แม้จะมีการรณรงค์และให้ความรู้เรื่องการอนุรักษ์โลกใต้ทะเลอย่างต่อเนื่อง แต่ด้วยความงดงามของโลกใต้ทะเลที่เปรียบเสมือนอีกโลกที่แตกต่างจากธรรมชาติบนบกอย่างสิ้นเชิง ทำให้นักท่องเที่ยว นักดำน้ำมือใหม่หรือมือโปรบางคนอดใจที่จะแตะหรือสัมผัสสัตว์ทะเล ปะการัง รวมถึงพืชพรรณใต้ท้องทะเล เพียงเพราะคิดว่าการจับหรือสัมผัสเพียงเล็กน้อยไม่ส่งผลกระทบอะไร แต่แท้จริงแล้ว การแตะหรือสัมผัสเพียงเล็กน้อยอาจส่งผลถึงชีวิตหรือทำให้ระบบนิเวศใต้ท้องทะเลเปลี่ยนไป
ด้วยเหตุนี้ ทำให้ศูนย์บริการดำน้ำลึก Dive Terminal Scuba Diving ผุดแคมเปญ “Don’t Touch Marine Life” เพื่อเป็นสื่อในการเชิญชวนให้นักท่องเที่ยว นักดำน้ำ หยุดจับ! หยุดสัมผัส! สิ่งมีชีวิตในทะเล ให้สัตว์ทะเลได้ใช้ชีวิตของมัน พร้อมนำประสบการณ์และคอร์สดำน้ำมาแชร์ในงาน Thailand Dive Expo 2025 (TDEX)
ศูนย์บริการดำน้ำลึกครบวงจร
สุธี ดวงแก้ว หรือครูเบส หนึ่งในผู้ก่อตั้ง Dive Terminal Scuba Diving เปิดเผยว่า Dive Terminal Scuba Diving เกิดจากคนรักการดำน้ำ 6 คนมารวมตัวเมื่อปี 2565 ซึ่งปัจจุบัน Dive Terminal Scuba Diving เป็นศูนย์บริการดำน้ำลึกครบวงจร หน้าร้านตั้งอยู่ที่สุขุมวิท 30 เปิดคอร์สสอนเรียนดำน้ำสำหรับมือใหม่ที่ยังไม่มีความรู้เรื่องการดำน้ำ ตั้งแต่ Open Water จนถึงคอร์สสำหรับมืออาชีพ จัดทริปดำน้ำ จำหน่ายอุปกรณ์ดำน้ำทุกประเภท ตั้งแต่ของกระจุกกระจิก จนถึงอุปกรณ์ดำน้ำสำหรับมือโปร เช่น หน้ากากดำน้ำ สน็อกเกิล ฟิน นอกจากนี้ ทาง Dive Terminal Scuba Diving ยังเป็นผู้จัดจำหน่ายหลักชุดและอุปกรณ์ดำน้ำแบรนด์ Helios จากเกาหลี
“ปัจจุบันกลุ่มลูกค้าของ Dive Terminal Scuba Diving ส่วนใหญ่เป็นคนรุ่นใหม่ โดย 80-90 เปอร์เซ็นต์เป็นคนไทย จุดเด่นของเราคือ การบริการ ขายความเป็นกันเอง สร้างความประทับใจให้ลูกค้าที่มาใช้บริการทริปดำน้ำ ด้วยการจัดเตรียมช่างภาพประจำทริปคอยเก็บภาพลูกค้าตั้งแต่บนบกถึงใต้น้ำ” ครูเบสกล่าว
ผุดโปรเจกต์ “Don’t Touch Marine Life”
ประเทศไทยมีแหล่งดำน้ำที่งดงามเป็นที่ยอมรับในระดับโลกหลายแหล่ง โดยแหล่งที่ครูเบสชื่นชอบและประทับใจที่สุดมีอยู่ 2 แหล่ง จุดแรกคือ กองหินริเชลิว (Richelieu Rock) อยู่ใกล้หมู่เกาะสุรินทร์ เป็นจุดดำน้ำที่สวยงาม และมีระบบนิเวศที่สมบูรณ์มาก จุดที่ 2 คือ “เกาะตาลัง” อุทยานแห่งชาติตะรุเตา จ.สตูล เป็นจุดดำน้ำที่มีปะการังอ่อนสวยที่สุดในประเทศไทย มีลักษณะโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ จนได้รับการขนานนามว่า Stonehenge Pinnacle เนื่องจากมีรูปแบบกองหินที่เป็นแท่งๆ คล้าย Stonehenge ของประเทศอังกฤษ
ครูเบสกล่าวต่อไปว่า ตั้งแต่เริ่มเรียนดำน้ำครั้งแรกจนถึงปัจจุบันเป็นเวลา 6 ปีแล้ว ไปดำน้ำมาแล้วหลายแหล่ง รู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลงของโลกใต้ท้องทะเลที่เกิดขึ้น ทั้งจากความเสื่อมที่มาจากปรากฏการณ์ธรรมชาติ ภาวะโลกร้อน และความเสื่อมที่เกิดจากน้ำมือมนุษย์ โดยเมื่อนำรูปที่ไปดำน้ำเมื่อ 6 ปีที่แล้วกับรูปปัจจุบันมาเปรียบเทียบกันจะเห็นความเปลี่ยนแปลงชัดมาก จุดดำน้ำบางจุดปะการังหายไปทั้งแถบ บางจุดเคยพบปลาหรือสัตว์ทะเลจำนวนมาก ก็พบน้อยลง
