จับตาบิ๊กโจ๊กและลูกน้อง จะหมู่หรือจ่า? คดีรับส่วยเว็บพนันมินนี่ คำตอบอยู่ที่ ป.ป.ช.
เลื่องลือกันทั่วย่านสนามบินน้ำว่าต้นสัปดาห์นี้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) จะมีการประชุมเพื่อพิจารณาสำนวนคดีกล่าวหา พ.ต.อ.ภาคภูมิ พิสมัย เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งรองผู้บังคับการสืบสวนตำรวจภูธรภาค 4 คนสนิทของ “บิ๊กโจ๊ก” พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กับพวก เรียกรับ หรือยอมจะรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดสำหรับตนเองหรือผู้อื่นโดยมิชอบ
เป็นกรณีที่ พ.ต.อ.ภาคภูมิ และพวก เข้าไปพัวพันกับเครือข่ายเว็บพนันออนไลน์ “มินนี่” ที่มี น.ส.ธันยนันท์ หรือ มินนี่ สุจริตชินศรี เป็นหนึ่งในผู้ต้องหาคนสำคัญที่มีสายสัมพันธ์เป็นแฟนสาวของ พ.ต.อ.ภาคภูมิ
อันเป็นคดีสำคัญที่ทำให้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ และลูกสมุนตำรวจอีก 8 นายต้องถูกให้ออกราชการ
สำหรับคดีของ พ.ต.อ.ภาคภูมินั้นได้ผ่านการพิจารณาของสำนักไต่สวนการทุจริตภาครัฐ 1 ก่อนจะเตรียมบรรจุเข้าสู่วาระการประชุม ป.ป.ช.ชุดใหญ่ในวันที่ 9 หรือ 10 ก.พ. 68 ที่จะถึงนี้ ที่ ป.ป.ช.ชุดใหญ่ นำโดย นายสุชาติ ตระกูลเกษมสุข ประธาน ป.ป.ช.ป้ายแดง มีนัดประชุม
ข่าวว่าสำนักไต่สวนการทุจริตภาครัฐ 1 มีมติ “ยกคำร้อง” เมื่อการประชุมวันที่ 6 ก.พ. 68 ที่ผ่านมาแนบมากับสำนวนคดีของ พ.ต.อ.ภาคภูมิ และพวก เสนอมายัง ป.ป.ช.ชุดใหญ่
ทั้งที่พฤติการณ์ของ พ.ต.อ.ภาคภูมิ รวมทั้งพยานหลักฐานที่ปรากฏอยู่ในสำนวนคดีโดยคณะพนักงานสืบสวนสอบสวนมีหลักฐานสำคัญเป็นแชตไลน์ในโทรศัพท์ของ น.ส.ธันยนันท์ ที่ถูกตรวจยึดได้
ข้อความสนทนาระหว่าง น.ส.ธันยนันท์ กับ พ.ต.อ.ภาคภูมิ โดยเป็นช่วงที่ฝ่ายหลังส่งข้อความในลักษณะสั่งการให้นำส่งเงินจำนวน 5 แสนบาท มอบแก่ผู้เป็นหุ้นส่วน และผู้รับผลประโยชน์
อันเป็นหลักฐานเดียวกับที่สำนักงานอัยการสำนักงานปราบปรามทุจริตฯ เคยเห็นสมควรสั่งฟ้อง พ.ต.อ.ภาคภูมิ และพวก รวม 14 คน ในหลายข้อหา ทั้งเป็นเจ้าพนักงาน เรียก รับ หรือยอมจะรับทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดสำหรับตนเองหรือผู้อื่นโดยมิชอบ เพื่อกระทำ รวมไปถึงความผิดฐานฟอกเงิน แต่ต่อมาสำนักงาน ป.ป.ช.กลับขอดึงสำนวนกลับไปพิจารณาเอง
ทั้งที่สำนวนคดีที่คณะพนักงานสืบสวนสอบสวนทำเสร็จสิ้นนั้นมีรายละเอียดที่มัดแน่นจนสำนักงานอัยการสำนักงานปราบปรามทุจริตฯ เคยเห็นสมควรสั่งฟ้องกลุ่มผู้ต้องหา
ตรงนี้ย่อมเกิดคำถามต่อการทำหน้าที่พิจารณาคดีสำนวนคดีของสำนักไต่สวนการทุจริตภาครัฐ 1 สำนักงาน ป.ป.ช.ที่มีมติยกคำร้องในคดีที่พยานหลักฐานหนาแน่น
เปรียบเทียบกับที่คณะกรรมการ ป.ป.ช.มีมติสั่งสอบ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ และพวก จากกรณีถูกกล่าวหาว่ารับสินบนเว็บพนัน ที่ที่มาต้นเรื่องนั้นเป็นเพียงหนังสือร้องเรียนที่ยื่นโดย “ทนายตั๊ม” ษิทรา เบี้ยบังเกิด ที่ว่ากันว่า มีความใกล้ชิดเป็นมือทำงานของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์
ซึ่งหากคณะกรรมการ ป.ป.ช.มีมติยกคำร้องคดี พ.ต.อ.ภาคภูมิ และพวก ตามที่สำนักไต่สวนการทุจริตภาครัฐ 1 เสนอขึ้นมาจริง ก็ย่อมกระทบต่อความน่าเชื่อถือของคณะกรรมการ ป.ป.ช.ที่อยู่ในช่วงผลัดใบอย่างแน่นอน
ผลการประชุมของคณะกรรมการ ป.ป.ช.ในคดีของ พ.ต.อ.ภาคภูมิ และพวก ในวันจันทร์ที่ 9 หรือวันอังคารที่ 10 ก.พ. 68 จะเป็นมาตรวัดความศักดิ์สิทธิ์ของหัวหอกปราบโกงอย่างคณะกรรมการ ป.ป.ช. ตามกระแสข่าวว่ากลุ่มผู้ต้องหาได้มีการติดตามอย่างหนักเพื่อ ”จะรอด“ จากคดีของ พ.ต.อ.ภาคภูมิ และพวก
อันเป็นคดีหัวเชื้อในการสอบสวนเอาผิด พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ที่หากคดีต้นเรื่องถูกชี้มูลความผิด พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ในฐานะ “ลูกพี่” ของ พ.ต.อ.ภาคภูมิ ก็คงรอดยาก
ต้องจับตาดูอย่างใกล้ชิดว่าจะมีรายการ "ต้มคนดู" อย่างเสียงลือเสียงเล่าอ้างแถวสนามบินน้ำในตอนนี้หรือไม่.?
---------------------------------------------------
**หมายเหตุ
แอป Sondhi App ดาวน์โหลดได้แล้ว
ระบบ iOS ไปที่ AppStore :https://apps.apple.com/th/app/sondhi-app/id1588046647
ระบบ android ไปที่ Google Play :https://play.google.com/store/apps/details?id=com.sondhitalk.asia.android
**ขอแนะนำ ThaiTimes โซเชียลมีเดียของคนไทย
ไม่ปิดกั้นเนื้อหา - แชร์รูปภาพและวิดีโอ - ติดตามข่าวสารล่าสุดได้อย่างอิสระ
มีให้ Download ได้แล้วทั้งในระบบ iOS และใน Android
iOS :https://apps.apple.com/th/app/thaitimes-social/id6502225132
Android :https://play.google.com/store/apps/details...
และhttps://thaitimes.co