เพจ “มนุษย์ควัน” ตั้งคำถามดังๆ ถึงรัฐบาล แบนบุหรี่ไฟฟ้ามา 10 ปี ทำไมยังมีการระบาดในเด็ก ผู้ใช้บุหรี่ไฟฟ้าเต็มเมือง การปรามปรามจะแก้ปัญหาได้ยั่งยืนหรือไม่ และทำไม 80 ประเทศไม่แบน เผยส่งจดหมายเปิดผนึกถึง สส. 495 คน จี้รัฐหาแนวทางควบคุมบุหรี่ไฟฟ้าในประเทศไทยอย่างเหมาะสม ดีกว่าไล่แบนไล่จับ
เมื่อวันที่ 19 มี.ค. นายสาริษฏ์ สิทธิเสรีชน ตัวแทนผู้ใช้บุหรี่ไฟฟ้า โพสต์ในเพจ “มนุษย์ควัน” ซึ่งมีผู้ติดตามมากกว่า 25,000 คนตั้งคำถามถึงรัฐบาลว่า “ในฐานะตัวแทนผู้ใช้บุหรี่ไฟฟ้ากว่า 1 ล้านคนในประเทศไทย ผมอยากถามว่านโยบายการแบนบุหรี่ไฟฟ้าช่วยให้สถานการณ์การลักลอบใช้บุหรี่ไฟฟ้า ปัญหาเด็กเยาวชน มันดีขึ้นกว่า 10 ปีที่ผ่านมาหรือไม่? การปราบปรามบุหรี่ไฟฟ้าจะทำให้ตลาดใต้ดินและส่วยบุหรี่ไฟฟ้าหมดไปจากสังคมไทยได้จริงหรือ? และที่สำคัญคือ ถ้าบุหรี่ไฟฟ้าอันตรายกว่าบุหรี่มวนจริง ทำไมกว่า 80 ประเทศทั่วโลกถึงอนุญาตให้จำหน่ายได้อย่างถูกกฎหมาย?”
นายสาริษฎ์ ยังเผยว่าได้ส่งจดหมายเปิดผนึกไปถึงสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจำนวน 495 คน ซึ่งกำลังจะมีการพิจารณารายงานของ กมธ. บุหรี่ไฟฟ้าในเร็ว ๆ นี้ว่า “ทุกวันนี้เห็นข่าวการเข้มงวดจับกุมเครือข่ายลักลอบนำเข้าและจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้ารายวันตามคำสั่งของนายกรัฐมนตรี แต่หลายๆ ครั้งที่ผ่านมาก็เห็นได้ชัดว่าการปราบปรามเอาจริงเป็นระยะๆ แต่ก็ไม่สามารถแก้ปัญหาได้ในระยะยาว เนื่องจากการเพิ่มขึ้นของผู้ใช้บุหรี่ไฟฟ้ากว่า 10 ปีที่ผ่านมา สะท้อนให้เห็นถึงความต้องการของผู้สูบบุหรี่จำนวนมากที่ต้องการทางเลือกแบบใหม่ อย่างที่มีในประเทศที่พัฒนาแล้ว เมื่อมีความต้องการในตลาดสูง ก็ย่อมมีผู้ลักลอบนำเข้ามา เกิดตลาดใต้ดินซึ่งไร้การควบคุม ส่งผลให้เกิดปัญหา เช่น การเข้าถึงง่ายของเยาวชน การซื้อขายทางช่องทางออนไลน์ จนเห็นได้ว่าปัญหามันรุนแรงเกินกว่าจะซุกไว้ใต้ดินเหมือนเดิมแล้ว ควรคิดใหม่ทำใหม่และนำมาควบคุมให้เหมาะสมเช่นเดียวกับที่คุมบุหรี่มวน”
“การแบนบุหรี่ไฟฟ้าเป็นนโยบายที่สวนทางกับกว่า 80 ประเทศทั่วโลกที่ระบุว่าบุหรี่ไฟฟ้าเป็นทางเลือกในการลดสารพิษจากควันบุหรี่ จึงอนุญาตให้บุหรี่ไฟฟ้าและผลิตภัณฑ์ยาสูบแบบใช้ความร้อนเป็นสินค้าถูกกฎหมาย บางประเทศ เช่น อังกฤษและนิวซีแลนด์ยกให้บุหรี่ไฟฟ้าเป็นเครื่องมือช่วยเลิกบุหรี่ และมีการรณรงค์แจกบุหรี่ไฟฟ้าชุดตั้งต้นฟรีให้กับผู้สูบบุหรี่ด้วย จนทำให้อัตราการสูบบุหรี่ของอังกฤษลดลงต่ำสุดเหลือเพียง 11% ซึ่งต่ำที่สุดเป็นประวัติการณ์”
นายสาริษฏ์ยังเสริมว่า “หากบุหรี่ไฟฟ้าและผลิตภัณฑ์ยาสูบแบบให้ความร้อนถูกกฎหมาย รัฐบาลจะสามารถควบคุมคุณภาพและมาตรฐาน ซึ่งจะแก้ปัญหาการปนเปื้อนของสารพิษ โลหะหนัก หรือการผสมส่วนประกอบที่ไม่เหมาะสม ซึ่งเป็นอันตรายต่อสุขภาพผู้บริโภค ดังที่เป็นข่าวที่ผ่านมา อีกทั้ง ยังสามารถสร้างรายได้ให้รัฐ แก้ปัญหาธุรกิจใต้ดินได้ และที่สำคัญการมีกฎหมายควบคุมที่เหมาะสมและเข้มงวด จะสามารถป้องกันการเข้าถึงบุหรี่ไฟฟ้าของเยาวชนได้ดีกว่าการซุกบุหรี่ไฟฟ้าไว้ใต้ดิน และยังช่วยชาวไร่ยาสูบได้อีกทาง“
“อยากให้นายกรัฐมนตรีช่วยตอบคำถาม 3 ข้อของผม และฝากไปถึงสภาและ สส. ที่กำลังจะพิจารณารายงานของ กมธ. บุหรี่ไฟฟ้า ให้ได้รับทราบข้อมูลนี้เพื่อหาแนวทางที่เหมาะสมกับการกำกับดูแลบุหรี่ไฟฟ้าในประเทศไทย” นายสาริษฎ์ทิ้งท้าย