“ทุกวันนี้ข่าวนักท่องเที่ยวจับหรือสัมผัสสิ่งมีชีวิตใต้ทะเล ฉลาม ปลาดาว ปะการัง ยังมีให้เห็นบ่อยๆ แม้จะมีการรณรงค์และขอความร่วมมือในการดำน้ำทุกครั้ง เพราะนักท่องเที่ยวหลายคนคิดว่าแค่แตะเบาๆ หรือสัมผัสเพียงเล็กน้อยไม่น่าจะสร้างปัญหาอะไร แต่สัตว์ทะเลบางชนิดมีเนื้อเยื่อในการปกป้องตัวเอง เมื่อเราไปจับหรือสัมผัส อาจเป็นการทำลายเกราะป้องกันทางธรรมชาติและทำให้ถึงตายได้”
ด้วยเหตุนี้ ทำให้ Dive Terminal Scuba Diving ทำโครงการ “Don’t Touch Marine Life” ขึ้น เพื่อส่งข้อความไปถึงตัวเอง คนรอบข้าง นักท่องเที่ยว และนักดำน้ำ ในการหยุดรบกวนสัตว์ทะเลหรือสิ่งมีชีวิตใต้ทะเลด้วยการ “หยุดจับ หยุดสัมผัส ปล่อยให้สัตว์ทะเลได้เติบโตมีชีวิตในแบบของมัน” เปิดตัวไปเมื่อกลางเดือนมีนาคมที่ผ่านมา
สำหรับโครงการนี้ “Don’t Touch Marine Life” จะแบ่งเป็น 3 เฟส โดยเฟสแรก เป็นการจับมือกับแบรนด์แฟชั่นจัดทำหมวกพิมพ์ข้อความ “Don’t Touch Marine Life” เพื่อแทนสัญลักษณ์ของความใส่ใจ และส่งต่อข้อความถึงทุกคนว่าให้หยุดรบกวนสัตว์ทะเลหรือสิ่งมีชีวิตใต้ทะเล ปล่อยให้สัตว์ได้ใช้ชีวิตของมัน โดยได้รับการตอบรับที่ดี เพียง 3 สัปดาห์สามารถจำหน่ายไปแล้ว 150 ใบ
“ล่าสุดผมใส่หมวกไปออกทริปดำน้ำ ลูกค้ามาบอกว่าตอนลงไปดำน้ำแล้วอยากแตะหิน อยากสัมผัสปะการัง แต่ต้องหยุด เพราะคำว่า “Don’t Touch Marine Life” ลอยเข้ามาในความคิด ทำให้เราดีใจมาก และเร็วๆ นี้เราจะมีการเปิดตัวเฟส 2”
พบกันในงาน Thailand Dive Expo 2025 สุดยิ่งใหญ่แห่งปี
ใครที่สนใจข้อมูลหรือติดตามโครงการ “Don’t Touch Marine Life” สามารถติดตามได้ที่ Facebook : Dive Terminal Scuba Diving และ Instagram : Diveterminal หรือสนใจหาซื้ออุปกรณ์ดีๆ ทริปสนุกๆ และคอร์สเรียนดำน้ำจากครูสอนดำน้ำที่มีประสบการณ์ จาก Dive Terminal Scuba Diving สามารถไปปรึกษาครูเบส ได้ที่งาน Thailand Dive Expo 2025 ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 22-25 พฤษภาคม 2568 ณ ฮอลล์ 5-6 ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์
“Dive Terminal Scuba Diving มาออกบูธในงาน Thailand Dive Expo รวมปีนี้เป็นปีที่ 3 แล้วครับ การตอบรับค่อนข้างดี บูทเรามี Traffic ค่อนข้างเยอะ งาน Thailand Dive Expo เป็นงานดำน้ำที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย เป็นโอกาสที่ดีมากๆ ของนักดำน้ำทั้งมือใหม่และมือโปร รวมถึงคนที่ยังไม่มีความรู้เรื่องการดำน้ำ เป็นงานที่มาที่เดียว จบ ครบครัน สำหรับคนที่กำลังมองหาคอร์สเรียนดำน้ำ ก็สามารถมาเจอผมได้ที่บูท หรือ Dive Center อื่นๆ เพื่อจะได้นำข้อมูลไปประกอบการตัดสินใจ สำหรับนักดำน้ำทั้งมือใหม่และมือโปรก็จะมีอุปกรณ์ดำน้ำเลือกซื้ออย่างจุใจภายในงาน นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรมที่น่าสนใจมากมาย อาทิ การจัดสัมมนาหัวข้อต่างๆ อาทิ เทคนิคการถ่ายภาพใต้น้ำ” ครูเบสกล่าวทิ้งท้าย
สำหรับผู้ที่สนใจคอร์สเรียนดำน้ำที่ได้มาตรฐาน อุปกรณ์ดำน้ำราคาพิเศษ แพกเกจดำน้ำพร้อมที่พักสุดหรู รวมถึงกิจกรรมสุดปัง สามารถพบกันได้ที่งาน Thailand Dive Expo ซึ่งจัดพร้อมกับงาน Thailand Golf Expo และ Outdoor Fest 2025 โดยสามารถลงทะเบียนเข้าชมงานล่วงหน้า และติดตามข่าวความเคลื่อนไหวของกิจกรรมได้ทางเฟซบุ๊ก Thailand Dive Expo (TDEX) หรือทางเว็บไซต์ www.ThailandDiveExpo.com