xs
xsm
sm
md
lg

‘Bangkok Error’ โดย ‘พุดชมพู เส็งหลวง’ จิตสำนึกสร้างได้ เมืองเปลี่ยนได้ด้วยมือเรา

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


‘พุดชมพู เส็งหลวง’ ผู้เขียน ‘Bangkok Error’


สายไฟระโยงระยาง, หนทางสัญจรที่ไม่ได้เหมาะกับผู้นั่งรถเข็น, ความเสี่ยงชีวิตในการข้ามทางม้าลาย, ระเบิดอึหมา, น้ำกัดเท้า, น้ำท่วมเปียกโชกทั้งที่ฝนตกแค่ 10 นาที, ป้าร้านตามสั่งจอมสาด, รถเมล์น่าหวาดเสียว
และอีกหลากหลายแก๊ก สารพัดมุกโดนใจ ราวกับว่าเราล้วนมีประสบการณ์ตรงร่วมกันในมหานครกรุงเทพแห่งนี้

จากงาน Thesis พัฒนามาสู่ Zine น่าอ่าน ในชื่อ ‘Bangkok Error’ ที่สะท้อนได้แบบจิกกัด แสบๆ คันๆ หากก็ฉุดดึงและกระตุ้นจิตสำนึกได้อย่างดียิ่ง ผ่านลายเส้นอันเป็นเอกลักษณ์ ที่ถ่ายทอดผ่าน Comic อ่านง่าย สบายตา

‘พุดชมพู เส็งหลวง’ ผู้เขียน ‘Bangkok Error’
‘ผู้จัดการออนไลน์’ สัมภาษณ์พิเศษ ‘พุดชมพู เส็งหลวง’ ผู้เขียน ‘Bangkok Error’
ที่ไม่เพียงสะท้อนปัญหาของกรุงเทพฯ ได้อย่างตรงใจ น่าอ่าน กระตุ้นจิตสำนึก หากยังแฝงแง่คิด อารยสถาปัตย์ หรือ Universal Design ไว้ได้อย่างน่าสนใจ

จุดเริ่มต้นจาก Human behavior


ขอให้ช่วยเล่าถึงความเป็นมาในการทำ Zine ‘Bangkok Error’
พุดชมพูตอบว่า จุดเริ่มต้นคือ งานนี้เป็นส่วนหนึ่งของ Thesis เมื่อครั้งเรียนจบปี 4 คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ สาขา Communication Design จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
และแรกเริ่มนั้น หัวข้อที่เลือกทำอาจยังไม่ได้เป็นหัวข้อของเมือง หรือ Urban design มาตั้งแต่ต้น

“จริงๆ แล้วมีหัวข้ออื่นที่เราค่อยๆ ก่อร่างมาก่อนค่ะ ซึ่งตอนนั้นหัวข้อที่เราทำการ Research เป็นหัวข้อที่เกี่ยวกับการควบคุมรยางค์ต่างๆ ของร่างกายมนุษย์น่ะค่ะ เป็น Human behavior”

“แล้วตอนนั้น ดูไปจนถึงเรื่องที่ว่า ทำไมบางคนถึงควบคุมรยางค์ได้ดีกว่า ทำไมบางคนถึงซุ่มซ่าม เช่น ในบ้านของเรา ก็บังเอิญเดินเตะโต๊ะทั้งที่เรารู้อยู่แล้วว่าโต๊ะมันอยู่ตรงนั้น หรือเดินในทางเดินแล้วไปเฉียดผนัง เหมือนเราควบคุมไม่ได้ พวกเหตุการณ์ซุ่มซ่ามเล็กๆ น้อยๆ ต่างๆ แล้วก็ ‎Develop มาเรื่อยๆ Research ไปๆ มาๆ ก็ค้นพบว่า มันไม่ใช่ความผิดของร่างกายของคนๆ นั้น มันเป็นเรื่องของการพัฒนากล้ามเนื้อด้วย และปัจจัยอะไรหลายๆ อย่าง ดังนั้น การใช้คำว่าซุ่มซ่าม มันเหมือนไปเบลมว่าเป็นความผิดของคนๆ นั้น
เราก็เลยใช้คำว่า Human Error ขึ้นมา เพราะว่าถ้าเราพูดเรื่องนี้ก็เหมือนว่า ไม่ใช่เรื่องใหญ่ ทุกคนสามารถ Error กันได้”

