล หลังจากที่ตรวจแล้วสิ่งที่เจอคือน้องมีเนื้องอกในตาข้างซ้ายจริงๆ หมอก็เล่าอาการว่าน้องมีก้อนเนื้อที่จอตา ซึ่งอาจจะเป็นเนื้อร้าย (ตอนแรกหมอไม่ได้พูดตรงๆ เพราะกลัวทำใจไม่ได้ และคุณหมอก็บอกว่า ต้องส่งตัวไปรักษาที่ กทม. ระบุให้ไปที่โรงพยาบาลรามาธิบดี ตอนนั้นช็อกกันทั้งพ่อทั้งแม่ 😭 และหลังจากที่เราไปทำการรักษาที่โรงบาลรามาฯ ก็เกิดเหตุการณ์หลายอย่างเจอทั้งแผ่นดินไหว ประสบอุบัติเหตุ
แล้วก็โดนเลื่อนการทำเอ็มอาร์ไอไปสามรอบ โดนเลื่อนการตรวจตราในห้องผ่าตัดไปสองรอบ ต้องนอนที่โรงพยาบาลเป็นเวลา 10 วัน เพื่อที่จะตรวจตา แต่เราก็ผ่านมาได้ ผลการตรวจของน้องคือมีอยู่หนึ่งก้อนตาข้างซ้าย ก้อนขนาดกลางยังไม่ลุกลามไปที่ตาขวา หรือขึ้นสมองหรือส่วนอื่นของร่างกาย ครั้งแรกที่ไปหาหมอหมอบอกให้เราทำใจว่าถ้าน้องเป็นเยอะต้องเอาลูกตาน้องออก 😭คำนี้บีบหัวใจแม่มาก
พอผลตรวจออกมาจากเอ็มอาร์ไอและห้องผ่าตัด ก็คือน้องไม่ต้องเอาตาออกแต่ต้องให้เคมีบำบัดเพื่อที่จะให้ก้อนเนื้อยุบลง แม่ก็ใจชื้นขึ้นมาก และน้องก็ให้ยามาครบสองรอบแล้ว เนื้องอกยุบลงไปมาก ตอนนี้น้องก็ปกติเหมือนเดิมทุกอย่าง กินปกติ นอนปกติ เล่นดื้อปกติ ยังไม่มีอาการทรมานใดๆ แสดงออกมาเลย
โรคนี้จะเกิดกับเด็กอายุตั้งแต่แรกเกิด - 5 ขวบเกิดจากการเจริญเติบโตของยีนที่ตาผิดปกติ โรคนี้จะไม่พบในเด็กโต ฝากพ่อแม่ทุกคนด้วยนะคะมันเป็นโรคที่เราไม่คุ้นกับมันบางคนแทบไม่เคยได้ยินด้วยซ้ำแต่มันสามารถเกิดขึ้นได้กับเด็กทุกคน พบได้เร็วการรักษาให้หายก็จะยิ่งมีโอกาสสูง เผื่อบุญกุศลในการเฝ้าระวังโรคนี้กับเด็กคนอื่นจะทำให้ฟารินผ่านการรักษาไปได้ด้วยดี”