xs
xsm
sm
md
lg

ยังไง? “ฮุนเซน” ขอ ปชช.อยู่ในความสงบ แต่ปลุกพร้อมรบ อ้างจุดปะทะเป็นของเขมร แถมท้าบุกนครวัดจะทำลายกองทัพไทยให้สิ้นซาก

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“ฮุนเซน” แถลงกลางที่ประชุมวุฒิสภากัมพูชา ขอให้ประชาชนอยู่ในความสงบ เชื่อมั่นในการเจรจา แต่ยันจุดปะทะเป็นของกัมพูชา ตนเคยไปเยือนปี 52 โวสมัยสงครามปราสาทพระวิหารปี 54 ทหารขอใช้ปืนใหญ่ยิงเข้าไทย 40 กม.แต่ตนไม่ให้ใช้ พร้อมท้ากองทัพไทยบุกนครวัดจะได้ร้องยูเอ็นว่าไทยรุกราน พร้อมทำลายกองทัพไทยให้ย่อยยับ โวเครื่องบินรบของไทยทำอะไรไม่ได้ เขมรมีเครื่องยิงประสิทธิภาพสูง เรียกร้องประชาชนสนับสนุนกองทัพแสดงความสามัคคีเป็นกระดูกสันหลังป้องกันประเทศ

วันนี้ (29 พ.ค.) เมื่อเวลา 11.34 น. ในเฟซบุ๊ก “Samdech Hun Sen of Cambodia” ของ จอมพล สมเด็จอัครมหาเสนาบดี เดโช ฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา บิดาของนายฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชาคนปัจจุบัน มีการโพสต์ข้อความเป็นสารพิเศษที่สมเด็จฮุนเซนกล่าวในการประชุมวุฒิสภากัมพูชาในวันนี้ โดยระบุว่า

ต่อไปนี้คือถ้อยแถลงหลักของสมเด็จฮุนเซนในคำแถลงพิเศษเกี่ยวกับการปะทะด้วยอาวุธระหว่างกองทัพกัมพูชาและไทยที่ชายแดนบริเวณมอมเตย จังหวัดพระวิหาร

สมเด็จฮุนเซนขอให้เพื่อนร่วมชาติของเขาอยู่ในความสงบและไว้วางใจในความเป็นผู้นำของรัฐบาลและกองทัพกัมพูชาในการแก้ไขปัญหาผ่านการเจรจาแทนที่จะใช้กำลังทหาร

นายกรัฐมนตรีขอให้ประชาชนอยู่ในความสงบในประเด็นชายแดนระหว่างกัมพูชากับไทย และเชื่อมั่นในการแก้ปัญหาระหว่างรัฐบาลทั้งสอง ระวังข่าวปลอมที่ผลักดันให้เกิดสงครามระหว่างสองประเทศ

สมเด็จฮุนเซนกล่าวต่อไปว่า อาวุธและกำลังพลที่ส่งไปชายแดนไม่ได้มีไว้โจมตีประเทศไทยหรือก่อสงคราม แต่เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับเหตุการณ์เลวร้ายที่อาจเกิดขึ้น

เหตุการณ์ยิงปืนที่ชายแดนกัมพูชา-ไทยไม่ใช่นโยบายของรัฐบาลไทยและกระทรวงกลาโหมของไทย

สมเด็จฮุนเซนสรุปว่า เหตุการณ์นี้อาจเกิดขึ้นจากบุคคลหรือองค์กรใดองค์กรหนึ่ง

เหตุการณ์ที่ชายแดนกัมพูชา-ไทยเมื่อวานนี้แตกต่างจากการรุกรานวัดแก้วสิขาคีรีสวารา (บริเวณปราสาทพระวิหาร) ในปี 2551

สมเด็จฮุนเซนเล่าว่าในสงครามที่ปราสาทพระวิหารและปราสาทตาเมือนธมและปราสาทตากระเป่ยระหว่างปี 2551 ถึง 2554 กัมพูชาใช้ความอดกลั้นอย่างที่สุดจนกองทัพเกิดความสับสน