พัฒนาประเด็นสู่ Human Error


พุดชมพูกล่าวว่า เมื่อมาดูประเด็น Human Error ก็รู้สึกว่า ถ้ามันเกิดใน space ของเรา ในบ้านของเรา เราก็ยังสามารถปรับเปลี่ยนได้ แต่ถ้าเราออกไปข้างนอก ในพื้นที่ส่วนรวม เราอาจจะไม่สามารถมีอำนาจปรับเปลี่ยนได้ตามใจชอบของเรา และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง หากเกิด Human Error ข้างนอก จากอุบัติเหตุเล็กๆ น้อยๆ มันอาจจะใหญ่และอันตรายถึงแก่ชีวิตก็ได้


ถามว่า พัฒนาประเด็น หรือหัวข้อดังกล่าวมาถึงจุดที่เป็น ‘Bangkok Error’ ได้อย่างไร
พุดชมพูตอบว่า “มาถึงจุดที่รู้สึกว่า การดีไซน์เมืองมันเริ่มน่าสนใจ อย่างที่บอกว่า ถ้าเราออกไป Human Error ข้างนอก มันเป็นอุบัติเหตุได้อาจจะถึงตายได้ พฤติกรรมการ Error แบบนี้ มีสิทธิ์จะเกิดกับทุกคน เกิดกับใครก็ได้ ก็เลยมาสนใจเรื่องของการที่เราจะออกแบบเมือง หรือสถานที่ที่เป็น Public ที่คนส่วนใหญ่ คนหลายๆ แบบจะเข้ามาใช้ เพื่อให้ตอบสนองต่อความต้องการของผู้ใช้หลายแบบมากขึ้น เพราะเมืองมีคนอาศัยอยู่หลายรุ่นหลายช่วงอายุที่มาอยู่ด้วยกัน”


Universal Design

พุดชมพูกล่าวว่า “แล้วถ้าหากสมมติว่าเมืองและ Public Service ต่างๆ ถูกออกแบบมาให้มันเหมาะกับหลายๆ คนใช้จริงๆ เหมาะกับผู้ใช้ คำนึงถึงความปลอดภัย พวกสถานการณ์ที่อาจจะเป็นอุบัติเหตุหรือการตายก็อาจจะน้อยลง”

ถามว่าเช่นนั้นแล้ว ประเด็นที่คุณทำย่อมมีเรื่องของ อารยสถาปัตย์ หรือ Universal Design ด้วย (หมายเหตุ : Universal Design คือการออกแบบเพื่อทุกคน ไม่ว่าเพศวัยใด รวมไปถึงคนทุพพลภาพ หัวใจสำคัญของการออกแบบคือความเท่าเทียมในการใช้งานได้ของทุกคน )
พุดชมพูตอบว่า “ใช่ค่ะ มีหัวข้อนี้ ใน Zine จะมีตอนต่างๆ ซึ่งมีตอนหนึ่ง พูดถึง Universal Design ด้วยเหมือนกัน”


กว่าจะเป็นมุกโดนใจ

ถามว่า มุกที่คุณใช้ตรงกับประสบการณ์จริงของใครหลายๆ คนมาก ไม่ทราบว่ามีกระบวนการจัดทำข้อมูลอย่างไร เตรียมข้อมูลอย่างไร เป็นประสบการณ์ตรงของคุณและเพื่อนๆ ด้วยไหม

