xs
xsm
sm
md
lg

“นายกเบี้ยว” ยอมรับกลัว “ลูกพีช” เตลิด ระยะหลังไม่มีเวลาให้ลูก แต่ถ้าย้อนไป 40 ปีตนก็คงเป็นแบบนี้

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“นายกเบี้ยว” เปิดใจยอมรับผิดทุกอย่าง จะฆ่าก็ยอม ไม่แก้ตัวให้ “ลูกพีช” แต่ขอโอกาสสังคม วันที่ 11 พ.ค.ถ้าชาวบ้านไม่เลือกพวกเราก็นอนอยู่บ้าน โกรธลูก ทำไมเป็นแบบนี้ เมื่อก่อนเป็นเด็กขี้ขลาด ไม่มีเรื่องมีราว แต่ยอมรับระยะหลังไม่มีเวลาให้ลูก ทำแต่งาน ก็เสียใจ หลังเกิดเรื่องต้องค่อยๆ คุยตะล่อม กลัวลูกเตลิด เผยถ้าย้อนไป 40 ปีตนก็คงเป็นแบบนี้ เพราะยังไม่มีประสบการณ์ ยังคิดไม่ได้

ช่วงเย็นวานนี้ (18 เม.ย.) นายกฤษฎา หลีนวรัตน์ หรือนายกเบี้ยว นายกเทศมนตรีตำบลธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวระหว่างที่พานายสมิทธิพัฒน์ หลีนวรัตน์ หรือพีช ลูกชาย ไปพบพนักงานสถานีตำรวจทางหลวง 2 กองกำกับการ 8 กองบังคับการตำรวจทางหลวง เพื่อรับทราบข้อกล่าวหากรณีขับรถ BMW ชนกับรถยนต์กระบะ หลังออกจากด่านเก็บเงิน บนถนนกาญจนาภิเษกหมายเลข 9 บางนา-บางปะอิน มุ่งหน้าบางปะอิน กม.22 อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี

นายกฤษฎากล่าวว่า วันนี้ได้พาลูกชายมารับทราบข้อกล่าวหา ส่วนรถยนต์ BMW ที่ก่อเหตุจะนำมามอบให้ตำรวจในวันที่ 19 เม.ย. ส่วนป้ายทะเบียนที่เป็นป้ายแดงยืนยันว่าเป็นของจริง เป็นป้ายจริงอยู่แล้ว เพราะว่าพีชทำเรื่องขอทะเบียนวันเกิดคือวันที่ 27 แต่ยังไม่ได้มา ส่วนที่มีข่าวเป็นรถสวมทะเบียนนั้นยืนยันว่าไม่มี ให้ตรวจสอบได้เลย อย่างไรก็ตามเรื่องนี้ตนยังไม่รู้ชัดเจน เดี๋ยวให้พีชอธิบาย

นายกฤษฎากล่าวอีกว่า ตอนแรกว่าจะยังไม่มารับทราบข้อกล่าวหาในวันนี้ จะขอเลื่อนไปก่อน เพราะไปออกรายการเสร็จตอนเย็น แต่ร้อยเวรบอกถ้าไม่มาจะแจ้งข้อกล่าวหา เมื่อขอผัดไม่ได้จึงเลี้ยวรถมา ไม่ได้มีเจตนาหลบหนีอยู่แล้ว

“เจตนาผมนะ ผมไม่หลบหนีอยู่แล้ว เราสู้กับความเป็นจริง ลูกผมทําผิดก็ใช้กรรมไป แต่ในเมื่อเจ้าหน้าที่เขา เราก็บอกว่าเนี่ยเราเสร็จจากออกอากาศเย็น เราขอพรุ่งนี้ได้ไหม เขาบอกไม่ได้ ถ้าไม่อย่างนั้นออกหมาย แล้วในเมื่อเราไม่มีเจตนา เราก็กลับดึกหน่อยแล้วเราก็เลยเลี้ยวรถมา”

ส่วนที่มีกระแสข่าวว่า พีชได้อ้าง ผบ.ตร.นั้น นายกฤษฎากล่าวว่า “ผมไม่รู้ แต่ในรายการน้องพีชบอกเขาไม่ได้พูดนะครับ อย่าเอาท่านมาเลย ท่านเป็นตํารวจน้ำดี ท่านเนี่ยดูองค์กร 2-3 แสนคน อย่าเอาท่านมาเปื้อนเถอะครับ แล้วท่านไม่รู้เรื่องเลยนะน้อง เนี่ยเอาท่านทักษิณ เอาท่านนายกฯ อย่าเอาผู้ใหญ่มาเถอะครับ ผมยอมรับใช้กรรมกันอยู่แล้ว ผิดมันก็ว่ากันไปตามผิด”

