ทนายความของ ผกก.โจ้ ที่เสียชีวิตในเรือนจำเมื่อคืน แจ้งความ สน.ประชาชื่น และขออายัดศพไปชันสูตร ระบุติดใจการเสียชีวิต เผยเมื่อวานนี้ญาติมาเยี่ยม เจ้าตัวเปรยถูกเรียกไปสอบวินัยข้อหากระด้างกระเดื่อง ก่อนหน้านั้นเคยถูกทำร้ายร่างกาย แจ้งความเอาไว้แล้ว ตำรวจจะเข้าไปสอบสวนถึง 2 ครั้งแต่ไม่ให้เข้า
วันนี้ (8 มี.ค.) จากกรณีที่มีรายงานว่า เมื่อเวลาประมาณ 23.00 น. ของวันศุกร์ที่ 7 มี.ค. 2568 ศูนย์วิทยุ สน.ประชาชื่น ได้รับแจ้งจากเรือนจำคลองเปรมว่า พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล หรือ ผู้กำกับโจ้ อดีตผู้กำกับสถานีตำรวจภูธรเมืองนครสวรรค์ อายุ 43 ปี ฆ่าตัวตายด้วยการแขวนคอ ภายในห้องขังหมายเลข 50 ตึกนอนแดน 5 เรือนจำกลางคลองเปรม โดยแหล่งข่าวจากเรือนจำระบุว่า พ.ต.อ.ธิติสรรค์ ได้เคยมีความพยายามในการทำอัตวินิบาตกรรมมาก่อนแล้ว เนื่องจากความผิดหวังหลายๆ ประการ แต่เจ้าหน้าที่และเพื่อนนักโทษได้ช่วยเหลือจนรอดชีวิตมาก่อนแล้ว
ปรากฎว่า นายวีรศักดิ์ นาคิน ทนายความของ พ.ต.อ.ธิติสรรค์ เปิดเผยกับ MGR Online ว่า รับทราบว่า พ.ต.อ.ธิติสรรค์ เสียชีวิตลงเมื่อเวลาประมาณ 23.00 น. ของเมื่อคืนที่ผ่านมา (7 มี.ค.) หลังจากที่ถูกเรียกสอบสวนวินัยโดยอ้างว่า พ.ต.อ.ธิติสรรค์ กระด้างกระเดื่อง มีความผิดทางวินัย ก่อนหน้านี้มีการร้องเรียนว่า พ.ต.อ.ธิติสรรค์ ถูกทำร้ายร่างกาย และแจ้งความร้องทุกข์ไว้ที่ สน.ประชาชื่น และทางเรือนจำมีการตั้งคณะกรรมการสอบผู้คุมที่ถูกร้องเรียน
ก่อนหน้านี้ญาติของ พ.ต.อ.ธิติสรรค์ ได้เข้าไปเยี่ยมเมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา เหตุการณ์ก็เป็นไปปกติ และ พ.ต.อ.ธิติสรรค์ กล่าวว่า ต้องเข้าไปสอบสวนประมาณหลังเวลา 15.00 น. เพราะเขาเรียกไปสอบสวนวินัยในความผิดกระด้างกระเดื่อง ก่อนที่จะเกิดเหตุเมื่อคืนที่ผ่านมา ขณะนี้อยู่ในระหว่างแจ้งความร้องทุกข์ที่ สน.ประชาชื่น เพราะ พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อยู่ในเรือนจำ และมีการเสียชีวิตเกิดขึ้น ก่อนที่จะเข้าไปที่เรือนจำกลางคลองเปรม ซึ่งติดใจในประเด็นว่าเกิดจากอะไร เพราะยังไม่ทราบสาเหตุที่แท้จริง ซึ่งจะขออายัดศพเพื่อไปชันสูตรที่โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ จ.ปทุมธานีต่อไป
นายวีรศักดิ์ กล่าวว่า เรื่องการทำร้ายร่างกาย พ.ต.อ.ธิติสรรค์ เคยมีการมอบหมายให้ตนแจ้งความร้องทุกข์กับ สน.ประชาชื่นมาแล้วครั้งหนึ่ง โดยมีใบรับรองแพทย์ระบุว่ามีรอยฟกช้ำ ตำรวจเคยขอเข้าไปสอบสวนผู้ต้องขังเรื่องการทำร้ายร่างกายถึง 2 ครั้ง แต่ผู้บัญชาการเรือนจำไม่อนุญาตให้เข้าไปทั้งสองครั้ง และไม่ให้ทนายความเข้าไปด้วย