xs
xsm
sm
md
lg

เพจดัง ชี้ "งูทับสมิงคลา" พิษร้ายแรงระดับสุดยอด เตือนเคสถูกกัดต้องเฝ้าระวังใกล้ชิด หลัง รพ. ใน จ.ระยอง ปล่อยคนไข้กลับบ้านหวิดดับ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



จากกรณีหัวหน้างานโพสต์แฉโรงพยาบาลดังจังหวัดระยอง วินิจฉัยพลาดเคสลูกน้องถูก "งูทับสมิงคลา" กัดจนอาการทรุดหนัก ล่าสุด "Drama-addict" และ "Tensia" ออกโรงให้ความรู้ถึงพิษร้ายแรงของงูชนิดนี้ ชี้ต้องเฝ้าระวังอาการใกล้ชิด แม้ยังไม่แสดงอาการ

จากกรณี หัวหน้างานแฉแพทย์ รพ.ดัง ในจังหวัดระยอง วินิจฉัยผิดพลาด กรณีลูกน้องหนุ่มถูกงูพิษกัดอาการทรุดหนัก แต่ให้เพียงยาพาราและยาฆ่าเชื้อ ทำหวิดดับคาบ้าน โพสต์ถามหาจรรยาบรรณและความรับผิดชอบ

ล่าสุด วันนี้ (8 พ.ค.) เพจ “Drama-addict” ออกมาให้ความรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับประเด็นดังกล่าวระบุว่า

“เรื่องงู ปรกติแล้วในบ้านเรา หลักๆงูพิษจะมี พิษต่อระบบเลือด และพิษต่อระบบประสาท (พิษอีกประเภทส่วนมากเจอในงูทะเล น๊านนนานจะเจอซะทีแล้วไม่มีเซรุ่มในไทยด้วย แต่ที่ออสมี)

ในเคสนี้ งูที่กัดคือสมิงทับคลา ซึ่งมีพิษในระดับสุดยอดของบรรดางูพิษในไทย พิษของมันมีผลต่อระบบประสาท จะทำให้คนที่โดนพิษ มีอาการกล้ามเนื้ออ่อนแรง หนังตาตก ลืมตาไม่ขึ้น และพอกล้ามเนื้ออ่อนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ สุดท้ายกล้ามเนื้อที่ใช้ในการหายใจจะอ่อนแรง จนไม่สามารถหายใจได้ และเสียชีวิตเพราะขาดออกซีเจน

เวลาเจอเคสแบบนี้เราจะช่วยด้วยการใส่เครื่องช่วยหายใจ ให้เซรุ่มต้านพิษงู จนกว่าอาการคนไข้จะดีขึ้นและสามารถหายใจได้ด้วยตัวเอง

ปัญหาคือ เวลาถูกงูกัด มักจะไม่แสดงอาการทันที อยู่ที่การไหลเวียนของพิษเข้าสู่ระบบเลือดและน้ำเหลือง มีทั้งเกิดอาการภายใน 1-2 ชั่วโมงหลังถูกกัด จนถึงเคสที่แสดงอาการ 6-10 ชั่วโมงหลังถูกกัดได้เลยทีเดียว เคสนี้น่าจะเป็นเคสที่แสดงอาการช้า

ดังนั้นปรกติแล้ว เวลาเจอเคสที่ถูกงูกัด หมอจะให้แอดมิท เพื่อสังเกตอาการ และตรวจเลือดเป็นระยะ ถ้าระหว่างนั้นเริ่มอ่อนแรง หรือผลเลือดเริ่มผิดปรกติ ก็จะได้รักษาและให้เซรุ่มทันที

ปรกติจะให้แอดมิททุกราย เคสนี้ไม่รู้เหมือนกันว่าเกิดอะไรขึ้นทำไมคนไข้กลับบ้าน แต่ปรกติแล้ว เวลาถูกอะไรกัดมา เช่นบางเคสมีรอยเขี้ยว แต่ไม่ชัวร์ว่า งูหรือตะขาบกัด หมอก็จะให้แอดมิทไว้ก่อน กันเหนียว เพราะถ้าเกิดเป็นงูกัดขึ้นมา แล้วมีอาการตอนกลับบ้าน มันโอกาสเสี่ยงเสียชีวิตสูง โดยเฉพาะถ้าเป็นเคสงูทับสมิงคลา ตัวนี้จะพิเศษสองห่อใส่ไข่หน่อย เพราะพิษมันรุนแรงระดับสุดยอด ต่อให้ยังไม่มีอาการก็ให้เซรุ่มได้เลย

