ตลาดรถเช่าในประเทศไทยมีทิศทางการขยายตัวอย่างชัดเจน และมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่องในช่วงหลายปีข้างหน้า โดยคาดว่าในปี พ.ศ. 2568 มูลค่าตลาดจะเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 55,000 ล้านบาท จากเดิมที่ประมาณ 51,000 ล้านบาทในปี 2566 สะท้อนถึงอัตราการเติบโตเฉลี่ยประมาณ 5-8% ต่อปี ปัจจัยสำคัญในการสนับสนุนการเติบโตครั้งนี้มาจากการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยวและการกลับมาดำเนินกิจกรรมทางเศรษฐกิจของภาคธุรกิจในระดับที่ใกล้เคียงกับช่วงก่อนเกิดวิกฤตโควิด-19
จากข้อมูลของศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจ ทีทีบี (ttb analytics) ชี้ให้เห็นว่าตลาดรถเช่าแบ่งเป็นตลาดรถเช่าระยะยาวและระยะสั้น โดยตลาดระยะยาวครองสัดส่วนที่ใหญ่กว่า เนื่องจากลูกค้าองค์กรต้องการลดความยุ่งยากและเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการยานพาหนะ ส่วนตลาดระยะสั้นมีการเติบโตจากกลุ่มนักท่องเที่ยวและธุรกิจขนาดเล็กที่ต้องการความคล่องตัวในการเดินทาง
บริษัท SP SMART VAN ผู้ให้บริการรถตู้เช่าพร้อมคนขับ ระบุว่าตลาดรถตู้เช่ามีการเติบโตที่ดีและมีโอกาสขยายตัวสูงในระยะยาว โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าที่เน้นความสะดวกสบายในการเดินทางเป็นกลุ่มใหญ่ เช่น นักท่องเที่ยว กลุ่มองค์กร และกลุ่มธุรกิจ บริษัทจึงให้ความสำคัญในการลงทุนด้านคุณภาพการบริการและพนักงานที่มีความเชี่ยวชาญ รวมถึงการดูแลรักษายานพาหนะให้อยู่ในสภาพสมบูรณ์เสมอ โดยคาดการณ์ว่าส่วนแบ่งตลาดรถตู้ให้เช่าจะอยู่ที่ประมาณ 10-15% ของตลาดรถเช่าทั้งหมดในปี 2568
อย่างไรก็ตาม ผู้ประกอบการในตลาดรถเช่ายังคงต้องเผชิญกับการแข่งขันที่รุนแรงและซับซ้อนมากขึ้น โดยเฉพาะจากแพลตฟอร์มดิจิทัลและผู้ประกอบการรายใหม่ที่นำเสนอความสะดวกในการจองบริการผ่านช่องทางออนไลน์ เพื่อรับมือกับการแข่งขันที่สูงขึ้นนี้ ผู้ประกอบการต้องวางกลยุทธ์เชิงรุกโดยการพัฒนาและนำเสนอจุดเด่นที่แตกต่างของบริการ ไม่ว่าจะเป็นด้านความสะดวกสบาย ความปลอดภัย ความรวดเร็วในการให้บริการ หรือการสร้างประสบการณ์ที่น่าประทับใจให้กับลูกค้า
นอกจากนี้ การนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ในการบริหารจัดการธุรกิจจะเป็นตัวช่วยสำคัญในการเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการ ลดต้นทุนการดำเนินงาน และเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้อย่างตรงเป้าหมายและรวดเร็วมากขึ้น
สรุปได้ว่า ตลาดรถเช่าในประเทศไทยยังมีโอกาสเติบโตอย่างแข็งแกร่งในอนาคต โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มรถตู้เช่าที่มีโอกาสการเติบโตอย่างชัดเจน ผู้ประกอบการที่วางกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจอย่างมีประสิทธิภาพและตอบสนองความต้องการของตลาดอย่างตรงจุดจะสามารถก้าวสู่การเติบโตอย่างยั่งยืนและมีเสถียรภาพในระยะยาว