แม่ของเหยื่อสาววัย 15 ปีเผยต่อสื่อสิงคโปร์ ถึงอุบายของนักแสดงหนุ่ม "เอียน ฟาง เหวยจี้" ล่อลวงลูกสาว ยอมวิ่งไปซื้อชานมไข่มุกพิสูจน์ใจ สักลายรอยจูบที่ไหล่ บังคับให้ใส่หน้ากากและแว่นกันแดด แถมซื้ออาหารแช่แข็งแล้วแสร้งเป็นทำกับข้าว บอกอาหารนั้นทำให้สำหรับเธอ พบเจ้าตัวจะต้องรับโทษจำคุก 40 เดือน 16 มิ.ย.นี้
วันนี้ (1 มิ.ย.) ที่ประเทศสิงคโปร์ แม่ของเยาวชนหญิงอายุ 15 ปีที่ตกเป็นเหยื่อนายเอียน ฟาง เหวยจี้ (Ian Fang Weijie) อดีตนักแสดงค่ายมีเดียคอร์ป (Mediacorp) สัญชาติจีน วัย 35 ปี ให้สัมภาษณ์ต่อ เว็บไซต์ 8Days ของสิงคโปร์ เมื่อวันที่ 27 พ.ค.ที่ผ่านมา หลังนายฟางถูกศาลชั้นต้นของสิงคโปร์พิพากษาเมื่อวันที่ 19 พ.ค. จำคุก 40 เดือน ในข้อหาล่วงละเมิดทางเพศเยาวชน และได้รับการปล่อยตัวชั่วคราวด้วยวงเงิน 30,000 เหรียญสิงคโปร์ (ประมาณ 764,000 บาท) โดยในวันที่ 16 มิ.ย.ที่จะถึงนี้นายฟางจะต้องเข้าไปรับโทษจำคุกจากคดีดังกล่าว ซึ่งประเด็นดังกล่าวถือเป็นเรื่องอื้อฉาวในวงการบันเทิงของสิงคโปร์
แม่ของเยาวชนหญิงรายนี้กล่าวว่า ตนและลูกสาวได้รู้จักกับนายฟางเมื่อปีที่แล้ว (2567) จากงานบันเทิงงานหนึ่ง ขณะเป็นครูสอนการแสดงที่โรงเรียนสอนการเป็นนางแบบแห่งหนึ่ง ที่ผ่านมาเธอและสามีคิดว่านายฟางเหมือนเป็นเพื่อนคนหนึ่ง กระทั่งเมื่อมารู้ความสัมพันธ์กับลูกสาวก็แทบหัวใจสลาย เหมือนท้องฟ้าถล่มลงมา เธอถามลูกสาวว่าทำไมถึงคบกัน ลูกสาวจึงเล่าว่านายฟางยอมวิ่งไปสองถนนเพียงเพื่อซื้อชาไข่มุกให้ และหลังเลิกเรียนนายฟางจะแวะมาส่งกลับบ้านด้วย แม้จะต้องเดินเท้านาน 1 ชั่วโมงครึ่งถึง 2 ชั่วโมงก็ตาม แต่นายฟางอยู่เคียงข้างเสมอ
"ลูกสาวบรรยายความรู้สึกราวกับว่าเป็นรักครั้งแรกที่เริ่มสั่นไหว" แม่ของเยาวชนหญิง กล่าว
ขณะเดียวกัน นายฟางยังมีกลอุบายที่สร้างความทรงจำ เพื่อทำให้ลูกสาวของเธอมีความสุข ด้วยการให้ลูกสาวสักรูปจูบสีแดงไว้บนไหล่ของเขา ซึ่งเธอเพิ่งรู้เรื่องรอยสักนี้ หลังจากที่นายฟางโพสต์ภาพลงบนโซเชียลมีเดียเมื่อเดือน ก.ย. 2567 บรรยายแคปชันว่า “น้ำตาจะไหลก่อนที่จะพูดออกมาได้” หลังถูกจับกุมและได้รับประกันตัว เพื่อต้องการดึงดูดความสนใจไปยังลูกสาวของเธอ ซึ่งลูกสาวของเธอบอกว่า ขณะนั้นการจูบเสื้อยืดสีขาวกับลิปสติกกำลังเป็นเทรนด์ เขาก็เลยเอารอยริมฝีปากของลูกสาวไปสักไว้บนไหล่ เธอเชื่อว่าเอียน ฟาง แสร้งทำเป็นสงสารและเสียใจ เพื่อให้คนอื่นเห็นใจเมื่อเขาโพสต์ภาพดังกล่าว
นอกจากนี้ เมื่อนายฟางพาลูกสาวของเธอออกไปข้างนอก เขาก็ไม่เคยปรากฏตัวในที่สาธารณะกับลูกสาวอย่างเปิดเผยอีกเลย เขาจะทำตัวเป็นคนเรียบง่ายเหมือนคนดัง เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้ใครจำหน้าได้ เธอกล่าวว่า ลูกสาวบอกว่าทุกครั้งที่ออกไปข้างนอก นายฟางจะบังคับให้ลูกสาวใส่หน้ากากและแว่นกันแดด ซึ่งทำให้ลูกสาวคิดว่าดูมีเสน่ห์ เหมือนดาราที่ถูกปาปาราสซีติดตาม ยิ่งไปกว่านั้น บุคลิกคนดังของนายฟาง ยังขยายไปถึงการออกไปรับประทานอาหารนอกบ้านอีกด้วย เขาจะพาลูกสาวไปยังร้านอาหารที่จะได้รับประทานฟรี ผู้คนจำเขาได้และบอกว่าเขาไม่จำเป็นต้องจ่ายเงิน ลูกสาวคิดว่าเขาเป็นคนดังจริงๆ เพราะเขาไม่เคยต้องจ่ายเงินค่าอาหารมื้อนั้นแม้แต่เหรียญเดียว
