xs
xsm
sm
md
lg

เขมรเบี้ยว! ถก JBC 14 มิ.ย.ไม่คุยปมชายแดนกับไทย อ้างเตรียมขึ้นศาลโลกแล้ว

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



รัฐบาลกัมพูชาออกแถลงการณ์ จะไม่นำประเด็นขัดแย้งเรื่องพื้นที่ช่องบก และปราสาท 3 แห่งตามแนวชายแดนกับไทย เข้าวาระประชุม JBC ที่กรุงพนมเปญ วันที่ 14 มิ.ย.นี้ อ้างกำลังเตรียมนำขึ้นศาลโลก

วันนี้(5 มิ.ย.) เมือเวลา 06.08 น.เพจ The Phnom Penh Post สื่อมวลชนกัมพูชา โพสต์ข้อความว่า กัมพูชาจะไม่เจรจาทาวิภาคีกับไทยเกี่ยวกับพื้นที่พิพาทตามแนวชายแดน

รัฐบาลกัมพูชาชี้แจงว่า เนื่องจากกัมพูชาตั้งใจที่จะนำประเด็นต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับพื้นที่พิพาท 4 แห่ง ได้แก่ ปราสาทตาเมือนธม ปราสาทตาเมือนโต๊ด ปราสาทตาควาย และพื้นที่สามเหลี่ยมมรกต (ช่องบก) ขึ้นสู่การพิจารณาของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ICJ) จึงจะไม่นำประเด็นเหล่านี้ไปหารือในการเจรจาทวิภาคีกับไทยในวันที่ 14 มิถุนายนที่จะถึงนี้

ในแถลงการณ์เดียวกันซึ่งเผยแพร่เมื่อคืนที่ผ่านมา รัฐบาลได้เรียกร้องให้ชาวกัมพูชาทุกคนแสดงความยับยั้งชั่งใจและหลีกเลี่ยงความรู้สึกชาตินิยมอย่างโจ่งแจ้ง

ทั้งนี้ แถลงการณ์ของรัฐบาลกัมพูชาเมื่อคืนที่ผ่านมา ระบุว่า กัมพูชาจะยังเป็นเจ้าภาพจัดประชุม JBC กับไทย ในวันที่ 14 มิ.ย.นี้ ที่กรุงพนมเปญ แต่จะไม่มีการนำกรณีพิพาทพื้นที่ 4 จุดดังกล่าวเข้าสู่การเจรจา เนื่องจากกำลังเตรียมนำขึ้นฟ้องต่อศาลโลก

อย่างไรก็ตาม ในการแถลงข่าวที่ทำเนียบรัฐฐาล เมื่อวานนี้(4 มิ.ย.) น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ไทยจะใช้กลไกคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม (JBC) ที่จะประชุมในวันที่ 14 มิถุนายนนี้ เพื่อหาข้อยุติเรื่องเขตแดนกับกัมพูชา

เช่นเดียวกับนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และ รมว.กลาโหมที่บอกว่าได้พูดคุยกับทางกัมพูชา และนายกฯ ไทยได้คุยกับนายกฯ กัมพูชา ตนก็พูดคุยกับรองนายกฯ กัมพูชา ทุกฝ่ายยอมรับแล้วว่าในวันที่ 14 มิ.ย. 2568 จะมีการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม (JBC) เขตแดนไทย - กัมพูชา ที่กรุงพนมเปญ แต่หากการประชุมในครั้งนี้หาข้อยุติไม่ได้ก็ต้องดูว่ามีกลไกอะไรอีก

แถลงการณ์ของรัฐบาลกัมพูชา ยืนยันจะไม่นำเรื่องข้อขัดแย้งพื้นที่ช่องบกและปราสาท 3 แห่ง  กับไทย ในการประชุม JBC ที่พนมเปญ วันที่ 14 มิ.ย.นี้


คำแปล


แถลงการณ์ของรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรกัมพูชา


รัฐบาลแห่งราชอาณาจักรกัมพูชา (RGC) ดำเนินนโยบายต่างประเทศที่ยึดหลักสันติภาพ มิตรภาพ และความร่วมมือระหว่างประเทศต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับประเทศเพื่อนบ้านซึ่งเรามีพรมแดนร่วมกันซึ่งเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมาในช่วงอาณานิคมฝรั่งเศส


นับตั้งแต่ได้รับเอกราช ยกเว้นในยุคการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ของเขมรแดง กัมพูชายังคงยืนหยัดอย่างมั่นคงในพันธสัญญาที่จะเปลี่ยนพื้นที่พรมแดนร่วมเหล่านี้ให้กลายเป็นเขตแห่งสันติภาพ มิตรภาพ ความร่วมมือ และการพัฒนา ถึงแม้ว่าเส้นทางเดินดังกล่าวจะมีอุปสรรคขวากหนาม แต่กัมพูชายังคงให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหาชายแดนอย่างสันติ แม้ว่าจะต้องเผชิญกับความตึงเครียดในบางโอกาสและการสูญเสียชีวิตอย่างน่าเสียดายของทหารหาญของเราที่ยืนหยัดปกป้องอธิปไตยของชาติและบูรณภาพแห่งดินแดน


