ลูกเพจจ่าโอด ปิดถนนพระราม 2 เร็วเกิน ทำชาวบ้านเดือดร้อน รถติดสนั่นใช้ชีวิตลำบาก วอนกลับไปใช้เหมือนช่วงแรกปิดห้าทุ่ม-เที่ยงคืน
เมื่อวันที่ 27 เม.ย. เพจ “Drama-addict” ออกมาโพสต์ข้อความเผยถึงความเดือดร้อนของประชาชนที่อาศัยอยู่ในย่านเขตก่อสร้างถนนพระราม 2 จากการปิดถนนเพื่อทำการก่อสร้างที่รวดเร็วเกินไปจนส่งผลกระทบต่อผู้ที่ใช้ชีวิต ทำงานเป็นจำนวนมาก
ลูกเพจได้ระบุข้อความผ่านจ่ามาว่า ตนทำงานอยู่ในโซนสมุทรสาคร ช่วงวัดพันท้ายนรสิงห์ และต้องเดินทางกลับเข้าเมืองเป็นประจำ ได้ระบายความรู้สึกว่า ในช่วงเวลาเลิกงานประมาณ 18.00 น. หรือเกือบทุ่ม หากเดินทางมาถึงถนนพระราม 2 หลังเวลา 19.00 น. ก็จะพบว่ามีการเริ่มปิดถนนเพื่อเตรียมการก่อสร้างแล้ว
"ภาพที่เห็นทุกวันคือ รถแออัดอยู่ช่องคู่ขนานหมด ปิดช่องทางด่วนด้านในยาวตลอดแนว ถึงช่วงเซ็นทรัลพระราม 2 หรือถ้ามาถึงเกิน 2 ทุ่ม ปิดยาวถึงปากทางพระราม 2 เลย" ลูกเพจรายดังกล่าวระบุ พร้อมตั้งข้อสังเกตว่า เวลาในการปิดถนนดังกล่าวเร็วเกินไป เนื่องจากยังมีพนักงานและคนทำงานจำนวนมากที่ยังคงอยู่บนท้องถนน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในบริเวณหน้าห้างสรรพสินค้าที่จะมีพนักงานเลิกงานออกมาเป็นจำนวนมาก ลูกเพจยังเปรียบเทียบกับช่วงที่มีการก่อสร้างถนนพระราม 2 ในช่วงแรกๆ ที่มีการปิดถนนในเวลาที่ดึกกว่านี้ เช่น เที่ยงคืน หรือ 23.00 น. ซึ่งมองว่าเป็นเวลาที่สมเหตุสมผลกว่า เนื่องจากคนทำงานส่วนใหญ่เดินทางกลับถึงบ้านแล้ว พร้อมตั้งคำถามว่า "นี่คือคนตรงนี้ต้องเสียสละเพื่อให้ถนนเสร็จเร็วๆ หรือ?"
สิ่งที่น่าสังเกตคือ ภาพที่ลูกเพจส่งมาแสดงให้เห็นว่า ในเวลา 20.00 น. ถนนถูกปิดแล้ว แต่ภายในพื้นที่ก่อสร้างยังไม่มีการเริ่มดำเนินการใดๆ คล้ายกับการปิดถนนเผื่อไว้ก่อน นอกจากนี้ ในวันศุกร์ การจราจรยิ่งทวีความสาหัส เนื่องจากรถยนต์ส่วนตัว รถจักรยานยนต์ รถบรรทุกสิบล้อ รถพ่วง และรถโดยสารประจำทาง ต่างต้องมาแย่งใช้ช่องทางคู่ขนานร่วมกัน
ลูกเพจยังได้ยกตัวอย่างบริเวณแยกบางขุนเทียนตัดถนนพระราม 2 เมื่อวันที่ 26 มีนาคม เวลา 21.20 น. ซึ่งมีการก่อสร้างบนสะพาน แต่ในขณะเดียวกันห้างสรรพสินค้ายังไม่ปิดทำการ และมีการจราจรหนาแน่นบนถนนด้านล่าง อีกทั้งยังมีรถบรรทุกอุปกรณ์ก่อสร้าง รถยก และรถบรรทุกชิ้นส่วนคอนกรีต วิ่งปะปนอยู่ในช่องทางคู่ขนานเพื่อรอเข้าไปปฏิบัติงาน ทำให้เกิดความวุ่นวายเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะในวันศุกร์
จากปัญหาและความเดือดร้อนดังกล่าว ลูกเพจจึงฝากให้ผู้สื่อข่าวช่วยเป็นกระบอกเสียงไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อพิจารณาปรับเปลี่ยนเวลาการปิดถนนให้มีความเหมาะสมและส่งผลกระทบต่อการเดินทางของประชาชนน้อยลง