“หมอแล็บฯ” เผยโรคไข้อีดำอีแดงคือเชื้อที่เกิดจากแบคทีเรียสเตรปโตคอคคัสชนิดเอ มักจะเจอในเด็กวัยเรียน อายุ 5-15 ปี หลังมีบางโรงเรียนระบาดหนักจนประกาศหยุด
วันนี้ (27 ก.พ.) โรงเรียนแห่งหนึ่งในจังหวัดสมุทรปราการได้ออกหนังสือประกาศหยุดการเรียนการสอน เนื่องจากมีการแพร่ระบาดของโรคไข้อีดำอีแดงของนักเรียนระดับชั้นอนุบาล และชั้นประถมศึกษา เพื่อให้ทางโรงเรียนดำเนินการควบคุมโรค ทำความสะอาดฆ่าเชื้อทั้งห้องเรียน และห้องน้ำ
ทางเพจ “หมอแล็บแพนด้า” หรือ ทนพ.ภาคภูมิ เดชหัสดิน นักเทคนิคการแพทย์ชื่อดัง ได้ออกมาโพสต์อธิบายเพิ่มเติมถึงโรคไข้อีดำอีแดง ระบุว่า “ไข้อีดำอีแดงระบาด บางโรงเรียนต้องหยุดเรียน!
ไข้อีดำอีแดง (Scarlet Fever) เป็นโรคติดเชื้อที่เกิดจากแบคทีเรียสเตรปโตคอคคัสชนิดเอ มักจะเจอในเด็กวัยเรียน อายุ 5-15 ปี
แบคทีเรียชนิดนี้สร้างสารพิษได้ ทำให้เกิดผื่นแดงขึ้นตามตัว เชื้อนี้สามารถติดต่อผ่าน:
• การไอหรือจาม
• การสัมผัสสารคัดหลั่ง เช่น น้ำลาย น้ำมูก
• การใช้ของร่วมกัน เช่น ของเล่น หรือข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ
อาการ
ผู้ป่วยมักจะแสดงอาการภายใน 1 สัปดาห์หลังติดเชื้อ
• มีไข้สูง
• เจ็บคอ อาจมีหนองหรือจุดเลือดออกที่ต่อมทอนซิล
• ผื่นแดงสากคล้ายกระดาษทราย เริ่มจากลำตัวและกระจายไปแขนขา มักไม่ขึ้นที่ใบหน้า แต่แก้มจะแดงและมีวงซีดรอบปาก
• ลิ้นแดงเป็นปุ่มๆ คล้ายสตรอว์เบอร์รี
• อาการอื่นๆ เช่น ปวดศีรษะ คลื่นไส้ อาเจียน ต่อมน้ำเหลืองโต หนาวสั่น และปวดท้อง
เนื่องจากเป็นเชื้อแบคทีเรีย ก็เลยรักษาได้ด้วยยาปฏิชีวนะ ซึ่งถ้าไม่รักษาอาจเกิดอาการแทรกซ้อน เช่น โรคไข้รูมาติก หรือหน่วยไตอักเสบเฉียบพลันได้
ถ้าพบการระบาดก็ควรให้หยุดเรียนหรือแยกตัวเด็กป่วยออกจากคนอื่น จนกว่าได้ยาปฏิชีวนะไปแล้วอย่างน้อย 24 ชั่วโมงจึงจะไม่แพร่เชื้อให้ผู้อื่นต่อไปนะครับ“