หรือต่อให้เป็นงูจริงๆ ก็อย่าเพิ่งมั่นใจว่าเป็นงูไม่มีพิษ แล้วให้กลับบ้าน เพราะมีงูหลายชนิดที่สีและลายคล้ายกันมาก อาจเข้าใจผิดได้
เช่น งูทับสมิงคลา ที่พิษโคตรรุนแรง กับงูปล้องฉนวน ที่ไม่มีพิษ หน้าตาคล้ายกันมาก

ถ้าเจอเคสที่ไม่มั่นใจ อย่าให้คนไข้กลับบ้าน ให้ติดต่อสายด่วน งูเข้าบ้าน เพื่อรับทราบข้อมูลและแนวทางปฎิบัติที่ถูกต้อง หรือเข้าไปถามในกลุ่ม งูไทย อะไรก็ได้ จะมีผู้เชี่ยวชาญด้านงูมาให้ข้อมูลที่ถูกต้องในเวลาไม่นาน“

ด้าน เพจ ”Tensia” ก็ได้ออกมาให้ความรู้เกี่ยวกับ “งูทับสมิงคลา” โดยได้ระบุข้อความว่า

“งูทับสมิงคลา (Malayan krait) มีพิษที่ทำลายทั้งการหลั่ง และการออกฤทธิ์สารสื่อประสาท ซึ่งฤทธิ์แบบแรกรุนแรง และเสียหายยาวนานหลายวัน-สัปดาห์

ในกลุ่มงูที่มีพิษต่อระบบประสาทที่พบในไทย
จะมี งูเห่า, งูจงอาง, งูทับสมิงคลา และ งูามเหลี่ยม

โดยทั้ง 4 ชนิด จะมีจุดเหมือนกันคือ
มีพิษกลุ่ม alpha-neurotoxin

ที่เมื่อเข้าร่างแล้ว จะเข้าไปรอยต่อระหว่าง
เซลล์ประสาทสั่งการ กับ กล้ามเนื้อ

แล้วเข้าไปยับยั้งตัวรับสารสื่อประสา Ach
ที่ชื่อว่า Nicotonic receptor ทำให้ประสาท
ไม่สามารถสั่งกล้ามเนื้อได้

แต่งูทับสมิงคลาและงูสามเหลี่ยม จะเป็นกลุ่ม
Krait ที่มีจุดเด่นคือ จะมี beta-neurotoxin ด้วย

ชื่อ beta-bungarotoxin จุดที่อันตรายคือ
มันจะเข้าไปทำลายที่ปลายประสาทสั่งการด้วย

ทำให้เสียหายจนไม่สามารถหลั่งสารสื่อได้
ซึ่งก็ลงเอยด้วยการสั่งกล้ามเนื้อไม่ได้ อัมพาตเช่นกัน

แต่ความเสียหายจาก beta-bungarotoxin
ค่อนข้างใช้เวลาในการฟื้นฟูนานมากค่ะ

ดังนั้นถ้าโดนงูกัดและสงสัยว่าน่าจะเป็น
งูทับสมิงคลาหรืองูสามเหลี่ยมต้องรีบแจ้ง

เพราะจะพิจารณาให้เซรุ่มทันทีแม้ยังไม่มีอาการ

ส่วนกรณีอื่น งูอาจกัดโดยใส่พิษไม่เยอะพอ
หรือไม่ทราบชนิดงู จำเป็นต้องสังเกตอาการ
อย่างใกล้ชนิด

ร่วมกับตรวจสมรรถนะของกล้ามเนื้อหายใจ
และ ดูการแข็งตัวของเลือด เพื่อใช้เป็นข้อมูลว่า
การให้เซรุ่มมีประโยชน์ มากกว่าโทษ
(โทษคือแพ้เซรุ่ม ซึ่งบางรายแพ้แบบรุนแรง)

แต่ถึงแม้ให้เซรุ่มแล้ว พิษบางส่วนก็ได้
ออกฤทธิ์ไปแล้ว การรักษามักจะยังไม่เปลี่ยน
คือต้องดูแลประคับประคองไปอยู่ดี“
กำลังโหลดความคิดเห็น