xs
xsm
sm
md
lg

ไหนว่าถอย? กองทัพกัมพูชาแถลงยันปักหลักที่จุดปะทะช่องบกพร้อมอาวุธ อ้างอยู่มาก่อน MOU 43

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



กองบัญชาการทหารสูงสุดกัมพูชาออกแถลงการณ์ หลัง ผบ.ทบ.ของทั้งสองฝ่ายหารือยุติข้อขัดแย้งช่องบก เห็นพ้องใช้กลไก JBC แก้ปัญหาเรื่องเขตแดน แต่มีข้อตกลงข้อ 4.ฝ่ายกัมพูชาจะไม่ถอนกำลังจากจุดปะทะ อ้างอยู่มาก่อนมี MOU 43

ภายหลังเกิดเหตุการณ์ปะทะกันระหว่างทหารไทยกับกัมพูชาที่บริเวณช่องบก จ.อุบลราชธานี เมื่อเช้าวันที่ 28 พ.ค.ที่ผ่านมา เป็นเหตุให้ทหารกัมพูชาเสียชีวิต 1 ราย และต่อมา พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบกของไทย ได้นัดหารือกับ พล.อ.เมา โซะพัน ผู้บัญชาการกองทัพบกกัมพูชา ที่สำนักงานประสานงานชายแดนไทย-กัมพูชา บริเวณจุดผ่านแดนช่องจอม-โอเสม็ด จ.สุรินทร์ เพื่อคลี่คลายสถานการณ์ เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 29 พ.ค. 2568

ผลการหารือดังกล่าว ตามที่ฝ่ายไทยได้แถลงออกมานั้น มีข้อสรุป 3 ข้อ ได้แก่ 1.  ให้ทั้งสองฝ่ายดำเนินการแก้ไขปัญหาครั้งนี้ผ่านคณะกรรมการเขตแดนร่วม (JBC) ซึ่งจะจัดขึ้นภายใน 2-3 สัปดาห์ 2. ให้ทั้งสองฝ่ายอยู่ในจุดที่เหมาะสม หรือ 200 เมตรจากจุดปะทะ ลดการเผชิญหน้า และ 3. ให้รักษาความสัมพันธ์อันดีระหว่างประเทศ ให้ใช้ความอดทนอดกลั้น


อย่างไรก็ตาม เมื่อเวลา 20.53 น. วันที่ 29 พ.ค. ในเฟซบุ๊ก“Samdech Hun Sen of Cambodia” ของจอมพลสมเด็จอัครมหาเสนาบดีเดโช ฮุนเซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา บิดาของนายฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชาคนปัจจุบัน มีการโพสต์แถลงการณ์ของกองบัญชาการทหารสูงสุดกัมพูชา มีใจความดังนี้

กองบัญชาการทหารสูงสุด
ราชอาณาจักรกัมพูชา ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

แถลงการณ์

หลังจากเกิดเหตุปะทะด้วยอาวุธระหว่างกองทัพกัมพูชาและกองทัพไทย เมื่อช่วงเช้าวันที่ 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2568 บริเวณหมู่บ้านเตโชมรกต ตำบลมรกต อำเภอจอมกระสานต์ จังหวัดพระวิหาร

ในวันที่ 29 พฤษภาคม พ.ศ. 2568 เวลา 15.30 น. พล.อ.เมา โซะพัน รองผู้บัญชาการทหารสูงสุด ผู้บัญชาการกองทัพบกกัมพูชา และ พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบกของไทย ได้เข้าร่วมการหารือ ณ สำนักงานประสานงานชายแดนไทย-กัมพูชา บริเวณจุดผ่านแดนช่องจอม-โอเสม็ด ซึ่งมีผลสรุปดังต่อไปนี้:

1. ทั้งสองฝ่ายยังคงดำเนินการแก้ไขสถานการณ์ผ่านกลไกที่มีอยู่ทั้งหมด ได้แก่ คณะกรรมการเขตแดนร่วม (JBC) คณะกรรมการชายแดนทั่วไปกัมพูชา-ไทย (GBC) และบันทึกความเข้าใจว่าด้วยการรังวัดและกำหนดเขตแดนทางบกระหว่างไทย-กัมพูชา ปี 2543 (MOU 2543) เพื่อให้แนวชายแดนของทั้งสองประเทศเป็นชายแดนแห่งสันติภาพ มิตรภาพ ความร่วมมือ และการพัฒนา

2. ทั้งสองฝ่ายจะควบคุมสถานการณ์ตามสภาพเดิม อดทนอดกลั้น และแก้ไขปัญหาทั้งหมดผ่านคณะกรรมการเขตแดนร่วม (JBC) ซึ่งจะมีการประชุมภายใน 2 หรือ 3 สัปดาห์ข้างหน้า เพื่อรักษาความสัมพันธ์อันดีระหว่างสองประเทศ

3. ฝ่ายกัมพูชาขอให้มีการเคารพในอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของกันและกัน และไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นวันที่ 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2568 อีก

4. ฝ่ายกัมพูชาจะไม่ถอนกำลังหรือวางกำลังโดยไม่ติดอาวุธ ณ จุดที่เกิดการปะทะ เพราะบริเวณดังกล่าวฝ่ายกัมพูชาได้ครอบครองมาตั้งแต่ก่อนมีการลงนามในบันทึกความเข้าใจว่าด้วยการรังวัดและกำหนดเขตแดนทางบกระหว่างไทย-กัมพูชาปี 2543 (MOU 2543)

ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องและยอมรับในทั้ง 4 ข้อข้างต้น และการหารือได้สิ้นสุดลงเมื่อเวลา 16.15 น. ของวันเดียวกัน




กำลังโหลดความคิดเห็น