เพจดังเตือนภัย หลังลูกเพจเผยวินาทีชีวิต แพ้ยา ทำเกือบเสียโฉม หน้าตาบวม ผิวหนังหลุดลุ่ย ตาปิด เผยอาการหนักรุนแรงอาจถึงขั้นพิการหรืออาจทำให้เสียชีวิตได้
วันนี้ (10 ก.พ.) ลูกเพจฝากเตือนภัยเรื่องการแพ้ยารุนแรง ไม่ระบุชื่อยี่ห้อยานะครับ เพราะอาการแพ้ยารุนแรงแบบนี้สามารถเกิดกับยาได้แทบทุกตัว อยู่ที่ว่าจะโชคร้ายไปมีอาการตอนใช้ยาตัวไหนเข้า แต่ถ้ามีอาการสงสัยว่าจะแพ้ยา ต้องรีบหาหมอให้ไวเลย เพราะถ้าแพ้ยารุนแรงอาจถึงขั้นพิการหรือเสียชีวิตได้ อยากให้ช่วยแชร์ เรื่องระมัดระวังการใช้ยาด้วยนะคะ แพ้ยาแก้ปวดรุนแรง Stevens Johnson Syndrome กินยากลุ่มแก้ปวดมา ไม่เคยแพ้เลยค่ะ แต่พอมากินยาตัวนี้คือแพ้รุนแรงเลยค่ะ รักษาอยู่ห้อง ICU 36 วัน ทางคุณหมอไม่ให้ออกไปพักฟื้นข้างนอกเพราะกลัวแผลจะติดเชื้อค่ะ อยู่ตั้งแต่วันแรกจนออกจากโรงพยาบาลค่ะ
ยาตัวนี้หนูกินแล้วนอนค่ะ ตื่นมา ปากบวม หน้าเป็นตุ่มแดง ช่วงปากลอกเหมือนแผลร้อนใน มีไข้สูง ยังไม่ได้ไปโรงพยาบาลนะคะ คิดว่าเป็นอีสุกอีใส พอช่วง 1-2 ทุ่มถึงได้ไปโรงพยาบาลค่ะ คิดว่าน่าจะแพ้ยา ปัจจุบันหนูออกจากโรงพยาบาลได้ 3 เดือนแล้ว ตอนนี้ผลที่ตามมาคือทางด้านตาค่ะ เนื่องจากตาบวมเปลือกตาติดกัน ทำให้เปลือกตามีปัญหาด้วยค่ะ ตอนนี้ต้องคอยหยอดน้ำตาเทียมทุก 2 ชั่วโมงค่ะ มีอาการตาแห้งน้ำตาไหลค่ะ
อันนี้จากโพสต์ที่เจ้าตัวเคยเล่าไว้ตอนปลายปี ตอนเพิ่งป่วยหนักจากเรื่องนี้ steven johnson syndrome/ toxic epidermal necrolysis (เพิ่งดูจากใบรับรองแพทย์มา) แพ้ยา ไม่ใช่เรื่องตลก บางคนโชคดีไม่แพ้ แต่เราไม่ใช่ วันที่ 26 กันยายน 2567 ได้เข้าโรงพยาบาลเลือกรักษาที่ศูนย์การแพทย์แม่ฟ้าหลวง เพราะว่าเพิ่งรู้ว่าตัวเองแพ้ยาขั้นรุนแรง ไข้ปาไปถึง 40 องศา เข้าห้อง ICU พี่พยาบาลพากันเช็ดตัว ไข้ไม่ลด ต้องพากันทำซ้ำอีกรอบแบบน้ำชุ่มตัว อิฉันตอนมีสติก็สั่นไปเลยสิคะ ห้องแอร์อีก จะเล่าเท่าที่จำได้อะนะ อีกวันรอดูอาการก็เริ่มแย่ คุณหมอสั่งยาจาก กทม. สั่งเช้าตอนบ่ายๆ มาถึงก็ฉีดเลย 2 เข็ม ตุ่มผื่นเลยหยุดลาม
อีกช่วง 1 อาทิตย์ให้หลังนี่แหละช่วงวิกฤต ผิวหนังเริ่มพุพอง ตาเริ่มบวมจนเริ่มติดกัน คุณหมอตามาช่วยดูแล ตาต้องครอบคอนแทกต์เลนส์ไว้ตลอด ตาเริ่มมัวมองไม่ชัด ต้องหยอดน้ำตาเทียมตลอด มาที่หน้าคือบวมไม่ไหว เนื้อเยื่อในปากเริ่มลอกหลุดออกมา ใครที่ได้ไปเยี่ยมเห็นช่วงนั้นคือสุดๆ ละ คุณหมอทางด้านสกินเข้ามาดูแลต่อเรื่องผิว ว่าจะทำยังไงต่อไป จากนี้เริ่มจำไม่ค่อยได้ละเพราะยา หมอต้องจ่ายยาหนักเพราะจะได้ไม่รู้สึกเจ็บ ค่อยๆ ทำมาเป็นขั้นตอนรักษามาเรื่อยๆ เข้าห้องผ่าตัดนี่ 2 รอบได้ คุณหมอดูแลเต็มที่ ตัดมาที่หมอตา คุณหมอสั่งเนื้อเยื่อหุ้มให้จากเชียงใหม่ แต่ช่วงนั้นน้ำท่วมต้องรอ ได้ผ่าอีกทีวันที่ 16 ตุลาคม 2567 ได้ตัดไหมวันที่ 31 วันที่ 1 พฤศจิกายน 2567 ก็กลับบ้านเลย
ผมนี่ไม่รอด ผมร่วงมาก สุดแล้วต้องโกนรอขึ้นพร้อมกันทีเดียว ตอนนี้กลับบ้านแล้ว ผิวคิ้วขนตาผม รอฟื้นฟูไปอีกเป็นปี แต่แผลนี่คุณหมอบอกว่าไม่เป็นรอยแผลเป็น ไม่ต้องเป็นห่วง รอฟื้นฟูยาวๆ คิดแง่บวกคือ อิฉันได้ผิวใหม่ ปลอบใจตัวเองไม่ต้องเครียด ไม่ต้องคิดมาก เดี๋ยวมันก็กลับมาเหมือนเดิม อิฉันว่าฉันเก่งละนะทำใจยอมรับมันได้ แต่ว่าพ่อกับแม่เก่งที่สุดที่ผ่านมาได้เช่นกัน แบบที่สุด ทนเห็นอะไรหลายๆ อย่าง
ได้ยินเสียงร้องไห้ แต่เราได้แต่นอนฟัง ตอนนี้ผ่านมาละ จะกลับมาตั้งใจกว่านี้ เป็นลูกที่ดีกว่านี้ เคยคิดลบกับตัวเองแล้วครั้งหนึ่ง แต่ครั้งนี้ไม่แล้ว ใครที่กำลังท้อหรืออะไร คุณไม่ได้ตัวคนเดียวนะ คุณยังมีครอบครัว คนที่รักคุณ เพื่อน ญาติพี่น้อง เขาอยู่ข้างคุณเสมอนะ”