โฆษก มท. ยันชัด! ข่าว "บัตรสีขาว" ในโซเชียลจีนคลาดเคลื่อน ไม่ใช่ทางลัดสู่สัญชาติไทย ชี้มีขั้นตอนและคุณสมบัติที่ต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด
จากกรณี ก่อนหน้านี้ได้มีการนำเสนอเรื่องของ เพจ “อ้ายจง“ ซึ่งเป็นเพจที่ให้ข้อมูลและบอกเล่าข่าวสารของประเทศจีน ได้ออกมาโพสต์ข้อความน่าตกใจ หลังในโซเชียลมีเดียจีนอย่าง "เสี่ยวหงชู" ที่มีการเผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับการได้มาซึ่ง "บัตรสีขาว" หรือ "บัตรประจำตัวบุคคลที่ไม่มีสถานะทางทะเบียน" ของประเทศไทย โดยมีการนำเสนอข้อมูลที่อาจบิดเบือนสิทธิประโยชน์และชวนเชื่อให้เข้าใจผิดว่าสามารถขอสัญชาติไทยได้อย่างง่ายดาย รวมถึงสิทธิในการซื้อสังหาริมทรัพย์และทำงานได้ ตามที่ได้นำเสนอไปก่อนหน้านี้
ล่าสุด วันนี้ ( 24 พ.ค.) มีรายงานว่า “นางสาวไตรศุลี ไตรสรณกุล” เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และโฆษกกระทรวงมหาดไทย ได้ชี้แจงถึงกรณีดังกล่าวว่า ข้อมูลที่ปรากฏในโซเชียลมีเดียจีนมีความคลาดเคลื่อนจากความเป็นจริงอย่างมาก โดยกระทรวงมหาดไทย โดยกรมการปกครอง มีขั้นตอนการพิจารณาเพื่อให้สิทธิทางทะเบียนแก่ผู้ไม่มีสัญชาติไทยอย่างเข้มงวด และทุกคนที่ได้รับสิทธิ์จะต้องดำเนินการตามขั้นตอนที่กำหนดไว้เท่านั้น
นางสาวไตรศุลี กล่าวว่า กระทรวงมหาดไทย โดยกรมการปกครอง ได้มีการสำรวจจัดทำทะเบียนประวัติชนกลุ่มน้อย/กลุ่มชาติพันธุ์ที่อพยพเข้ามาในประเทศไทยเป็นเวลานาน (ก่อนปี พ.ศ. 2542) แต่ตกหล่นจากการสำรวจในอดีต ตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 18 มกราคม 2548 ซึ่งเห็นชอบยุทธศาสตร์การจัดการปัญหาสถานะและสิทธิของบุคคล การดำเนินการสำรวจเริ่มต้นในปี พ.ศ. 2548 และสิ้นสุดเมื่อปี พ.ศ. 2554
สำหรับบุคคลที่ได้รับการสำรวจจัดทำทะเบียนประวัติบุคคลที่ไม่มีสถานะทางทะเบียนตามยุทธศาสตร์ฯ ดังกล่าว กระทรวงมหาดไทยได้มีการบันทึกภาพถ่ายใบหน้าและลายพิมพ์นิ้วมือจัดเก็บไว้ในฐานข้อมูลทะเบียนราษฎรเพื่อป้องกันการสวมสิทธิ์แอบอ้าง รวมทั้งมีการออก บัตรประจำตัวบุคคลที่ไม่มีสถานะทางทะเบียน (บัตรสีขาว) ให้ เพื่อใช้เป็นเอกสารในการแสดงตัวต่อพนักงานเจ้าหน้าที่และเข้ารับสิทธิขั้นพื้นฐานต่างๆ รวมถึงสามารถพัฒนาสถานะบุคคลและสัญชาติได้ขึ้นอยู่กับคุณสมบัติตามกฎหมายเงื่อนไขการขอสัญชาติไทยสำหรับผู้ถือบัตรสีขาว
นางสาวไตรศุลี เน้นย้ำว่า บุคคลที่มีบัตรประจำตัวบุคคลที่ไม่มีสถานะทางทะเบียน (บัตรสีขาว) จะสามารถขอมีสัญชาติไทยได้จะต้องเป็นผู้ที่ เกิดในประเทศไทยโดยมีหลักฐานการเกิด หากไม่ได้เกิดในประเทศไทยจะต้องมี ใบสำคัญถิ่นที่อยู่เป็นเวลาไม่น้อยกว่า 5 ปี จึงจะสามารถขอแปลงสัญชาติเป็นไทยได้ และต้องยื่นคำขอต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่กฎหมายกำหนดไว้เท่านั้น
หากประชาชนมีข้อสงสัยเพิ่มเติม สามารถติดต่อสอบถามได้ที่ Call Center 1548 หรือ ส่วนสัญชาติ สำนักบริหารการทะเบียน กรมการปกครอง หมายเลขโทรศัพท์ 0-2791-7317-20