อธิบดี ปภ.แถลงยันอาฟเตอร์ช็อกในพม่าไม่กระทบถึงไทย เหตุเมื่อเช้าเพราะความกังวลจากเหตุเมื่อวันศุกร์ แจงอาคารศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ บริษัทผู้ดูแลตรวจสอบตั้งแต่ช่วงเสาร์-อาทิตย์แล้ว ยืนยันมั่นคงแข็งแรง “ชัชชาติ” เผยมีรายงานอาคารแตกร้าว-สั่นไหวราว 20 อาคาร แต่เกิดจากความตื่นตระหนกจนมีการอพยพ ยันไม่มีอาคารเสียหายเพิ่มเติมจากวันศุกร์ ทุกอาคารกลับสู่ภาวะปกติแล้ว ขออย่าตื่นตระหนก ถ้าไม่มั่นใจแจ้ง กทม.ตรวจสอบได้
วันนี้ (31 มี.ค.) เวลาประมาณ 12.40 น. นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) แถลงสถานการณ์ประจำวันกรณีเหตุแผ่นดินไหว ว่า รายงานข่าวเพิ่มเติมจากกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเมื่อเช้าของวันนี้ ในเวลา 09.00 น.เศษ ได้รับรายงานจากศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ อาคารเอ ว่ามีเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานได้อพยพลงมาจากตึกไปยังพื้นล่าง
กรมป้องกันบรรเทาสาธารณภัยได้ตรวจสอบเบื้องต้นจากผู้บริหารของศาลรัฐธรรมนูญและผู้บริหารของกรมสอบสวนคดีพิเศษ ซึ่งมีอาคารเชื่อมต่อจากอาคารเอ ของศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ ทราบว่าเวลาประมาณ 09.00 น.เศษ มีเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานอยู่ชั้น 9 ได้มีความรู้สึกอาคารสั่นไหว จึงได้ลงมาจากอาคารสูงดังกล่าว แล้วก็มีการบอกต่อกันมา จนทําให้ผู้คนทั้งอาคารได้ลงมาอยู่บนพื้นล่าง
“ผมเองได้ติดต่อไปที่อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา รวมทั้งกองเฝ้าระวังแผ่นดินไหว ทราบว่าเมื่อเช้านะครับ ในเวลา 09.29 น. รวมทั้ง 10.05 น. มีอาฟเตอร์ช็อกเกิดขึ้นศูนย์กลางอยู่ที่แถวบริเวณมัณฑะเลย์ ประเทศเมียนมาด้วยขนาดความรุนแรงประมาณ 3.7 ริกเตอร์ ซึ่งได้รับการยืนยันจากผู้เชี่ยวชาญรวมทั้งท่านอธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา ยืนยันว่าในความรุนแรงของแผ่นดินไหวอาฟเตอร์ช็อกดังกล่าวไม่ส่งผลกระทบถึงความรู้สึกสั่นไหว ถึงพื้นที่กรุงเทพมหานคร
ได้ติดต่อไปที่ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ด้วยเช่นเดียวกันนะครับ เมื่อเช้านี้ ทางท่านผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ก็ยืนยันว่าที่จังหวัดเชียงใหม่ไม่ได้รู้สึกถึงความสั่นไหวแต่อย่างใดนะครับ” นายภาสกรกล่าว
