ศาลอุทธรณ์ภาค 2 พิพากษายืนตามศาลชั้นต้น ยกฟ้องคดี "ทนายธรรมราช" ฟ้อง "จตุรงค์ จงอาษา" ข้อหาหมิ่นประมาทในรายการโหนกระแส ชี้เป็นการติชมวิพากษ์วิจารณ์และแสดงความคิดเห็นไปตามข้อเท็จจริงที่ได้ความมาจากกระแสสังคม
คดีความระหว่างทนายธรรมราช สาระปัญญา ที่เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายจตุรงค์ จงอาษา ข้อหาหมิ่นประมาท ศาลจังหวัดชลบุรีมีคำพิพากษายกฟ้องไปเมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม 2567 กรณีที่มีการกล่าวพาดพิงในรายการโหนกระแส ตอน “ครูบาไก่ขุดพระ” ที่ออกอากาศเมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2566
จากนั้นทนายธรรมราชได้ยื่นเรื่องอุทธรณ์ต่อศาลอุทธรณ์ภาค 2 ในวันนี้ (27 พ.ค. 2568) เวลา 10.00 น. ศาลจังหวัดชลบุรีได้อ่านคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ภาค 2
สรุปได้ว่า ตามที่โจทก์อุทธรณ์มานั้น เห็นว่าการที่โจทก์ประกอบวิชาชีพเป็นทนายความและเป็นเจ้าของเฟซบุ๊กชื่อทนายธรรมราช The Lawyer of legality มีผู้ติดตามกว่า 81,000 คน และมีผู้ถูกใจเพจกว่า 150,000 คน โดยตั้งค่าเพจเฟซบุ๊กเป็นสาธารณะ ซึ่งประชาชนทั่วไปเข้าถึงเพจเฟซบุ๊กของโจทก์ได้ ย่อมแสดงออกให้บุคคลทั่วไปเข้าใจว่าตนเป็นบุคคลสาธารณะ คำพูดดังกล่าวของจำเลยมีลักษณะเป็นคำเสียดสีและไม่สุภาพเป็นเพียงการวิพากษ์วิจารณ์การทำหน้าที่ทนายความของโจทก์ ขณะเกิดเหตุโจทก์ก็ได้แสดงออกในที่สาธารณะและสื่อมวลชนจนเป็นกระแสสังคม โจทก์ย่อมเข้าใจและมีความหนักแน่นที่จะยอมรับการวิพากษ์วิจารณ์จากผู้ชมผู้ฟังได้
การนำเสนอประเด็นดังกล่าวในรายการโทรทัศน์ลักษณะเช่นว่านี้เป็นการติชมวิพากษ์วิจารณ์ และแสดงความคิดเห็นไปตามข้อเท็จจริงที่ได้ความมาจากกระแสสังคม จำเลยกล่าวในรายการถ่ายทอดสดโดยเปิดเผยเป็นการกล่าวถึงความรู้สึกเฉพาะตัวของจำเลย กรณียังถือมิได้ว่าจำเลยมีเจตนาใส่ความโจทก์ เป็นการแสดงความคิดเห็นหรือข้อความใดโดยสุจริตเพื่อติชมด้วยความเป็นธรรม การกระทำของจำเลยไม่เป็นความผิดฐานหมิ่นประมาท
ตามที่ศาลชั้นต้นวินิจฉัยมานั้นศาลอุทธรณ์ภาค 2 เห็นพ้องด้วย อุทธรณ์ของโจทก์ฟังไม่ขึ้น พิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมในชั้นอุทธรณ์ให้เป็นพับ
โดยในวันนี้ทนายธรรมราชไม่ได้เดินทางมาฟังคำพิพากษาที่ศาล