ญาติผู้ป่วยวิจารณ์ระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าในปัจจุบันที่แย่ลงกว่าเดิม พบปัญหาหลักคือความไม่สอดคล้องกันระหว่างนโยบายของรัฐบาลกับงบประมาณที่จัดสรร และค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลจริง ซึ่งส่งผลกระทบต่อทั้งผู้ป่วยและบุคลากรทางการแพทย์
เมื่อวันที่ 3 มี.ค. ผู้ใช้เฟซบุ๊ก “Attavit Panyapinyophol” ออกมาโพสต์ข้อความบอกเล่าถึงปัญหาที่ตนเองพบเจอเกี่ยวกับระบบสาธารณสุขของไทย โดยสามารถสรุปได้ดังนี้
ภรรยาของผู้โพสต์ได้รับการรักษาและติดตามอาการมะเร็งที่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์มาโดยตลอด โดยมีการส่งตัวจากคลินิกปฐมภูมิอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดคลินิกปฐมภูมิแจ้งว่าไม่สามารถส่งตัวผู้ป่วยไปโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ได้อีกต่อไป เนื่องจากโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ไม่สามารถเบิกเงินจากสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ได้ และจะเรียกเก็บค่าใช้จ่ายจากคลินิกแทน
คลินิกปฐมภูมิมีงบประมาณจำกัด ไม่สามารถรับภาระค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นได้ ทำให้เกิดผลกระทบต่อผู้ป่วยที่มีโรคร้ายแรงต้องแบกรับภาระค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลเอง ผู้ป่วยที่มีฐานะยากจนอาจไม่สามารถเข้าถึงการรักษาพยาบาลที่จำเป็นได้
คลินิกปฐมภูมิได้รับงบประมาณค่ารักษาผู้ป่วยจากรัฐเพียง 10 บาทต่อคน ซึ่งไม่เพียงพอต่อค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลที่มีราคาสูง เช่น การทำ CT scan และ mammogram
นโยบายประชานิยมของรัฐบาลส่งผลให้เกิดปัญหาในการปฏิบัติงานจริง และภาระตกอยู่กับผู้ป่วยและบุคลากรทางการแพทย์
ปัญหาหลักคือความไม่สอดคล้องกันระหว่างนโยบายของรัฐบาล งบประมาณที่จัดสรร และค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลจริง ซึ่งส่งผลกระทบต่อทั้งผู้ป่วยและบุคลากรทางการแพทย์