นายภาสกรแถลงยืนยันว่าอาฟเตอร์ช็อกแม้ยังเกิดขึ้นต่อเนื่องตลอด แต่ด้วยความแรงจะไม่รุนแรงไปกว่าเมนอาฟเตอร์ช็อกครั้งแรกตั้งแต่วันศุกร์ เพราะฉะนั้นแล้วด้วยขนาดความรุนแรง 3.7 ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อพี่น้องประชาชนที่อยู่กรุงเทพมหานครแต่อย่างใด ซึ่งทางกรมอุตุนิยมวิทยาได้ออกประกาศในเรื่องดังกล่าวเรียบร้อยแล้ว
นอกจากนั้นได้ติดต่อไปที่บริษัทธนารักษ์ พัฒนาสินทรัพย์ จํากัด ซึ่งเป็นผู้ดูแลอาคารของศูนย์ราชการ อาคารเอ และอาคารบี หลังจากเกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหวตั้งแต่วันศุกร์ที่ผ่านมา วันเสาร์-อาทิตย์ได้ให้วิศวกรตรวจสอบโครงสร้าง รวมทั้งความแข็งแรงของตัวอาคาร ทั้งอาคารเอและอาคารบีเป็นที่เรียบร้อย จึงได้ให้เจ้าหน้าที่ซึ่งมีอยู่หลายหน่วยงานในการใช้อาคารดังกล่าวได้สามารถปฏิบัติงานได้ตามปกติ
"เพราะฉะนั้นเรียนยืนยันว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นน่าจะเป็นลักษณะของการตื่นตระหนก แพนิกต่อกันมาครับ จะมีทั้งศาล กระทรวงแรงงาน มีทั้งศาลอาญา อาจจะเป็นความรู้สึกในช่วงต้นที่เคยเกิดแผ่นดินไหวครั้งแรก ก็เลยทําให้เกิดความรู้สึกกลัว
ได้รับการยืนยันจากทางนายกสภาวิศวกรนะครับ ท่านอาจารย์ธเนศได้แถลงข่าวไปแล้ว ว่ามีการตรวจสอบความมั่นคงของอาคาร และหลังจากนี้ถ้ายังไม่มีความมั่นใจก็จะมีการตรวจสอบซ้ําอีกรอบหนึ่ง เมื่อวานท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยได้ลงนามในคําสั่งแจ้งทางกรุงเทพมหานคร ได้ให้แจ้งผู้ดูแลตึกรวมทั้งอาคารสูงหรือเจ้าของได้ทําการตรวจสอบอาคารสูงคอนโดมิเนียมทุกอาคารในเขตกรุงเทพฯ ซึ่งกรมโยธาธิการและผังเมืองจะเป็นหน่วยงานกลางในการประสานกับกรุงเทพมหานครโดยตรง"
นายภาสกรกล่าวอีกว่า ขอให้พี่น้องประชาชนมั่นใจว่าอาคารโครงสร้างซึ่งเป็นไปตามพระราชบัญญัติควบคุมอาคารรวมทั้งกฎกระทรวงที่ออกมา มีการเผื่อค่าแผ่นดินไหวอยู่แล้ว ทุกอาคารมีความมั่นคงแข็งแรงตามที่ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครได้ตรวจสอบเบื้องต้นไปแล้วนั้นได้รับการยืนยันว่าอาคารในส่วนโครงสร้างต่างๆ มีความมั่นคงแข็งแรง
“ในส่วนของอาคารร้าวบางส่วน ก็มีการประกาศห้ามใช้ไปบางส่วนของกรุงเทพมหานคร ซึ่งทางกรุงเทพมหานครได้แถลงไปแล้ว เพราะฉะนั้นขอให้เกิดความมั่นใจได้ว่าโครงสร้างของอาคารในเขตกรุงเทพมหานครมีความมั่นคงแข็งแรงนะครับ ก็เรียนยืนยันอีกครั้งครับ” นายภาสกรกล่าว