ในช่วงสงครามครั้งนั้น สมเด็จฯ ตั้งกองบัญชาการอยู่ที่บ้าน และสั่งการผ่านระบบวิดีโอ สมเด็จฯ เล่าว่า ในเวลานั้น นายพลเจีย ดารา และชิน จันปุร์ ได้ขอให้สมเด็จฯ อนุญาตให้ใช้ปืนใหญ่ยิงเข้ามาในประเทศไทย 40 กิโลเมตร แต่สมเด็จฯ ไม่ให้ใช้

สมเด็จฮุนเซนกล่าวว่า กองกำลังและอาวุธที่ส่งไปยังชายแดนไม่ได้มีไว้โจมตีประเทศไทย แต่ในกรณีที่มีการรุกราน กัมพูชาจะใช้สิทธิในการปกป้องบูรณภาพแห่งดินแดนและอธิปไตยของชาติ แม้ว่าสมเด็จฯ มหาบพิตรฮุน มาเนต จะไปเยือนต่างประเทศ แต่เขาก็ทำงานเกี่ยวกับปัญหาชายแดนและรู้จักภูมิศาสตร์เป็นอย่างดี

สถานที่ที่เกิดการยิงคือสถานที่ที่สมเด็จฯ ฮุนเซนไปเยือนในปี 2552 ทำไมประเทศไทยจึงบอกว่าเป็นดินแดนของพวกเขา

สมเด็จฮุนเซนกล่าวว่า สมเด็จฮุนเซนไม่ใช่ผู้นำที่นั่งอยู่แต่ในสำนักงานเท่านั้น แต่มักจะลงพื้นที่และลงสนามรบ กัมพูชาต้องการให้สถานการณ์ชายแดนกลับคืนสู่สภาพเดิม และขอให้เกิดขึ้นเฉพาะบริเวณสามเหลี่ยมมรกตเท่านั้น ไม่ให้เกิดการกระจายข้ามชายแดน และกระทบต่อความร่วมมือในภาคส่วนอื่น

สมเด็จเดโชต้อนรับบริษัทชิปมอง ที่ประกาศว่าจะนำน้ำ เครื่องดื่ม และอาหารไปให้กองทัพ สมเด็จเดโชฮุนเซนบอกกับคนไทยว่าไม่ใช่ทหาร

สมเด็จเดโชกล่าวว่า หากกองทัพไทยต้องการบุกนครวัดตามที่นายสิต (สนธิ) ลิ้มทองกุล กล่าวไว้ สมเด็จเดโชจะอนุญาตให้เข้ามาเพื่อแสดงต่อสหประชาชาติว่าเป็นการรุกราน และสมเด็จเดโชจะใช้กองทัพทำลายกองทัพไทย

สมเด็จเดโชฮุนเซนกล่าวว่าสมเด็จเดโชชัดเจนมากเกี่ยวกับกลยุทธ์การสงคราม สมเด็จเดโชกล่าวว่าเครื่องบินอเมริกันยิงใส่สมเด็จแต่ทำอะไรไม่ได้

สมเด็จเดโชกล่าวว่าในสงครามเช่นนี้ สมเด็จไม่ได้ใช้เครื่องบิน แต่สมเด็จมีตาข่ายฟ้าซึ่งเป็นปืนยิงเครื่องบินตก ขณะนี้กัมพูชามีปืนป้องกันภัยทางอากาศที่ดี

สมเด็จฮุนเซนเรียกร้องให้ประชาชนสนับสนุนกองทัพเพื่อแสดงความสามัคคีเป็นกระดูกสันหลังของการป้องกันประเทศของกัมพูชา กัมพูชาต้องการให้พรมแดนกับประเทศเพื่อนบ้านทั้งหมดเป็นพรมแดนของสันติภาพ มิตรภาพ ความร่วมมือและการพัฒนา

สมเด็จฮุนเซนยังได้ยกย่องทหารทุกนายในแนวหน้า และเรียกร้องให้กาชาดในจังหวัดพระวิหารช่วยเหลือผู้ลี้ภัยที่ชายแดน


กำลังโหลดความคิดเห็น