ตามคำบอกเล่าของแม่เยาวชนหญิงระบุว่า เมื่อนายฟางจีบลูกสาว เขามักจะคุยโวโอ้อวดเกี่ยวกับชื่อเสียงของเขา โดยบอกว่าแฟนคลับชื่นชอบเขาและมักจะมอบของขวัญให้เขาอยู่เสมอ เขาอ้างว่าของใช้ในบ้านและเสื้อผ้าหลายชิ้นของเขาเป็นของขวัญที่แฟนคลับมอบให้ อีกทั้งกลวิธีการเกี้ยวพาราสีอื่นๆ ของเอียน ฟาง ได้แก่ การค้นหาว่าผู้หญิงคนนี้ชอบอาหารอะไร แล้วไปซื้ออาหารแช่แข็งจากซูเปอร์มาร์เกต จากนั้นก็ลงมือทำอาหารเอง และบอกผู้หญิงว่าอาหารนั้นทำขึ้นมาโดยเฉพาะสำหรับเธอ
รายงานข่าวเพิ่มเติมระบุว่า แม่ของเยาวชนหญิงรายนี้เข้าแจ้งความต่อตำรวจสิงคโปร์เมื่อเดือน ส.ค. 2567 หลังลูกสาวมีอาการเจ็บที่อวัยวะเพศ แล้วพบว่าติดเชื้อ HPV ซึ่งเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ เมื่อสอบถามพบว่าลูกสาวและนายฟางมีเพศสัมพันธ์แบบหลบๆ ซ่อนๆ โดยไม่ป้องกันหลายครั้ง ย้อนกลับไปก่อนหน้านี้ นายฟางพบกับเยาวชนหญิงครั้งแรกในงานวงการบันเทิงงานหนึ่ง เมื่อวันที่ 4 พ.ค. 2567 ก่อนที่จะคุยกันทุกวันจนสนิทสนม ต่อมาวันที่ 6 มิ.ย. 2567 แม่พาเยาวชนหญิงมากักตัวที่โรงแรมแห่งหนึ่งเนื่องจากติดโควิด-19 กระทั่งเวลา 21.00 น. นายฟางไปเยี่ยมและมีเพศสัมพันธ์กันครั้งแรกโดยไม่ป้องกัน แม้ฝ่ายหญิงจะร้องขอก็ตาม ไม่ถึงสัปดาห์ต่อมา นายฟางยังพาเยาวชนหญิงออกจากโรงแรมที่กักตัวไปที่บ้านของนายฟาง และมีเพศสัมพันธ์อีกครั้ง
แม้ต่อมาเยาวชนหญิงจะถูกส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลเมื่อวันที่ 17 มิ.ย. 2567 เพราะติดเชื้อไข้หวัดใหญ่ แต่นายฟางยังตามไปเยี่ยมและมีเพศสัมพันธ์ในห้องพักผู้ป่วยส่วนตัวอีกด้วย โดยพบว่านายฟางมีเพศสัมพันธ์กับเยาวชนหญิงมาแล้ว 5 ครั้ง ส่วนใหญ่ไม่ป้องกัน ใช้ถุงยางอนามัยเพียง 2 ครั้งตามที่ฝ่ายหญิงร้องขอ หลังแจ้งความนายฟางพยายามติดต่อเหยื่อผ่านโซเชียลมีเดียหลายครั้ง โน้มน้าวให้แม่ของเธอถอนแจ้งความ บอกว่าถ้าติดคุกจะฆ่าตัวตาย ขณะที่เหยื่อต้องรักษาอาการทางจิต เพราะสูญเสียความมั่นใจและไม่มีความสุขอีกต่อไป และระหว่างการพิจารณาคดี ทนายความของนายฟางยังร้องต่อศาลสั่งห้ามเปิดเผยตัวตนของนายฟาง แต่ภายหลังอัยการร้องต่อศาลขอให้เปิดเผยตัวตน ในที่สุดศาลจึงพิพากษาในข้อหาล่วงละเมิดทางเพศผู้หญิงที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ รวมทั้งข้อหาคุกคามจากการส่งข้อความไปหาเหยื่อ และขัดขวางกระบวนการยุติธรรม
สำหรับนายเอียน ฟาง เหวยจี้ เกิดเมื่อวันที่ 13 ธ.ค. 2532 ที่นครเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน ก่อนย้ายมาที่สิงคโปร์ เป็นอดีตนักแสดงค่ายมีเดียคอร์ป (Mediacorp) สื่อของสิงคโปร์ เข้าสู่วงการเมื่อปี 2554 มีผลงานทั้งภาพยนตร์ ละคร พิธีกรรายการวาไรตี และผลงานเพลง ได้แก่ ละครเรื่อง Don't Stop Believin' และภาพยนตร์เรื่อง Goodbye Mr. Loser แต่ไม่ต่อสัญญาและออกจากวงการบันเทิงเมื่อปี 2566 โดยผันตัวไปทำงานเป็นครูสอนการแสดงให้กับเยาวชนอายุระหว่าง 4 ถึง 14 ปี ที่โรงเรียนแห่งหนึ่ง