หลังรัฐบาลไทยประกาศตัดไฟแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในพื้นที่ชายแดน ล่าสุดสาวเผยภาพบรรยากาศยามค่ำคืนก่อนถูกตัดไฟของเมืองชเวก๊กโกที่สว่างไสวมีไฟหลากหลายสี นอกจากนี้ยังพบเครื่องปั่นไฟ และ ถังเก็บน้ำมันที่กาสิโนแห่งหนึ่งในเมืองเมียวดี
จากประเด็นที่สังคมให้ความสนใจ ที่รัฐบาลไทยประกาศเรื่องการตัดไฟฟ้าที่ประเทศไทยส่งขายให้กับประเทศเมียนมา เพื่อแก้ปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่อยู่ในพื้นที่ชายแดนไทยเมียนมานั้น
ต่อมา เมื่อวันที่ 4 ก.พ. มีผู้ใช้เฟซบุ๊ก “Natty loves Myanmar” ได้เผยภาพบรรยากาศยามค่ำคืนของเมืองชเวโกะโก หรือชเวก๊กโก ที่สว่างไสวมีไฟหลากหลายสี โดยผู้โพสต์ระบุข้อความว่า “ShweKokko แสงไฟที่สว่างสไวในยามค่ำคืน
ประเด็นร้อนในช่วงนี้ก็คงจะหนีไม่พ้นการตัดไฟฟ้าจากไทยไปเมียนมา ซึ่งหลายฝ่ายโยนกันไปโยนกันมาเหมือนลิงชิงบอล
ชเวก๊กโกเรียกว่าเป็นเมืองที่เจริญขึ้นอย่างรวดเร็ว
ไฟฟ้ามีระบบโครงข่ายที่ดีและบางแห่งมีเครื่องปั่นไฟสำรองขนาดใหญ่ ซึ่งต่างจากเมืองอื่นในเมียนมา รวมถึงเมืองเมียวดีที่เป็นหนึ่งในเมืองสำคัญของการค้าชายแดน ที่ในปัจจุบันกลับมีไฟฟ้าที่ไม่เพียงพอ ชาวบ้านเริ่มมีการใช้โซลาร์เซลล์เป็นพลังงานทางเลือกอย่างจำเป็น เพื่อการใช้ไฟฟ้าอย่างไม่ติดขัดหรือต้องสำรองไว้ใช้ยามไฟดับ
การตัดไฟอาจจะทำให้ชาวเมียนมาลำบากเพิ่มมากขึ้น แต่ก็เพื่อการรักษาผลประโยชน์ที่ถูกต้องไม่ใช่เป็นการเอื้ออำนวยเหล่าทุนจีนเทาที่กำลังหากินบนความลำบาก
เรื่องต่อไปจะขอเขียนถึง KK Park จากคำบอกเล่าและปัญหาที่พบเจอจากชาวบ้านแถวนั้นว่า การมีบ้านที่อยู่ใกล้ KK Park ส่งผลอย่างไรต่อชีวิต
เรื่อง/ภาพ : Naphat Kongchan
“และนอกจากนี้ยังเผยภาพเครื่องปั่นไฟ และถังเก็บน้ำมันที่กาสิโนแห่งหนึ่งในเมืองเมียวดี บริเวณฝั่งตรงข้ามบ้านห้วยม่วง ซึ่งยังเป็นหนึ่งในจุดที่มีข้อถกเถียงกันอยู่เรื่องของการตัดไฟ โดยผู้โพสต์ตั้งคำถามว่าคุณคิดเห็นอย่างไรกับการตัดไฟไปยังฝั่งเมียนมา ????
ล่าสุดวันนี้ (5 ก.พ.) เฟซบุ๊กดังกล่าวได้โพสต์รายงานล่าสุดว่า “สรุป! ไทยตัดไฟไปเมียนมาแล้วนะจ๊ะ
- หมายถึงการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคได้ตัดการส่งไฟทั้ง 5 จุดแล้ว
แต่...
-ไม่รู้ว่าการจ่ายไฟ 5 จุดนี้ครอบคลุมแก๊งคอลเซ็นเตอร์ตรงไหนอย่างไรบ้าง ???
ที่แน่ๆ
- ชาวบ้านตาดำๆ ได้รับผลกระทบแน่นอน
ฝั่งบรรดาธุรกิจสีเทา เขาเตรียมการ ..
- แถบเมียวดี: มีเครื่องปั่นไฟ โซลาร์เซลล์ น้ำมัน
- ท่าขี้เหล็ก: มีหันไปใช้ไฟจากลาว เครื่องปั่นไฟ โซลาร์เซลล์
.
รูปโดยฉันเอง : Shwekokko ตอนกลางวัน”