เมื่อถามถึงกรณีที่พีชอ้างว่ามีพ่อเป็นนายกเทศมนตรีและพูดกับตำรวจว่าอ่อนให้แล้วทีหลังจะไม่อ่อนให้อีก นายกฤษฎากล่าวว่า น้องพูดน้องพีชบอกไม่มี เมื่อถามย้ำว่าถ้ามีคลิปตรงนี้เผยแพร่ออกมาจะว่าไง นายกฤษฎากล่าวว่า “จะว่ายังไง ผมก็ต้องยอมรับความเป็นจริง ผมยอมทุกกรณีอยู่แล้ว ผมไม่มีข้อแก้ตัวเลย นักข่าวก็ต้องเห็นใจผมนะ ผมไม่ได้ว่า เห้ยลูกผมไม่ผิด เห้ยลูกผมไม่ใช่อย่างนั้น อะไรเกิดผมก็ต้องยอมตามเป็นจริง ผมขอโอกาสกับสังคม ขอโอกาสกับพี่ๆ นักข่าว น้องๆ ทุกคนนะ ผมไม่มีบิดพลิ้ว ในเมื่อลูกผมผิดพลาดไปขอโอกาสแล้ว ในด้านทางกฎหมายไม่ต้องกลัวหรอก ผมไม่มีอิทธิพลใดๆ มีอิทธิพลจริง อิทธิพลในด้านช่วยเหลือพ่อแม่พี่น้องชาวธัญบุรีครับ”


เมื่อถามว่ากลัวจะกระทบการเลือกตั้งในวันที่ 11 พ.ค.นี้หรือไม่ นายกฤษฎากล่าวว่า “ผมไม่ได้กลัวเลย มันคือว่าการลงสมัครรับเลือกตั้ง ถ้าพ่อแม่พี่น้องไม่ให้ความไว้วางใจวันที่ 11 พวกผมก็คงไม่ได้มารับใช้พ่อแม่พี่น้อง เราก็อยู่บ้านนะครับ แต่ถ้าพ่อแม่พี่น้องให้ความไว้วางใจ เราก็ได้มาทําหน้าที่กัน มันอยู่ที่ประชาชน เราไม่มีสิทธิ์บังคับเลย”

เมื่อถามว่า ที่ผ่านมาครอบครัวเป็นนักการเมืองท้องถิ่นมาโดยตลอด แต่ลูกชายคนเล็กอาจจะทําให้คะแนนเสียงหายไป ตรงนี้ได้มีการพูดคุยหรือตักเตือนกันหรือไม่ นายกฤษฎากล่าวว่า เราก็สอนลูก แต่เหตุการณ์เป็นอย่างนี้ เราต้องค่อยๆ เพราะเดี๋ยวก็เตลิด ค่อยๆ นวด ค่อยๆ อธิบาย ค่อยๆ สอน เขาก็ค่อยๆ ซอฟต์ลงแล้ว เขาก็ ข้าใจในด้านกฎหมายแล้ว

“ผมเชื่อว่าน้องๆ บางคนมีครอบครัวมีลูก หัวอก ทําไมผมถึง..ก็ลูกผมอะครับ นะฮะ เห็นใจเถอะว่าลูก เป็นคนอื่นผมก็ไม่มาหรอก นี่ลูก แล้วเราก็รู้ว่าลูกเราผิด เราก็ขอโทษสังคมแล้ว น้องๆ ก็ต้องเห็นใจพี่หน่อย”

เมื่อถามว่าโกรธพีชหรือไม่ นายกฤษฎากล่าวว่า “โกรธมั้ย โกรธ ว่าครอบครัวเราไม่เคยเป็นแบบนี้เลย ทําไมน้องพีชถึงมีลักษณะแบบนี้ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นผมก็ขอโทษสังคมไปแล้วว่าระยะหลังผมไม่ได้เจอลูกเลย นะฮะ ผมไม่ได้เจอจริงๆ”

เมื่อถามว่า ส.ส.ฟลุค (นายมนัสนันท์ หลีนวรัตน์ ส.ส.ปทุมธานี เขต 5 พรรคเพื่อไทย) ได้เข้าไปพูดคุยกันหรือไม่ นายกฤษฎากล่าวว่า ส.ส.ฟลุคก็พูดคุย ส.ส.ฟลุคก็เป็นห่วงน้อง โมโหน้อง จะทําอย่างไรได้ ก็พี่น้องกัน แต่ ส.ส.ฟลุคยังไม่ได้เจอน้องพีชเลย