พุดชมพูตอบว่า “จริงๆ ก็ใช่ค่ะ เพราะเราเกิดและโตที่กรุงเทพฯ มาตลอด รวมถึงเพื่อนๆ หลายคนก็เป็นคนกรุงเทพฯ เมื่อเป็นคนกรุงเทพฯ เราก็ล้วนมีประสบกาณ์ที่เราเจอเหมือนๆ กัน เพราะเราออกมาใช้ชีวิตในเมือง”

“ตอนทำข้อมูล เทอมแรก จะเป็นการ Research ข้อมูลอย่างจริงจัง เทอมที่สอง เริ่ม ‎Develop
สำหรับวิธีการหาข้อมูล เช่น ตอนที่เป็นเรื่อง ‘ทางเท้า’ ก็ต้องออกไปเดินทางเท้าจริงๆ แล้วก็เก็บข้อมูล แล้วทางเท้าก็ต้องมีหลายพื้นที่เพื่อจะได้เก็บข้อมูลทางเท้าหลายๆ แบบ หลายๆ สถานการณ์
หรือว่าถ้าเป็นเรื่องความเห็นคนกรุงเทพฯ ในเรื่องที่ว่าเคยเจออะไรกันบ้าง ก็จะเป็นการทำโพล หรือใบแสดงความคิดเห็นค่ะ”








กว่าจะเป็น Zine ‘Bangkok Error’

ถามว่าการ์ตูนทั้งหมดในเล่มวาดเองใช่ไหม
หญิงสาวตอบว่า “วาดเองหมดเลยค่ะ”

อดถามไม่ได้ว่า ปกที่ทำ Zine ออกมา สวยงาม และทุกอย่างเหมือนที่เราเจอในชีวิตจริง ขอถามถึงกระบวนการทำ Zine บ้าง
เจ้าของไอเดีย Bangkok Error ตอบว่า “จริงๆ แล้วก่อนจะเป็น Zine แบบที่เห็น มันเคยเป็นกึ่งๆ หนังสือ ที่ไม่ใช่ Comic ล้วน แต่เรียงเป็นการ์ตูนแก๊ก แล้วมี session ให้อ่าน ตอนแรกตั้งใจทำเป็นหนังสือ เพราะลึกๆ ในใจ ชอบวาดรูป ชอบหนังสือ ชอบกระดาษอยู่แล้วค่ะ แล้วพอเป็น Thesis ก็คิดว่าคงจะดี ถ้าทำออกมาในแบบที่เราชอบ”

“เรื่องนี้เป็นเรื่องที่เกี่ยวกับทุกคน คนหลายรุ่น คงจะดีถ้าอ่านได้ทุกวัย แล้วเด็กๆสมัยนี้ อาจจะอ่านหนังสือกันน้อยลง ถ้าเราสื่อสารผ่าน Comic ที่ไม่ต้องอ่านหนังสือเยอะจริงๆ จังๆ มันก็อาจจะเข้าถึงคนได้เยอะขึ้น แค่สั้นๆ อ่านกันแป๊บเดียว เด็กที่อายุน้อยๆ เมื่อได้อ่านวันนี้ อนาคต เมื่อโตขึ้น เค้าก็อาจจะกลายเป็นคนพัฒนาเมือง”

ถามว่า มีประเด็น อารยสถาปัตย์ หรือ Universal Design พูดถึงในแง่ใดอีกบ้าง
พุดชมพูตอบว่า “ที่จริงแล้ว ตัวเนื้อหาของ Comic แบ่งเป็น 1 ตอน พูด 1 เรื่อง แล้วตอนอารยสถาปัตย์ หรือ Universal Design มันเป็นแค่หนึ่งตอนที่ตามมา เพื่อที่จะตบท้าย”

“เช่น ในแต่ละตอน อาจจะมีตอนทางเท้า, รถเมล์, ต้นไม้ ร่มเงาที่น้อย แต่ตอนสุดท้ายของเรา เป็น Universal Design เหมือนจะบอกว่า ในชีวิตของเราหรือในการดีไซน์ออกแบบเมือง ถ้าเราแค่ใส่ดีไซน์เข้ามาเล็กๆ น้อยๆ ก็อาจจะช่วยให้การดำเนินชีวิตมันง่ายขึ้น สะดวกขึ้น”

