เรื่องราวสุดช้ำใจบนโลกออนไลน์! สาววัย 27 ปีเปิดใจผ่านเพจดัง "อีซ้อขยี้ข่าว" ถึงความสัมพันธ์รักต่างวัยกับหนุ่มน้อยอายุ 17 ปี ที่ลงเอยด้วยการตั้งครรภ์ แต่กลับถูกฝ่ายชายปัดความรับผิดชอบอย่างไร้เยื่อใย ต้องดิ้นรนสู้ชีวิตเดียวดายในเมืองกรุง ทั้งโรคประจำตัวรุมเร้า ซ้ำยังถูกครอบครัวแฟนหนุ่มเมินใส่ เธอจึงขอใช้พื้นที่นี้เป็นอุทาหรณ์เตือนใจสาวๆ อย่าหลงคารมเด็กหนุ่มเพียงเพราะหน้าตา!
เรื่องราวสุดสะเทือนใจถูกเปิดเผยผ่านโซเชียลมีเดีย เมื่อหญิงสาววัย 27 ปีตัดสินใจออกมาโพสต์ข้อความเตือนสังคมถึงความผิดพลาดในความสัมพันธ์ของเธอ กับเด็กหนุ่มวัยเพียง 17 ปี ที่สุดท้ายกลายเป็นฝันร้ายเมื่อตั้งครรภ์ แต่กลับถูกฝ่ายชายปัดความรับผิดชอบและผลักไสให้เผชิญโลกเพียงลำพัง
หญิงสาวผู้เสียหายเล่าผ่านเพจดังอย่าง “อีซ้อขยี้ข่าว“ ว่า เธอได้คบหากับแฟนหนุ่มวัย 17 ปี และย้ายไปใช้ชีวิตคู่ที่บ้านของเขาในจังหวัดระนองเป็นเวลา 3 เดือน จนกระทั่งตั้งครรภ์ เมื่อเธอแจ้งข่าวดีนี้ให้แฟนหนุ่ม กลับได้รับเพียงการปฏิเสธความรับผิดชอบและถูกไล่ให้ไปอยู่ที่อื่น เธอจึงตัดสินใจเดินทางเข้ากรุงเทพฯ เพื่อเริ่มต้นชีวิตใหม่เพียงลำพัง
"หลังจากนั้นหนูได้มีการโทร.ไปง้อเขา หรือพูดคุยกับเขา แต่แม้ความห่วงใย ความใส่ใจ หรือเยื่อใย เขาไม่มีหลงเหลือให้หนูเลยค่ะ" หญิงสาวกล่าวด้วยความเสียใจ
เธอยอมรับว่าตนเองผิดพลาดที่คบหากับเด็กที่อายุยังน้อย แต่สิ่งที่เธอเจ็บปวดคือการที่ฝ่ายชายและครอบครัวไม่สนใจไยดีลูกในท้องของพวกเขาเลย แม้เธอจะพยายามติดต่อหลายครั้ง กลับได้รับเพียงคำตอบว่าเขาไม่พร้อมและต้องการตัดขาดจากชีวิตเธอ
เคราะห์ซ้ำกรรมซัด ในช่วงที่เธอต้องเผชิญความยากลำบากเพียงลำพังในกรุงเทพฯ เธอกลับมีภาวะแท้งคุกคามและล้มป่วย ทำให้ต้องติดต่อกลับไปยังครอบครัวของแฟนหนุ่มอีกครั้ง พร้อมส่งหลักฐานการตั้งครรภ์และอาการป่วย แต่สิ่งที่ได้รับกลับมาคือความเฉยชา
"ที่มาบอกซ้อคืออยากให้เขารับรู้และมาช่วยค่าเลี้ยงดูบุตร หรือพาไปพบแพทย์บ้างก็คงดีค่ะซ้อ เพราะตัวหนูเองการเริ่มต้นใหม่กับชีวิตที่กำลังท้องอยู่มันยากมาก ไปสมัครทำงานที่ไหนก็ลำบาก เขาไม่ค่อยรับคนท้อง"
หญิงสาวเปิดเผยถึงความยากลำบากในชีวิตของเธอว่า เธอมีฐานะทางบ้านไม่ดี มีเพียงแม่ที่ต้องดูแล และตนเองยังมีโรคประจำตัวร้ายแรงคือ "โคนดีซีส" ที่ทำให้ร่างกายอ่อนแอและเกิดแผลลุกลามได้ง่าย นอกจากนี้ เธอยังป่วยเป็นโรคซึมเศร้าอีกด้วย
ด้วยความเครียดและความอัดอั้นตันใจ เธอจึงตัดสินใจออกมาเล่าเรื่องราวของตนเองเพื่อเตือนภัยผู้หญิงคนอื่นๆ อย่าหลงเชื่อเด็กหนุ่มที่อาจมีเพียงรูปลักษณ์ภายนอกที่ดูดี
"อย่าว่าหนูเลยนะคะ หนูเครียดจึงเอาเรื่องนี้มาเล่าเพราะหนูไม่รู้ว่าจะไปปรึกษาหรือระบายกับใครแล้ว..."
เรื่องราวนี้เป็นอุทาหรณ์ให้สังคมถึงปัญหาและความซับซ้อนของความสัมพันธ์ต่างวัย โดยเฉพาะเมื่อนำมาซึ่งความรับผิดชอบที่ยิ่งใหญ่ของการเป็นพ่อแม่ ซึ่งต้องอาศัยความพร้อมทั้งทางร่างกาย จิตใจ และวุฒิภาวะ