อย.แนะนำผู้บริโภคตรวจสอบข้อมูลให้ชัดเจนก่อนเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ที่มีวิตามินซี หลังพบว่าบางผลิตภัณฑ์มีปริมาณวิตามินซีไม่เป็นไปตามเงื่อนไข โดยบนฉลากต้องมีปริมาณถึง 15 มก. จึงจะเคลมสรรพคุณสุขภาพได้
วันนี้ (9 มิ.ย.) เภสัชกร เลิศชาย เลิศวุฒิ รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา เปิดเผยว่า ปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์หลากหลายประเภทในท้องตลาดทั้งที่เติมวิตามินซีลงไป และมีวิตามินซีโดยธรรมชาติ เช่น ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร น้ำผลไม้ เครื่องดื่มต่างๆ เยลลีผสมวิตามินซี ซึ่งมักมีการกล่าวอ้างหรือโฆษณาสรรพคุณ คุณประโยชน์ในด้านช่วยต้านอนุมูลอิสระ หรือเสริมภูมิคุ้มกัน เป็นต้น ซึ่งตามประกาศกระทรวงสาธารณสุขฉบับที่ 447 พ.ศ. 2566 เรื่อง การกล่าวอ้างทางสุขภาพของอาหารบนฉลาก กำหนดว่าอาหารที่จะแสดงข้อความกล่าวอ้างทางสุขภาพ ต้องปลอดภัย มีคุณภาพมาตรฐานเป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด และต้องมีส่วนประกอบของอาหาร สารอาหาร หรือสารอื่น อยู่ในรูปแบบและปริมาณที่มีนัยสำคัญที่เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพด้านโภชนาการหรือสรีรวิทยา
กรณีวิตามินซีจะต้องมีปริมาณอย่างน้อย 15% ของร้อยละค่าอ้างอิงสารอาหารต่อวันของคนไทย (Thai Recommended Daily Intake; Thai RDI) คิดเป็นไม่ต่ำกว่า 15 มิลลิกรัมต่อหนึ่งหน่วยบริโภค (serving) หรือต่อ 100 กรัม (แล้วแต่กรณี) จึงจะสามารถแสดงข้อความกล่าวอ้างทางสุขภาพได้ ตัวอย่างเช่น น้ำผลไม้ 1 กล่อง (200 มล.) ถ้ามีวิตามินซี 15 มก.สามารถแสดงข้อความว่า "เป็นแหล่งของวิตามินซี" และแสดงข้อความกล่าวอ้างทางสุขภาพ เช่น “วิตามินซีมีส่วนช่วยในการปกป้องเซลล์จากอนุมูลอิสระ” วิตามินซีมีส่วนช่วยในการสร้างคอลลาเจนเพื่อการทำงานตามปกติของกระดูก” “วิตามินซีมีส่วนช่วยในการสร้างคอลลาเจนเพื่อการทำงานตามปกติของเหงือก” ได้ ดังนั้น ข้อความดังกล่าวจึงเป็นจุดสังเกตในการเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ที่ดีต่อสุขภาพ
ทั้งนี้ อย.ขอย้ำว่าการบริโภคอาหารให้หลากหลาย ครบ 5 หมู่ในสัดส่วนที่เหมาะสมและออกกำลังกายเป็นประจำยังคงเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการดูแลสุขภาพในระยะยาว พร้อมเตือนให้ผู้บริโภคอย่าหลงเชื่อคำโฆษณาที่เกินจริงโดยไม่ตรวจสอบข้อมูลให้ชัดเจนก่อนตัดสินใจซื้อ หากผู้บริโภคพบผลิตภัณฑ์ที่น่าสงสัย สามารถสอบถาม หรือแจ้งร้องเรียนได้ที่สายด่วน อย. 1556 หรือผ่าน Line@FDAThai, Facebook : FDAThai หรือ E-mail : 1556@fda.moph.go.th ตู้ ปณ. 1556 ปณฝ. กระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี 11004 หรือสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดทั่วประเทศ
คลิก>>>อ่านโพสต์ต้นฉบับ