รมว.มหาดไทยมาเลเซีย เผยโครงการก่อสร้างสะพานคู่ขนานข้ามแม่น้ำโก-ลก ชายแดนไทย-มาเลเซีย จะทำงานร่วมกัน 3 กระทรวง ตามข้อตกลงทวิภาคีระหว่างสองประเทศ พร้อมเผยรัฐบาลกลันตันร้องขอรัฐบาลกลางขยายบริการรถไฟ ECRL เชื่อมต่อทางรถไฟระหว่างไทย-มาเลเซีย
วันนี้ (5 พ.ค.) สำนักข่าวเบอร์นามา (Bernama) ของมาเลเซีย รายงานว่า นายไซฟุดดิน นาซูชัน อิสมาอิล รมว.มหาดไทยมาเลเซีย ได้เยี่ยมชมศูนย์ตรวจคนเข้าเมือง ศุลกากร ศูนย์กักกันและรักษาความปลอดภัย รันเตาปันยัง (ICQS Rantau Panjang) เมืองปาเซร์มัส (Pasir Mas) รัฐกลันตัน โดยนายไซฟุดดิน เปิดเผยว่า การก่อสร้างสะพานคู่ขนานข้ามแม่น้ำโก-ลกแห่งใหม่ ระหว่างชายแดนมาเลเซีย กับชายแดนไทย ด้าน อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส ทดแทนสะพานเดิมที่ใช้มาตั้งแต่ปี 2516 จะทำงานร่วมกัน 3 กระทรวง ตามข้อตกลงทวิภาคีระหว่างสองประเทศ
ได้แก่ กระทรวงมหาดไทยมาเลเซีย รับผิดชอบพัฒนาศูนย์ ICQS รันเตาปันยังแห่งใหม่ กระทรวงโยธาธิการมาเลเซีย ทำหน้าที่ดูแลโครงสร้างพื้นฐานถนนที่เชื่อมกับสะพานไปยังเมืองรันเตาปันยัง ทั้งการปรับแนวถนนใหม่หรือปรับปรุงถนนที่มีอยู่แล้ว และกระทรวงคมนาคมมาเลเซีย เกี่ยวข้องกับข้อเสนอของฝ่ายไทยที่ให้ขยายบริการรถไฟจากกรุงเทพฯ ไปยังรันเตาปันยัง พร้อมกันนี้ รัฐบาลท้องถิ่นรัฐกลันตันยังได้ร้องขอรัฐบาลกลางมาเลเซีย ให้ขยายบริการรถไฟเชื่อมชายฝั่งทะเลตะวันออก (ECRL) จากตันจง (Tunjong) ไปยังรันเตาปันยัง เพื่อเพิ่มการเชื่อมต่อทางรถไฟระหว่างสองประเทศ
ทั้งนี้ โครงการดังกล่าวต้องอาศัยการประสานงานนโยบายระดับสูงระหว่างทั้งสามกระทรวง ซึ่งกระทรวงมหาดไทยเน้นไปที่การแก้ไขปัญหาการเวนคืนที่ดินเพื่อให้โครงการดำเนินไปอย่างราบรื่น อีกทั้งเห็นว่ากระทรวงโยธาธิการอยู่ในขั้นตอนสุดท้ายของการแต่งตั้งผู้รับเหมาสำหรับฝั่งมาเลเซีย ขณะที่ทางการไทยกำลังดำเนินการตามกระบวนการที่คล้ายคลึงกัน
ก่อนหน้านี้ นายอเล็กซานเดอร์ นันตา ลิงกี รมว.โยธาธิการมาเลเซีย ระบุว่า โครงการก่อสร้างสะพานคู่ขนานข้ามแม่น้ำโก-ลกแห่งใหม่ ประกอบด้วยสะพานแห่งใหม่ ความยาว 117.3 เมตร และการปรับปรุงสะพานปัจจุบัน โดยทั้งสองรัฐบาลร่วมกันออกเงินสนับสนุนงบประมาณ 40.54 ล้านริงกิต และคาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2571
ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 23 เม.ย. ที่ผ่านมา นายปฏิเวชวุฒิศักย์ สุขขี ผู้อำนวยการแขวงทางหลวงจังหวัดนราธิวาส เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรี (ครม.) รัฐบาลไทยได้อนุมัติโครงการก่อสร้างสะพานคู่ขนานข้ามแม่น้ำโก-ลก โดยมีงบประมาณภาพรวมที่ทั้งไทย-มาเลเซีย รับผิดชอบ จำนวน 50.8 ล้านริงกิต โดยผู้เกี่ยวข้องทั้งสองฝ่ายจะหารือร่วมกันเพื่อจัดเตรียมเอกสารที่จะประกวดราคา (International Bidding) เพื่อเข้าสู่ขั้นตอนหาตัวผู้รับจ้าง คาดว่าในเดือน ก.ค. 2568 จะได้ตัวผู้รับจ้างที่พร้อมเข้าดำเนินการ เพื่อให้โครงการแล้วเสร็จภายในปี 2570 แขวงทางหลวงนราธิวาสมีบทบาทหน้าที่อำนวยความสะดวกและสนับสนุนข้อมูลในพื้นที่รับผิดชอบ ซึ่งการพิจารณา และการตัดสินใจ จะอยู่ที่ส่วนกลางทั้งหมด
โครงการก่อสร้างสะพานคู่ขนานข้ามแม่น้ำโก-ลก ยังอยู่ภายใต้แผนงานการพัฒนาเขตเศรษฐกิจสามฝ่าย อินโดนีเซีย-มาเลเซีย-ไทย (IMT-GT) ประกอบกับความสัมพันธ์อันดีของไทย-มาเลเซีย อย่างต่อเนื่องยาวนาน คาดว่าเศรษฐกิจระหว่าง 2 ประเทศ จะเติบโตอย่างต่อเนื่อง ทำให้คนไทยได้รับประโยชน์ด้านการพัฒนาเศรษฐกิจ และในอนาคต จะมีแผนพัฒนาโครงข่ายทางหลวงเชื่อมโยงพื้นที่เศรษฐกิจชายแดน เช่น เส้นทางระหว่างอำเภอสุคิริน จังหวัดนราธิวาส กับ อำเภอเบตง จังหวัดยะลา ที่สามารถเชื่อมต่อมายังด่านบูเก๊ะตา อำเภอแว้ง และด่านสุไหงโก-ลก จังหวัดนราธิวาส