“ส่วนตัวคิดว่า อารยสถาปัตย์ มันอาจจะต้องตามมาทีหลัง เพราะเป็นการใส่ดีไซน์ลงไปในชีวิตประจำวัน เป็นการออกแบบในสิ่งที่เราใช้ร่วมกัน มันเหมือนเราต้องมีอะไรที่เป็นพื้นฐานก่อน”

“ใน Zine ‘Bangkok Error’ เราพูดถึงเมืองที่มีอยู่แล้ว คือกรุงเทพฯ ซึ่งหลายๆ อย่างที่เป็นพื้นฐานก็ไม่ค่อย Connect กันเท่าไหร่ พัฒนาต่อไปได้อีก ก่อนที่จะนำเอา Universal Design เข้ามาด้วยซ้ำ”

“หลักๆ แล้ว การเล่าเรื่องตรงนี้ มุ่งหวังให้เกิดเป็นการกระตุ้นเรื่องของจิตสำนึกด้วยค่ะ เพราะก่อนที่เราจะพัฒนาอะไร ใส่ดีไซน์อะไร เราต้องสำนึกก่อนว่าเราต้องใช้พื้นที่ร่วมกันนะ ว่ามันต้องดีขึ้นได้ เราต้องเชื่อร่วมกันก่อน”

ถามว่ามีโปรเจกต์ต่อเนื่องอะไรอีกบ้างของ ‘Bangkok Error’
พุดชมพูตอบว่า มีแพลนที่จะแปลเป็นภาษาอังกฤษ กับทาง SPACEBAR ZINE โดยคาดว่าอาจใช้เวลาอีก 1-2 เดือน




Key audience

ถามว่า ทำ ‘Bangkok Error’ ขึ้นมานั้น ถึงขั้นอยากให้ผู้มีอำนาจ ผู้กำหนดนโยบายได้อ่านไหม
พุดชมพูตอบว่า ผู้ที่เป็น key audience ของเราคือ คนกรุงเทพฯ ไม่ว่าจะอายุเท่าไหร่ เพราะอย่างที่บอกว่า คนกรุงเทพฯ อาจจะมีความเบื่อและชินที่เราอยู่กันแบบนี้ เราชิน เราเลือกที่จะไม่พูดถึง เรารับสภาพ หรือบางคนอาจจะเริ่มจากการบ่น
คนกรุงเทพฯ อาจเป็นแบบนั้น ใบที่สอบถามความคิดเห็นก็เป็นแบบนั้น

“แต่ถ้าเราเชื่อว่ามันแก้ได้ มันก็จะเกิดเป็นพลังในการพัฒนานะ
Bangkok Error เหมือนอยากให้ทุกคนหันกลับมาคุยเรื่องนี้กันมากกว่า Bangkok Error เป็นเหมือนประตูที่จะเปิดไปยัง conversation ต่างๆ ให้ทุกคนอย่าคิดว่าต้องเป็นเรื่องเหนื่อย เรื่องเครียด เพราะในความเป็นจริง แค่เราเปลี่ยนเพียงเล็กน้อย ก็จะช่วยทำให้เราปลอดภัยมากขึ้น สะดวกกันมากขึ้น”

เชื่อว่า หากผู้อ่านได้ลองเปิดประตูบานนี้ดู Bangkok Error ย่อมชวนให้อดฉุกคิดไม่ได้ว่า ความเปลี่ยนแปลงเพื่อให้เมืองๆ นี้น่าอยู่ขึ้น…สร้างได้ด้วยมือเรา ด้วยจิตสำนึกของเราทุกคน

………
Text by : รพีพรรณ สายัณห์ตระกูล
Photo by : พุดชมพู เส็งหลวง, SPACEBAR ZINE