ผู้พิการทุพพลภาพจากการทำงานได้ออกมาโพสต์ข้อความเผยถึงความทุกข์ยากที่กำลังเผชิญ หลังจากเงินชดเชยรายได้จากกองทุนเงินทดแทน สำนักงานประกันสังคม สิ้นสุดลง กฎหมายให้ผู้พิการทุพพลภาพจากการทำงานตั้งแต่ปี 2560 ได้รับเงินชดเชยตลอดชีพ แต่กฎหมายดังกล่าวก็ยังไม่มีผลบังคับใช้ ครอบครัวของผู้โพสต์กำลังเผชิญวิกฤตทางการเงินอย่างหนัก มารดา ซึ่งเป็นผู้หารายได้หลักมีปัญหาสุขภาพ ขณะที่บิดาวัยเป็นผู้พิการเช่นกัน ส่วนตัวผู้โพสต์เองก็เป็นผู้ป่วยติดเตียงและมีค่าใช้จ่ายจำนวนมาก ผู้โพสต์จึงวอนขอให้เพจ Drama Addict ช่วยติดตามเรื่องนี้กับผู้มีอำนาจ เพื่อช่วยเหลือให้ครอบครัวได้รับเงินชดเชย
วันนี้ (20 พ.ค.) ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งซึ่งเป็นผู้พิการทุพพลภาพจากการทำงาน ได้ออกมาโพสต์ข้อความเผยถึงช่วงชีวิตของตนเองในขณะนี้กำลังเผชิญความทุกข์ยากอย่างแสนสาหัส หลังเงินชดเชยรายได้จากกองทุนเงินทดแทน สำนักงานประกันสังคมสิ้นสุดลงเมื่อวันที่ 12 ก.พ. 2565
ผู้โพสต์ได้ยื่นเรื่องขออุทธรณ์เพื่อขอรับเงินชดเชยรายได้ต่อ เนื่องจากทราบว่ามีการแก้ไขกฎหมายในปี 2560 ให้ผู้พิการทุพพลภาพจากการทำงานตั้งแต่ปี 2560 สามารถได้รับเงินชดเชยรายได้ตลอดชีพ ทว่า ปัจจุบันเรื่องดังกล่าวยังไม่ประกาศใช้
โดยผู้โพสต์ได้ระบุสถานการณ์ทางการเงินของครอบครัวที่วิกฤตอย่างหนัก มารดาวัย 73 ปี ซึ่งเป็นผู้หารายได้หลักจากการขายของชำในหมู่บ้าน กำลังเผชิญปัญหาสุขภาพรุมเร้า รายได้ไม่เพียงพอต่อรายจ่าย
ยิ่งไปกว่านั้น บิดาวัย 74 ปี ซึ่งเป็นผู้พิการเช่นกัน เพิ่งเข้ารับการผ่าตัดหลอดเลือดหัวใจเมื่อวันที่ 2 ก.พ. 2568 และต้องนอนพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลเป็นเวลานาน ทำให้กลายเป็นผู้ป่วยติดเตียง ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ มีอาการสำลักอาหารและเสมหะบ่อยครั้ง ต้องใช้สายให้อาหารทางจมูก และเข้าออกโรงพยาบาลด้วยอาการปอดติดเชื้อถึง 5 ครั้ง
และตัวผู้โพสต์เองก็เป็นผู้ป่วยติดเตียง มีโรคประจำตัวหลายโรคจากปัญหาไขสันหลังเรื้อรัง ต้องเข้าโรงพยาบาลบ่อยครั้ง และมีแผลกดทับที่รักษามานานกว่า 6 ปีโดยไม่มีทีท่าว่าจะหาย ทำให้มีค่าใช้จ่ายนอกเหนือจากสิทธิการรักษา เช่น ค่าเดินทาง ค่ายา และเวชภัณฑ์ทำแผล
ทั้งนี้ ตัวผู้โพสต์ไม่สามารถหารายได้จุนเจือครอบครัวได้ ความหวังเดียวคือการได้รับเงินชดเชยรายได้จากกองทุนเงินทดแทน สำนักงานประกันสังคมต่อไป ซึ่งทราบมาว่าคณะกรรมการประกันสังคมได้แก้ไขระเบียบให้ผู้ทุพพลภาพก่อนปี 2560 สามารถรับเงินชดเชยตลอดชีพได้แล้ว แต่ยังไม่ได้ประกาศใช้จริง เนื่องจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานยังไม่ได้นำเรื่องเข้าคณะรัฐมนตรีและลงนาม
ผู้โพสต์จึงวิงวอนขอความเห็นใจจากเพจ Drama Addict ให้ช่วยติดตามเรื่องนี้กับผู้มีอำนาจ เพื่อช่วยเหลือให้เขาได้รับเงินชดเชยรายได้ต่อ ซึ่งจะช่วยแบ่งเบาภาระของมารดาผู้สูงอายุและแก้ไขปัญหาสภาพคล่องทางการเงินของครอบครัวที่กำลังประสบปัญหาหนี้นอกระบบ นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ผู้โพสต์ยื่นเรื่องขอความช่วยเหลือจากเพจ "Drama Addict" โดยเคยยื่นเรื่องไปแล้วเมื่อปี 2565 แต่สถานการณ์ก็ยังไม่ดีขึ้น จึงขอวิงวอนให้ช่วยเป็นกระบอกเสียงอีกครั้ง