วิจารณ์สนั่น เพจดังเผยแพร่หลังครอบครัวเทวาจุติกลับมาจัดกิจกรรม พบ "อาจารย์น้องไนซ์ นิรมิตเทวาจุติ" แต่งชุดไทยจัดเต็ม เดินให้กลุ่มผู้ศรัทธากราบไหว้ โดยชาวเน็ตตั้งคำถามแบบนี้เรียกละเมิดคำสั่งศาลฯ หรือไม่
จากกรณีได้เกิดกลุ่มผู้ศรัทธา อาจารย์น้องไนซ์ นิรมิตเทวาจุติ’ หรือ เด็กชายนิรมิต วัย 8 ขวบ ผู้อ้างตนเป็นร่างอวตารองค์เพชรภัทรนาคานาคราช ด้วยความสามารถในการเชื่อมจิตและหยั่งรู้เรื่องราวต่างๆ บนโลก ทั้งอดีตและอนาคต รวมถึงเรื่องราวความศักดิ์สิทธิ์ที่บอกเล่าจากปากพ่อแม่ ทำให้เขามีผู้ติดตามทั้งผ่านช่องทางโซเชียลฯ และที่เดินทางไปร่วมฟังเขาถ่ายทอดคำสอนตามจังหวัดต่างๆ รวมหลายพันคน ต่อมาเรื่องของอาจารย์น้องไนซ์ถูกวิจารณ์และผู้คนพูดถึงมาระยะหนึ่ง เป็นผลมาจากการฟ้องร้องดำเนินคดีทางกฎหมายจากฝ่ายผู้ปกครองและทนายความจากฝั่งน้องไนซ์ หลังจากเริ่มมีการตั้งข้อสังเกตกิจกรรมดังกล่าวเริ่มถูกตั้งคำถามมากขึ้น รวมถึงมีการเปิดเผยเรื่องค่าใช้จ่ายในการเข้าอบรม จนเกิดเป็นกระแสขึ้นมา ปมเรื่องเชื่อมจิตถูกหยิบขึ้นมาถกเถียงจากฝ่ายผู้รู้ทางพุทธศาสนาว่าไม่มีในพระไตรปิฎก จนเรื่องราวไปจบที่ศาลมีคำสั่งให้ทางครอบครัวหรือน้องไนซ์ห้ามทำกิจกรรมไลฟ์สดอันเกี่ยวกับการเชื่อมจิต ห้ามเผยแพร่คำสอนทางพุทธศาสนาฯ ตามที่นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น
วันนี้ (16 มี.ค.) เพจ "อีซ้อขยี้ข่าว : อีซ้อ" ได้โพสต์ภาพพร้อมข้อความ เป็นเหตุการณ์ที่อาจารย์น้องไนซ์แต่งชุดไทยชุดใหญ่ โดยมีผู้คนที่ศรัทธาก้มกราบไหว้ตลอดทางที่เดินผ่าน พร้อมทั้งทางเพจได้ระบุข้อความว่า “ปิดเทอมใหญ่หัวใจว้าวุ่น องค์เทวาได้กลับมาจุติอีกรอบใน Ep.2 ตอน “หนูเป็นสาวแล้ว”
และยังได้อธิบายเพิ่มเติมอีกว่า ”ละเมิดคำสั่งศาลชัดเจน ยังไงดี? วันที่ 28 ส.ค. 67 ที่ศาลเยาวชนและครอบครัว จ.สุราษฎร์ธานี คณะผู้พิพากษาออกบัลลังก์ อ่านคำสั่งในคดี คส.2/2567 คดีที่ พมจ.สุราษฎร์ธานี เป็นผู้ร้องให้ศาลมีคำสั่งคุ้มครองสวัสดิภาพน้องไนซ์ (นามสมมติ) อายุ 8 ขวบ ห้ามไม่ให้ น.ส.นัฐพร วงศ์ทวิชาติ แม่น้องไนซ์ กับพวกรวม 2 คน โดยขอให้ศาลมีคำสั่ง 1. ห้ามทำกิจกรรมไลฟ์สดอันเกี่ยวกับการเชื่อมจิต 2. ห้ามเผยแพร่คำสอนทางพุทธศาสนาอันเป็นการบิดเบือน หรือผิดเพี้ยนจากหลักทางพระพุทธศาสนา และไม่ปรากฏหลักฐานในพระไตรปิฎก 3. ห้ามใช้สื่อต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับเด็กในการดำเนินกิจกรรมเชื่อมจิต ไม่ว่าจะเป็นภาพถ่าย รวมถึงภาพเคลื่อนไหวหรือสื่ออื่นที่เป็นการยืนยันถึงตัวเด็ก 4. ห้ามจัดกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการเชื่อมจิต และ 5. ออกคำสั่งกำหนดมาตรการ หรือวิธีการเพื่อเป็นการคุ้มครองสวัสดิภาพเด็กตามที่ศาลเห็นสมควร“ พร้อมทั้งลงคลิปการจัดกิจกรรมดังกล่าวด้วย