"หมอเบียร์" โพสต์เฟซบุ๊ก ชี้ค่ายผู้อพยพกลายเป็นปัญหาหนักอกของสาธารณสุขท้องถิ่น เนื่องจากขาดการสนับสนุนจากภาครัฐอย่างเพียงพอ จำนวนผู้ลี้ภัยมีมากจนเกินกำลังที่บุคลากรทางการแพทย์ในพื้นที่รับมือได้ ส่งผลกระทบต่อการบริการประชาชนในพื้นที่
วันนี้ (3 ก.พ.) ผู้ใช้เฟซบุ๊ก "Nuttagarn Chuenchom" หรือ "หมอเบียร์" แพทย์จากโรงพยาบาลแม่สอด จ.ตาก ออกมาโพสต์ข้อความในประเด็น "การจัดการค่ายผู้อพยพ" ชี้การจัดการค่ายผู้อพยพเป็นเรื่องระดับชาติที่รัฐบาลต้องเข้ามาดูแล ไม่ใช่ภาระของสาธารณสุขท้องถิ่น โดย "หมอเบียร์" ได้ระบุข้อความว่า
"เรื่องของการจัดการค่ายผู้อพยพไม่ใช่เรื่องของสาธารณสุขท้องถิ่น มันเป็นเรื่องระดับชาติ เป็นเรื่องการจัดการของรัฐบาล การแก้ไขกฎหมาย การผลักดันผู้ลี้ภัยกลับประเทศเดิม
ความเห็นของเบียร์คือต้องจัดบุคลากรอีกชุดหนึ่งเพื่อมาดูแลค่ายอพยพ ในช่วงเร่งด่วนแนะนำให้เขาหางบประมาณมาจ้างหมอเมียนมากลุ่มเดิมที่เคยดูแลอยู่แล้วระหว่างรองบประมาณใหม่ แต่เขาไม่ทำแบบนั้น เขามาแบ่งหมอจากโรงพยาบาลชุมชนและโรงพยาบาลทั่วไปไปออกตรวจ จำนวนผู้ลี้ภัยทั้งหมดเท่ากับประชากรหนึ่งอำเภอเลย ในระยะยาวต้องพูดคุยเรื่องการแก้กฎหมายผู้ลี้ภัยให้ถูกต้อง และมีการผลักดันกลับประเทศเดิม
คนไทยชายแดนเสียสละมามากพอแล้ว ทุกวันนี้บุคลากรก็ไม่พอ คนไข้ก็ต้องรอนาน รอทุกอย่างทั้งรอหมอและรอคิวในการตรวจ บางคนเป็นมะเร็งก็ต้องรอการวินิจฉัยและการรักษา แล้วจะมาให้เชาเสียสละเพิ่มโดยการแบ่งหมอของพวกเขาไปให้คนอื่นอีกเหรอคะ"
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ "หมอเบียร์" ได้ออกมาโพสต์ข้อความ ที่ระบุถึงผู้บริหารของโรงพยาบาล ให้รับตรวจเคสวัณโรคและเอชไอวีในศูนย์อพยพโดยไม่คำนึงถึงภาระงานที่มีอยู่ อีกทั้งยังมีความกังวลเกี่ยวกับเรื่องการบริการของโรงพยาบาลที่ไม่เพียงพอต่อคนไทยชายแดนอยู่แล้ว และมองว่าศูนย์อพยพเป็นเรื่องที่ส่วนกลางต้องเข้ามาดูแล หากผู้บริหารยังไม่เปลี่ยนแนวคิด ก็จะไม่ทนอีกต่อไป