จากกรณี "หมอแล็บแพนด้า" เตือนภัย "แอนแทรกซ์" หลังคร่าชีวิต 1 ราย ในมุกดาหาร รมช.เกษตรฯ สั่งกรมปศุสัตว์คุมเข้ม ปิดพื้นที่เสี่ยง เร่งฉีดวัคซีนโค-กระบือ ยันสถานการณ์ยังควบคุมได้ พร้อมสั่งเฝ้าระวังเข้มตามแนวชายแดน ป้องกันการแพร่ระบาดเพิ่มเติม
จากกรณี จากกรณี “หมอแล็บแพนด้า” โพสต์เตือนระวังติดเชื้อโรคแอนแทรกซ์ หลังมีคนเสียชีวิตแล้ว 1 ราย สันนิษฐานก่อนเสียชีวิตได้สัมผัสโค กระบือ-กินเนื้อวัวดิบ ย้ำ ควรกินอาหารปรุงสุก และถ้าเจอสัตว์ตายโดยไม่รู้สาเหตุอย่าเอามาชำแหละกินกัน
ต่อมา "กรมควบคุมโรค" คาดต้นตอของกระระบาดครั้งนี้มาจากการชําแหละเนื้อวัวกินในงานผ้าป่า พบเสี่ยงสูง 247 คน เตือนปชช.เลี่ยงสัมผัสสัตว์ป่วย-กินเนื้อดิบ
ล่าสุด วันนี้ ( 2 พ.ค.) มีรายงานว่า นายอิทธิ ศิริลัทธยากร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้ออกมาเปิดเผยถึงกรณีการแพร่ระบาดของโรคแอนแทรกซ์ในกลุ่มโค และพบผู้ป่วยในจังหวัดมุกดาหารที่มีประวัติชำแหละและรับประทานเนื้อโคดิบ ว่า
ได้สั่งการให้กรมปศุสัตว์ลงพื้นที่ตรวจสอบอย่างเข้มงวด พร้อมปิดพื้นที่ต้องสงสัยเพื่อป้องกันการแพร่ระบาด ล่าสุด มีการปิดพื้นที่เสี่ยงไม่ให้โคกระบือเข้าไปกินหญ้าร่วมกันในบริเวณกว้าง ห้ามบุคคลเข้าออก และดำเนินการฉีดวัคซีนป้องกันโรคแอนแทรกซ์ให้กับโคกระบือในพื้นที่ดังกล่าว นอกจากนี้ ยังสั่งห้ามเคลื่อนย้ายสัตว์ออกจากพื้นที่เพื่อควบคุมการระบาด
รมช.เกษตรฯ แสดงความเชื่อมั่นว่ากรมปศุสัตว์จะสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ และกระทรวงเกษตรฯ ไม่กังวลต่อผลกระทบที่อาจตามมา โดยยืนยันว่าเจ้าหน้าที่ทุกระดับได้เข้าไปดูแลอย่างใกล้ชิด และได้สั่งการให้ควบคุมการระบาดนี้ให้ได้ พร้อมสร้างความมั่นใจให้กับผู้ค้าว่าโรคแอนแทรกซ์จะไม่ส่งผลกระทบต่อผู้เลี้ยงโคของไทย
ขณะนี้ยังไม่มีรายงานโคกระบือไทยเสียชีวิตหรือติดเชื้อเพิ่ม และได้มีการปิดพื้นที่ในรัศมี 5 กิโลเมตร พร้อมฉีดวัคซีนให้โคกระบือทุกตัวในบริเวณนั้น หากสถานการณ์ไม่ดีขึ้น หรือพบการติดเชื้อเพิ่ม จะลงพื้นที่ตรวจสอบด้วยตนเอง
"ตอนนี้เท่าที่ได้รับรายงานยังควบคุมได้ ยังไม่มีอะไรน่าวิตก หากสถานการณ์รุนแรงกว่านี้ ผมจะลงไปดูเอง ให้มั่นใจว่ากระทรวงเกษตรฯ ไม่ได้นิ่งนอนใจ เราเร่งดำเนินการตรวจสอบทันทีที่พบผู้ติดเชื้อ และขณะนี้ยังพบผู้เสียชีวิตเพียง 1 ราย รักษาตัวอีก 1 ราย ไม่มีการตายเพิ่ม ส่วนที่มาของโรคอยู่ระหว่างการตรวจสอบ" นายอิทธิ กล่าว
นอกจากนี้ รมช.เกษตรฯ ได้สั่งการให้ปิดกั้นพื้นที่ตามแนวชายแดนทั้งหมด ตรวจโรคสัตว์อย่างละเอียด และกักกันสัตว์ตามสนามบินและท่าเรือทุกด่าน เพื่อป้องกันการหลุดรอดของโรคแอนแทรกซ์ พร้อมกันนี้ กรมปศุสัตว์กำลังพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อให้ผู้เลี้ยงสัตว์เข้าถึงการตรวจสุขภาพสัตว์กับผู้เชี่ยวชาญได้ง่ายขึ้น เพื่อช่วยลดความเสี่ยงของการระบาด
ด้าน นายสัตวแพทย์สมชวน รัตนมังคลานนท์ อธิบดีกรมปศุสัตว์ กล่าวว่า ได้ประสานงานกับกระทรวงสาธารณสุขเพื่อตรวจสอบร่วมกัน พบข้อมูลเบื้องต้นผู้เสียชีวิต 1 ราย และรักษาตัว 1 ราย ในพื้นที่โดยรอบได้ส่งเจ้าหน้าที่สอบสวนโรคและเก็บหลักฐาน คาดว่าจะแล้วเสร็จภายใน 7 วัน พร้อมสั่งให้ฉีดวัคซีนวัว 1,200 ตัวในพื้นที่เสี่ยง และห้ามเคลื่อนย้ายสัตว์ออกนอกพื้นที่โดยเด็ดขาด