ด้านายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร แถลงว่า กรณีเหตุช่วงเช้านี้เริ่มจากศูนย์ราชการ ที่มีผู้รายงานว่าอาคารมีการทรุดตัว มีความสั่นไหว จากนั้นก็จะมีเหตุการณ์หลายๆ อาคาร ประมาณ 20 อาคาร ที่มีการรายงานว่าเกิดการสั่นไหว เกิดการแตกร้าว ผู้คนไม่มั่นใจ บางอาคารก็มีการอพยพ
“ต้องกราบเรียนว่า จริงๆ แล้วเรื่องนี้อาจจะเป็นเรื่องปกติที่คนจะรู้สึกกังวลหลังจากเกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหวเมื่อวันศุกร์ แต่ว่าสรุปว่าไม่ได้มีเหตุการณ์อาฟเตอร์ช็อกที่รุนแรงเลย ไม่มีการรู้สึกว่าแผ่นดินไหวเพิ่มเติม”
นายชัชชาติกล่าวอีกว่า ไม่มีเหตุผลเลยที่อาคารจะมีการเสียหายเพิ่มเติมขึ้นจากเมื่อวันศุกร์ เพราะฉะนั้นสิ่งที่เกิดขึ้นก็เป็นความตื่นตระหนกของพี่น้องประชาชนที่อยู่ในอาคาร หลายๆ อาคารที่เกิดเหตุเมื่อเช้านี้ก็ได้มีการให้กลับเข้าไปสู่อาคารแล้ว ไม่ว่าจะเป็นอาคารศูนย์ราชการ หรือแม้กระทั่งโรงพยาบาลตากสินของ กทม.เอง อาคารธานีนพรัตน์ ของกรุงเทพมหานคร
“ต้องเรียนว่าก็ต้องอยู่ด้วยสติครับ หลายครั้งเราอาจจะดูจากโซเชียลมีเดีย หรือจากความรู้สึกของคนบางคน ผมว่าต้องประเมินสถานการณ์ และก็อย่างที่เรียนว่าไม่ได้มีเหตุผลอะไรที่เพิ่มเติมที่ทําให้อาคารมีความเสียหายเลยนะครับ กรณีเดียวที่อาจต้องระวังคือถ้าเกิดมีรอยร้าวรุนแรงเพิ่มเติม ซึ่งทั้งหมดที่ได้รับแจ้งมาเมื่อเช้าไม่มีเหตุการณ์นั้นนะครับ
ก็ขอให้พี่น้องประชาชนอย่าตื่นตระหนกนะครับ เพราะว่าการตื่นตระหนกยิ่งทําให้สถานการณ์แย่ลง แล้วอนาคตจะทําให้เกิด อาจจะไม่ค่อยไว้ใจ แล้วก็พอถึงเวลาอพยพที่แท้จริงคนกลับละเลย ก็ขอให้มั่นใจครับ แล้วก็มีสติ ถ้าต้องการให้ กทม.เข้าไปตรวจสอบ แจ้งมาได้ที่เบอร์ 1555 หรือทาง Traffy Fondue เราก็จะพร้อมไปตรวจสอบให้
สถานการณ์ปัจจุบันไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงครับ ทุกอย่างอยู่ในภาวะปกติ อาคารเกือบทั้งหมดที่ได้เกิดเหตุการณ์เมื่อเช้า ก็ได้มีการให้ประชาชนกลับเข้าสู่สถานที่แล้วนะครับ แล้วก็อีกประการหนึ่ง การส่งต่อข้อความทางโซเชียลมีเดีย ถ้ามีการส่งข้อความที่ผิดพลาด และมีการพบว่าไม่จริง ก็ขอกรุณาให้แก้ไขด้วยนะครับ เช่นมีการส่งว่าอาคารนี้ทรุดตัว แต่ถ้าเกิดสุดท้ายแล้วไม่มีจริง ก็ช่วยส่งแก้ไขด้วย เพราะว่าคงไม่ได้ส่งแต่ข่าวไม่ดี ถ้ามีข่าวดีก็ขอให้ส่ง เพื่อให้เกิดความเข้าใจตรงกันด้วยครับ เพราะฉะนั้นยืนยันว่าปัจจุบันไม่มีเหตุการณ์ที่ น่าเป็นห่วงครับ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อเช้าเป็นอาการที่เราอาจจะตื่นตระหนกเกินไปครับ ขอบคุณครับ” นายชัชชาติกล่าว