ส่วนในวันที่ 19 เม.ย. จะไปพูดคุยกับคู่กรณีอย่างไรบ้าง นายกฤษฎากล่าวว่า เราอยากไปอยู่แล้ว เราไม่ได้หนีเลย จริงๆ วันนี้จะไป เมื่อวานตนไปมาแล้ว วันนี้จึงไม่คิดจะไป เพราะเมื่อวานเพิ่งไปแล้วเข้าใจแล้ว เราก็กะว่าจะมาออกรายการ

“เท่าที่พี่ถามน้องพีชว่า น้องพีชทําไม เขาบอก ป๊า พีชไม่ได้หนี เท่าที่ผมคุยกับลูกนะ เขาบอกพีชไม่ได้หนีนะ พีชไปโรงพักแล้ว พีชเคลมประกัน แล้วพีชก็กลับมานอนที่บ้านเพื่อน แล้วตื่นมาเห็นข่าวแบบนี้ ตกใจกลัว ไม่เคยเจอแบบนี้ เท่าที่คุยกัน พี่ก็ถาม แล้วไม่คิดเหรอว่าพ่อแม่ตามหา บอกไม่ได้กลัวพ่อแม่เท่าไหร่ กลัวนักข่าว กลัวสังคมจะไอ้นั่น เขาปิดมือถือ นี่ๆ เท่านี้ แล้วเราเจอเมื่อคืนเนี่ย”

เมื่อถามว่า ถ้ากลัวขนาดนี้ ตั้งแต่ออกจากด่านมาทำไมไม่โทร.หา 191 หรือ 193 หรือตำรวจทางหลวงให้ช่วย นายกฤษฎากล่าวว่า “พี่พูดไปน้องก็หาว่าพี่เข้าข้างลูกพี่ น้องพีชเนี่ย ผมก็ยังมาคิด ผมอายุ 63 ผมคิดว่าพีช ถ้าเป็นผม ทําไมผมไม่โทร.แจ้งตํารวจ แต่ถ้าย้อนไป 40 ปี ผมก็ต้องเป็นแบบนี้นะ เพราะความคิดยังคิดไม่ได้ ประสบการณ์ชีวิตไม่มี น้องพีชไม่เคยเกิดอุบัติเหตุแบบนี้ เมื่อวานนี้ นักข่าวน้องๆ เนี่ยถามพี่ เขาถามนํามาว่า น้องพีชไม่เคยมีอุบัติเหตุเลยใช่ไหม ผมก็ตอบไปตาม ความเป็นจริง เพราะน้องพีชไม่เคยมีจริงๆ ผมก็ตอบไปอย่างนั้น เราก็ตอบความเป็นจริงอะครับ”

เมื่อถามว่าหลังจากเกิดเหตุได้มีการคุยกับแกนนําพรรคเพื่อไทยหรือยัง เพราะตอนนี้เหมือนกับโยงไปทั่วแล้วก็บานปลาย นายกฤษฎากล่าวว่า “น้อง พี่พูดแล้ว อย่าเอาผู้ใหญ่เถอะครับ เขาไม่เคยโทร.มาเลย แล้วผมก็ไม่กล้าโทร.ไปด้วย แล้วอย่าเอาเกมการเมืองมา สงสารเถอะครับ ผมเห็นว่าทําไมลูกเราทําอย่างนี้ แล้วทางพรรคทางอะไรเนี่ย เขาแค่งานเขาก็ปวดหัวแล้ว เราทําไมต้องเอาเรื่องนี้ไปให้ผู้ใหญ่ปวดหัว ผมไม่เคยโทร.ไปเลย แล้วผู้ใหญ่ก็ไม่เคยโทร.มาเลย”

ส่วนตอนนี้พรรคเพื่อไทยโดนโจมตีหนัก นายกฤษฎากล่าวว่า ก็เข้าใจ แล้วจะให้ตนทําอย่างไร โดยตอนนี้ ส.ส.ฟลุค และตนยังเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทยอยู่ แต่พีชไม่ได้เป็น “อย่าเอาน้องพีชมาเกี่ยวเลยครับ ไม่ดีหรอก สงสารเถอะครับ ผู้ใหญ่เขาไม่ได้ลงมาใช้ช่วยเหลืออะไรเลย”

นายกฤษฎากล่าวอีกว่า หลังจากเกิดเหตุได้เจอกับพีชเมื่อคืนวันที่ 17 เม.ย.โดยออกมาเจอกันที่ปั๊มน้ำมันที่ลาดพร้าว เมื่อเจอเราก็ต้องตะล่อม เดี๋ยวลูกเราจะเตลิด แล้วพากลับบ้าน ที่ต้องใช้คําว่าตะล่อม เพราะเป็นเด็กวัยรุ่น ไม่เคยเจอเหตุการณ์ อายุ 28 แล้วใช่ แต่เด็กไม่เคยเจอเหตุการณ์อย่างนี้ มันแรงไปทั่วประเทศ เราก็กลัวลูกเราเตลิด


