สุดขนลุก โซเชียลฯ แห่แชร์ภาพฟิมล์เอกซเรย์ของคนไข้รายหนึ่ง เผยให้เห็นพยาธิฝังตัวตามอวัยวะต่างๆ ของร่างกาย ด้าน อ.เจษฎ์เผยภาพของผู้ป่วยที่เป็นโรค cysticercosis หรือโรคถุงพยาธิตืดหมูโดยเป็นโรคที่เกิดจากตัวอ่อนพยาธิตืดหมูไปฝังตัวตามอวัยวะต่างๆ ของร่างกายคน
วันนี้ (27 เม.ย.) ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งได้โพสต์ภาพสุดขนลุกจากฟิล์มเอกซเรย์ พร้อมระบุข้อความว่า "มันอยู่ในตัวเรา" เมื่อสัก 8 ปีที่แล้ว เคยทำงานเป็นผู้ช่วย X-ray ในโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง เราก็ทำงานตามปกติ เช้าวันหนึ่งมีคุณป้าอายุเยอะพอสมควรมา x-ray ช่วงสะโพกลงไปถึงขา พอจัดท่าวางฟิล์ม x-ray ก็ทำการ x แต่ภาพที่ได้ออกมาเป็นเหมือนในภาพด้านล่าง ผมก็เลยต้องไปตามเจ้าหน้าที่รังสีมาดูภาพ
คำตอบที่ได้ทำเอาขนลุกครับ มันคือพยาธิ
พี่เจ้าหน้าที่รังสีบอกเกิดจากการที่เรากินของดิบ เนื้อดิบ กินแบบเป็นประจำ ติดต่อกันเป็นเวลานาน ทั้งผมและพี่เจ้าหน้าที่ต่างขนลุก และล้างมือด้วยแอลกอฮอล์กันหลายครั้งเลย สยองมาก“
ทั้งนี้ เฟซบุ๊ก “Jessada Denduangboripant” ของ รศ.ดร.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ อาจารย์ประจำภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้โพสต์ให้ความรู้ โดยระบุข้อความว่า "มันคือสภาพของฟิล์มเอกซเรย์ของผู้ป่วยที่เป็นโรค cysticercosis หรือโรคถุงพยาธิตืดหมู โดยเป็นโรคที่เกิดจากตัวอ่อน (cysticerci) ของพยาธิตืดหมู (T. solium) ไปฝังตัวตามอวัยวะต่างๆ ของร่างกายคน เช่น ตามกล้ามเนื้อ สมอง ลูกตา หัวใจ ตับ ปอด และเยื่อบุช่องท้อง เป็นต้น ทำให้เกิดความผิดปกติต่ออวัยวะต่างๆ เหล่านั้น
ปกติแล้ววงชีวิตของพยาธิตืดหมู T.solium นั้นจะพบระยะตัวอ่อน (cysticerci) อยู่ในหมูเท่านั้น แต่ถ้าผู้ป่วยได้รับไข่ของพยาธิตัวตืดหมู (เช่น จากการกินไข่พยาธิที่ปนอยู่กับอาหาร หรือจากการที่มีพยาธิในลำไส้ แล้วขย้อยไข่พยาธิกลับมาที่กระเพาะหรือลำไส้เล็ก) ไข่พยาธิ T. solium ก็สามารถฟักเป็นตัวอ่อนได้ แล้วจากนั้นตัวอ่อนพยาธิจะไชทะลุผ่านผนังลำไส้เล็ก เข้าสู่กระแสโลหิต และไปยังอวัยวะส่วนต่างๆ ของร่างกาย
ต่อมาเมื่อตัวอ่อนของพยาธิที่ไปอยู่ตามอวัยวะต่างๆ เกิดตายลง จะมีเนื้อเยื่อและมีเซลล์อักเสบชนิดต่างๆ มาล้อมรอบถุงตัวอ่อนพยาธิ พร้อมกับมีสารแคลเซียมของร่างกายมาพอกไว้ ทำให้สามารถคลำพบเป็นตุ่มแข็งตามผิวหนัง หรือเห็นเป็นเม็ดๆ ได้จากภาพเอกซเรย์รังสีของผู้ป่วย”
ด้านเพจดังอย่าง DRAMA-ADDICT ได้ออกมาให้ความรู้เช่นกัน โดยระบุข้อความว่า ”พยาธิในลักษณะนี้ไม่ได้เกิดจากการกินพวกเนื้อดิบ เวลากินพวกเนื้อดิบที่มีเม็ดสาคูและมีพยาธิอยู่ข้างใน มันจะโตเป็นพยาธิตัวตืดอยู่ในลำไส้แล้วดูดกินสารอาหารจากร่างกาย
การที่จะเกิดภาวะแบบในภาพนั้นต้องเป็นการกินผักดิบที่ปนเปื้อนไข่พยาธิ ซึ่งมักจะเป็นผักที่ปลูกโดยการใช้ปุ๋ยคอกที่หมักจากอุจจาระของคน แล้วล้างไม่สะอาด ทำให้มีการปนเปื้อนไข่พยาธิ
พอกินเข้าไปก็จะทำให้พยาธิชอนไชผ่านกระเพาะเข้าไปในร่างกายและไปมุดอยู่ตามอวัยวะต่างๆ ในภาพคือพยาธิที่ไปอยู่ตามกล้ามเนื้อแล้วถูกระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายตอบโต้จนกลายเป็นคราบหินปูนทำให้เห็นเป็นร่องรอยแบบนี้ตอนเอกซเรย์
กับอีกวิธีที่สามารถทำให้เป็นแบบนี้ได้คือคนที่มีพยาธิอยู่ในตัวอยู่แล้ว แล้วไปกินยาขับพยาธิผิดวิธีทำให้ ปล้องของพยาธิที่ตายแล้วไหลกลับเข้าไปอยู่ในกระเพาะอาหาร พอถูกน้ำย่อยในกระเพาะย่อยปล้องก็ปล่อยไข่ออกมานับ 10,000 ใบ ตัวอ่อนพยาธิเข้าสู่ร่างกายแล้วก็เป็นแบบในภาพ”