xs
xsm
sm
md
lg

จากแอฟริกาสู่ลุ่มน้ำโขง กัมพูชา ปฐมบทการเข้ามาของ "ปลาหมอคางดำ" ก่อนประเทศไทย นรชาติ สรงอินทรีย์ นักวิชาการอิสระด้านสัตว์น้ำ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



การแพร่กระจายของสิ่งมีชีวิตข้ามพรมแดนนั้นเต็มไปด้วยความซับซ้อนและความน่าสนใจ เช่นเดียวกับการเข้ามาของ "ปลาหมอคางดำ" (Sarotherodon melanotheron) สู่ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ปลาที่มีถิ่นกำเนิดในแอฟริกาตะวันตกชนิดนี้ได้เข้ามาเปลี่ยนแปลงภูมิทัศน์ทางชีวภาพและเศรษฐกิจของบางประเทศในแถบนี้ และประเด็นที่น่าสนใจอย่างยิ่งคือ หลักฐานชัดเจนที่บ่งชี้ว่า "กัมพูชา" มิใช่เพียงประเทศหนึ่งที่ปลาหมอคางดำเข้ามาอาศัย หากแต่เป็น "แหล่งน้ำแรก" ในภูมิภาคนี้ที่เปิดประตูรับการมาเยือนของปลาชนิดนี้ ก่อนที่จะแพร่ขยายในประเทศไทย

การค้นหาข้อมูลเรื่องปลาหมอคางดำ แม้ไม่ใช่เรื่องง่ายแต่ก็ไม่ยากจนเกินไป ทำให้พบว่าความเข้าใจผิดที่ว่าปลาหมอคางดำเข้ามาในประเทศไทยก่อน อาจเป็นสิ่งที่รับรู้กันในขณะนี้ ทว่า หากเราพิจารณาจากข้อมูลที่ปรากฏในรายงานทางวิชาการระดับนานาชาติ ความจริงกลับชี้ไปในทิศทางที่แตกต่าง รายงานของ FishBase ซึ่งเป็นระบบสารสนเทศความหลากหลายทางชีวภาพระดับโลกเกี่ยวกับปลาที่มีครีบ https://www.fishbase.se/country/1412 ในปี 2004 (พ.ศ. 2547) ระบุชื่อ "กัมพูชา" ในฐานะประเทศที่มีการนำเข้าปลา Tilapia สายพันธุ์ต่างถิ่น ซึ่งมีความเป็นไปได้อย่างสูงที่จะรวมถึงปลาหมอคางดำ (S. melanotheron) แม้จะไม่ได้มีการระบุชื่อวิทยาศาสตร์โดยตรงในขณะนั้น แต่บริบทและหลักฐานสนับสนุนในภายหลังยืนยันถึงการมีอยู่ของปลาชนิดนี้ในกัมพูชาในช่วงเวลาดังกล่าว

จากรายงานของ FishBase ฉบับดังกล่าวไม่ได้เป็นเพียงการกล่าวอ้าง ซึ่งเป็นไปได้ที่ว่าเป็นนโยบายที่ชัดเจนของรัฐบาลกัมพูชาในการนำเข้าปลาชนิดนี้ เพื่อเสริมสร้างความมั่นคงทางอาหารและเป็นโปรตีนสำคัญ ตลอดจนเป็นการพัฒนาอุตสาหกรรมการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ ในช่วงเวลาที่ประเทศกำลังฟื้นตัวและต้องการแหล่งอาหารราคาถูกสำหรับประชาชน การตัดสินใจเชิงยุทธศาสตร์นี้เองที่ทำให้กัมพูชาเป็นเสมือน "ประตูหน้าด่าน" สำหรับการเข้ามาของปลาหมอคางดำในภูมิภาค

ในทางตรงกันข้าม ข้อมูลการแพร่ระบาดของปลาหมอคางดำในประเทศไทยกลับปรากฏชัดเจนในช่วงปี 2012 (พ.ศ. 2555) เป็นต้นมา โดยเฉพาะจังหวัดที่ติดกับชายฝั่งอ่าวไทย ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ล่วงเลยจากรายงานของ FishBase ที่ระบุถึงการมีอยู่ของปลาชนิดนี้ในกัมพูชาไปนานหลายปี ลำดับเวลาที่แตกต่างกันนี้เองคือหลักฐานสำคัญที่ไม่อาจถูกมองข้ามได้ เพราะชี้ให้เห็นถึงความเป็นไปได้สูงที่ปลาหมอคางดำอาจแพร่กระจายไปประเทศอื่นๆ ได้เช่นกัน

สิ่งที่น่าพิจารณาเพิ่มเติมคือ ทัศนคติที่แตกต่างกันต่อปลาหมอคางดำในทั้งสองประเทศ ในขณะที่ในประเทศไทย ปลาชนิดนี้ถูกมองว่าเป็นชนิดพันธุ์ต่างถิ่นที่อาจส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศ แต่ในกัมพูชา พวกมันได้รับการยอมรับในฐานะ "ปลาดำ" ซึ่งเป็นชื่อเรียกในภาษาท้องถิ่นของกัมพูชา สร้างรายได้และเป็นแหล่งโปรตีนสำคัญสำหรับชุมชนท้องถิ่น โดยเฉพาะในพื้นที่ชนบทที่การเพาะเลี้ยงเชิงพาณิชย์อาจเข้าถึงได้ยาก มุมมองที่แตกต่างนี้สะท้อนให้เห็นถึงบริบททางสังคมและเศรษฐกิจที่ส่งผลต่อการรับรู้และการจัดการชนิดพันธุ์ต่างถิ่น

จากหลักฐานที่ปรากฏชัดเจนในรายงานของ FishBase และลำดับเวลาของการพบปลาหมอคางดำในประเทศไทย จึงเป็นข้อสรุปที่มีหลักฐานชี้ชัดว่า "กัมพูชา" คือประเทศแรกในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ได้เปิดรับและมีการบันทึกการมีอยู่ของปลาหมอคางดำ ก่อนที่ปลาชนิดนี้จะแพร่กระจายสู่ประเทศไทย การตระหนักถึงข้อเท็จจริงนี้ มิได้เป็นเพียงเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ชีวภาพที่น่าสนใจ หากแต่มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการทำความเข้าใจพลวัตของการแพร่กระจายของชนิดพันธุ์ต่างถิ่น และอาจนำไปสู่การทบทวนนโยบายและการจัดการทรัพยากรธรรมชาติในระดับภูมิภาคในอนาคต


กำลังโหลดความคิดเห็น