เมื่อถามว่า เมื่อกล้าออกมาเผชิญโลกภายนอกแล้ว เมื่อเกิดเหตุก็น่าจะออกมาตั้งแต่วันแรก นายกฤษฎากล่าวว่า จะวันแรก วัน 2 วัน 3 พีชก็ยอมรับทุกข้อกรณีแล้ว “ไม่ใช่ผมจะมาตั้งป้อมสู้นะครับ คือว่ายอมรับผิดทั้งหมดแล้วอะน้อง เราไม่ได้จะมาตั้งป้อมสู้เลย ถ้าผมมาตั้งป้อมสู้ หรือว่าวันนี้มาออกสื่อเพื่อที่จะเอาหลักฐานมาฟ้องสู้ อย่างเนี้ยน้องถึงบี้พวกพี่ เรายอมอยู่แล้ว

กรณีนี้ที่พีชขอให้ลบคลิปของพลเมืองดีที่เป็นผู้หญิงคนหนึ่ง นายกฤษฎากล่าวว่า ตนเพิ่งรู้ แต่น้องก็ยืนยันว่าน้องไม่ได้ขู่ น้องไปขอพี่ แล้วเขายังขอบคุณกันเลย เท่าที่น้องพูด ที่ตนฟังอยู่ ส่วนที่จะเป็นลักษณะการทำให้เกิดการกลัวหรือถูกคุกคาม ก็แล้วแต่เขา ถ้าเขาจะแจ้ง เราก็ต้องยอมรับ เราไม่สู้ เรายอมแพ้ เพราะลูกเราเป็นอย่างนี้ แล้วเราก็ยอมแล้วอะครับ

เมื่อถามว่าทำไมพีชเป็นคนอ่อนไหวง่ายขนาดนี้ นายกฤษฎากล่าวว่า “น้องพีชเนี่ยแต่ก่อนเป็นเด็กที่ขี้ขลาด กลัว น้องพีชไม่เคยมีเรื่องมีราว น้องพีชกลัว แต่ผมงงว่า ระยะหลัง ผมกับน้องพีชไม่เจอกัน ผมก็ยังเสียใจอยู่ เพราะเราทําแต่งาน ไม่ได้ให้เวลากับลูก ทําไมเห็นคลิปตกใจ เช็กดูได้น้องพีชไม่มีเรื่องนะครับ”

เมือถามว่า รองฯ น้ำอ้อย (นางยุพเยาว์ หลีนวรัตน์ รองนายกเทศมนตรีตำบลธัญบุรี ภรรยานายกฤษฎา) ว่าอย่างไรบ้างไหม นายกฤษฎากล่าวว่า “ร้องไห้ทั้งวันเลย เราก็จะให้ทํายังไง ร้องไห้ไม่ออกจากห้องเลย ไม่ไปหาเสียง ร้องไห้ทั้งวัน หัวอกพ่อแม่อะนะน้องนะ ขอเถอะน้องๆ ผมรักผู้สื่อข่าวนะ ผมพยายามนะ อย่าทําร้ายกัน เราพูดตามความเป็นจริง แล้วลูกผู้ชายแหละ ยอมทุกอย่างแล้วนะครับ”

“แต่ขอร้องพี่คนนั้นนะ อย่าเลย เขาพูดแค่เสียงผมก็ยังตกใจแล้ว พี่อ้วนเนี่ย แค่เสียงผมก็ตกใจแล้ว แล้วถ้าน้องพีชเนี่ยเตลิดแน่เลย นะ ขอนิ่มนวลกันแล้วกันนะ เรารักกัน ผมลูกผู้ชาย พี่ ผมยอมรับผิดทุกกรณี พี่จะฆ่าผมเหรอ พี่อ้วน ถ้าพี่ฆ่าผมก็จะนอนให้พี่ฆ่าผมเลยครับ ผมยอมทุกอย่างแล้วนะครับ ผมแคร์สังคม ผมเห็นใจสังคม ผมเห็นใจคนเจ็บนะครับ ก็ขอให้พ่อแม่พี่น้องพิจารณาลงโทษผม ถ้าไม่ให้โอกาสก็ลงโทษผมครับ ขอบคุณมากครับ” นายกฤษฎากล่าว


กำลังโหลดความคิดเห็น