หลังแพทยสภาลงดาบพักใบอนุญาต 2 หมอปมเอื้อ "ทักษิณ" นอนชั้น 14 เหตุข้อมูลป่วยไม่ตรงจริง ล่าสุดนายแพทย์ใหญ่ รพ.ตำรวจส่งทนายยื่นร้อง "บิ๊ก สธ." อ้างมีข้อมูลใหม่ ด้าน "หมอวรงค์" ตั้งข้อสงสัย หวั่นเป็นเกมยื้อเพื่อยับยั้งมติ สะเทือนเกียรติภูมิแพทยสภา
จากกรณีแพทยสภามีมติลงโทษแพทย์ 3 รายเอื้อ “ทักษิณ” นอนชั้น 14 เป็นการพักใช้ใบอนุญาต 2 ราย ฐานให้ข้อมูลไม่ตรงความจริง เพราะไม่มีหลักฐานที่ชัดเจนว่าป่วยวิกฤตตามที่แถลง อีก 1 รายว่ากล่าวตักเตือน ฐานประกอบวิชาชีพไม่ได้มาตรฐานเกี่ยวกับการออกใบส่งตัว โดยต้องส่งมติไปขอความเห็นชอบจาก รมว.สธ.อีกครั้ง
ต่อมามีรายงานว่า พล.ต.ท.นพ.ทวีศิลป์ เวชวิทารณ์ นายแพทย์ใหญ่โรงพยาบาลตำรวจ ส่งทนายยื่นหนังสือร้อง รมว.สธ.ปมมติแพทยสภา ชั้น 14
ล่าสุดวันนี้ ( 14 พ.ค.) นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม หัวหน้าพรรคไทยภักดี โพสต์เฟซบุ๊กถึงประเด็นดังกล่าว ระบุว่า เกมยับยั้งมติแพทยสภาเริ่มต้นแล้วหรือไม่
“ตามข่าวทนายความของแพทย์ใหญ่ รพ.ตำรวจ ไปยื่นร้องขอความเป็นธรรมต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กรณีแพทยสภาจะสั่งพักใบอนุญาต ข้อมูลที่ยื่นนี้ เป็นข้อมูลเพิ่มใหม่ มีอีกหนึ่งชุดข้อมูล ในมุมที่คิดว่ายังไม่ได้มีการชี้แจงต่อแพทยสภา
ประเด็นที่น่าสนใจ
1. อนุกรรมการสอบสวนเปิดโอกาสให้แพทย์ใหญ่ส่งเอกสารทั้งหมดถึง 2 รอบ รอบแรกเดือนมกราคม 2568 และรอบสองช่วงปลายเดือนมีนาคม 2568 จนแพทยสภาถูกวิจารณ์อย่างหนัก ทำไมแพทย์ใหญ่รพ.ตำรวจจึงส่งเอกสาร และข้อมูลให้อนุสอบสวนไม่หมด ทั้งๆ ที่ให้โอกาสแล้ว
2. การร้องขอความเป็นธรรมต่อรัฐมนตรีสาธารณสุข ในข้อมูลเพิ่มใหม่ ย่อมถูกตั้งข้อสงสัยได้ว่าแพทย์ใหญ่จงใจปกปิดข้อมูลหรือไม่ มีพฤติกรรมที่ไม่สุจริตในการส่งข้อมูลให้อนุสอบสวนหรือไม่
3. ข้อมูลใหม่ที่ร้องต่อ รมว.สาธารณสุข จะเชื่อถือได้อย่างไรว่าเป็นข้อมูลที่ถูกต้อง และ รมว.สาธารณสุข สมควรรับข้อมูลนี้พิจารณาไหม ในเมื่ออนุสอบสวนเปิดโอกาสให้ยื่นเอกสารชี้แจงแล้ว แต่ยื่นไม่หมดเอง
4. ภาพที่เกิดขึ้น ต้องระมัดระวังว่าเป็นการใช้อำนาจเพื่อช่วยเหลือพวกเดียวกัน
5. พฤติกรรมที่เกิดขึ้น ย่อมถูกตั้งข้อสงสัยได้ว่าพวกท่านกำลังสร้างเงื่อนไขฝห้เกิดความสับสนว่าแพทยสภาตัดสินบนฐานข้อมูลที่ไม่ครบ (ทั้งๆ ที่ให้โอกาสท่านยื่นแล้ว) เพื่อสร้างความชอบธรรม ให้รัฐมนตรีสาธารณสุขใช้สิทธิยับยั้งมติแพทยสภาหรือไม่
เรื่องนี้คือเกียรติและศักดิ์ศรีของแพทยสภา เพราะถ้ามีการยับยั้งมติ จะเป็นครั้งแรกที่รัฐมนตรีสาธารณสุขใช้สิทธิยับยั้งความจริงโดยอ้างข้อมูลใหม่ อย่างไรก็ตาม แม้ข้อมูลใหม่ไม่น่าเชื่อถือ แต่อาจสร้างความปั่นป่วนขึ้นได้ แพทยสภาต้องเตรียมตั้งรับให้ดี