ความมุ่งมั่นอย่างไม่ลดละของ RGC ในการแก้ไขปัญหาอย่างสันตินั้นเห็นได้จากการดำเนินการในอดีต ซึ่งรวมถึงการส่งเรื่องข้อพิพาทไปยังศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ICJ) ซึ่งตัดสินให้กัมพูชาชนะคดีในปี 2505 และอีกครั้งในปี 2556 ในข้อพิพาทเรื่องพรมแดนระหว่างเรากับไทย การกระทำเหล่านี้สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นอย่างลึกซึ้งของเราต่อกฎหมายระหว่างประเทศและการแก้ไขปัญหาอย่างสันติ


เป็นที่น่าเสียดาย เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 28 พฤษภาคม 2568 เวลาประมาณ 05:30 น. ได้เกิดเหตุการณ์ปะทะกันด้วยอาวุธขึ้นเมื่อกองทัพไทยเปิดฉากยิงใส่ฐานทัพของกัมพูชาในหมู่บ้านเตโชมรกต ตำบลมรกต อำเภอจอมกระสานต์ จังหวัดพระวิหาร ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ได้รับการยอมรับมานานว่าเป็นที่ตั้งของฐานทหารกัมพูชา การปะทะกันครั้งนี้ส่งผลให้ทหารกัมพูชาเสียชีวิต 1 นายอย่างน่าเศร้าสลด


RGC ได้ยื่นคำร้องประท้วงอย่างเป็นทางการต่อการใช้กำลังทั้งที่ไม่มีการยั่วยุ ซึ่งถือเป็นการละเมิดอำนาจอธิปไตย บูรณภาพแห่งดินแดน และหลักการของความเป็นเพื่อนบ้านที่ดีตามที่ระบุไว้ในบันทึกความเข้าใจ (MOU) ปี 2543 ระหว่างสองประเทศ


เหตุการณ์นี้เป็นหนึ่งในเหตุการณ์ที่น่ากังวลหลายประการที่เน้นย้ำถึงข้อจำกัดของกลไกการแก้ไขข้อพิพาทในปัจจุบันในการแก้ไขข้อขัดแย้งที่มีมายาวนานตามแนวชายแดนร่วมของเรา เมื่อคำนึงถึงเรื่องนี้ และเพื่อนำไปสู่แนวทางแก้ไขปัญหาที่ยุติธรรม เป็นกลาง และยั่งยืน เมื่อวันที่ 2 มิถุนายน 2568 RGC จึงได้ตัดสินใจส่งข้อพิพาทในพื้นที่อ่อนไหว 4 แห่ง ได้แก่มุมไบ(สามเหลี่ยมมรกตหรือช่องบก) ปราสาทตาเมือนธม ปราสาทตาเมือนโต๊ด ปราสาทตาควาย ต่อศาลยุติธรรมระหว่างประเทศในกรุงเฮก ซึ่งพื้นที่ทั้ง 4 แห่งนี้ยังคงมีความอ่อนไหวและไม่ได้รับการแก้ไขมาเป็นเวลานาน โดยอาจเพิ่มความตึงเครียดขึ้นได้หากไม่ได้รับการแก้ไข


การตัดสินใจครั้งนี้ได้รับการสนับสนุนเป็นเอกฉันท์จากการประชุมที่ประชุมร่วมครั้งที่ 1 ของสมัชชาแห่งชาติและวุฒิสภากัมพูชาในวันเดียวกัน


ในขณะที่ดำเนินการหาข้อยุติทางกฎหมายที่ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ กัมพูชายังคงยึดมั่นแนงทางการเจรจาและการทูต กัมพูชาจะยังคงร่วมมือในกรอบทวิภาคีที่มีอยู่ และจะเป็นเจ้าภาพการประชุมคณะกรรมาธิการร่วมว่าด้วยการกำหนดเขตแดนทางบก (JBC) ครั้งต่อไปในวันที่ 14 มิถุนายน 2025 ที่กรุงพนมเปญ อย่างไรก็ตาม เมื่อมีการส่งเรื่องขึ้นสู่ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ พื้นที่ทั้ง 4 ที่กล่าวถึงข้างต้นจะไม่รวมอยู่ในวาระการประชุม JBC ครั้งนี้


กัมพูชาหวังว่าประเทศไทยจะให้ความร่วมมือในการยื่นเรื่องนี้ไปยังศาลยุติธรรมระหว่างประเทศร่วมกัน โดยคำนึงถึงความยุติธรรม การสร้างความไว้วางใจ มิตรภาพระยะยาว และความเป็นเพื่อนบ้านที่ดี อย่างไรก็ตาม หากไม่สามารถให้ความร่วมมือได้ กัมพูชาก็พร้อมที่จะดำเนินการเรื่องนี้เพียงฝ่ายเดียว


รัฐบาลกัมพูชาเรียกร้องให้ชาวกัมพูชาทุกคนแสดงออกต่อประเด็นนี้ด้วยความสงบและอดทน และอย่าให้กลายเป็นเรื่องของความรู้สึกทางเชื้อชาติหรือชาตินิยม เราเน้นย้ำถึงความสำคัญของการรักษาความสัมพันธ์ปกติกับประเทศไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านการค้า การท่องเที่ยว และความร่วมมือในวงกว้าง เพื่อประโยชน์ร่วมกันของประชาชนของเรา


พนมเปญ, 4 มิถุนายน 2025


กำลังโหลดความคิดเห็น