เชื่อแน่ว่า คนที่รักชอบเฟอร์นิเจอร์ประเภทเตียงนอน โซฟา โต๊ะ เก้าอี้ ระดับ Hi-End สำหรับใช้สอยและประดับภายในบ้านหรือที่พักอาศัย ย่อมรู้จักและคุ้นเคยกับแบรนด์ Zen Collection เป็นอย่างดี เพราะเป็นแบรนด์ที่ได้รับการยอมรับทั้งในด้านคุณภาพ การดีไซน์ที่สวยเก๋ดูดีมีระดับ หรือแม้กระทั่งเรื่องของราคาที่สามารถจับต้องได้
จากโรงงานไม้แปรรูปในตอนเริ่มต้น สู่การเป็นผู้ผลิตและจำหน่าย เฟอร์นิเจอร์ต้น ๆ ของเมืองไทย ด้วยมาตรฐานเป็นที่ไว้วางใจ และเชื่อมั่นมานานกว่า 20 ปี Zen Collection ก้าวสู่ตลาดออนไลน์ โดยมีแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซอย่าง Shopee เป็นฐานที่มั่นที่ Zen Collection บอกได้เต็มปากเต็มคำว่าเป็นแพลตฟอร์มที่เพียบพร้อมด้วยเครื่องมือ และมีส่วนอย่างสำคัญที่ช่วยผลักดันให้ Zen Collection มียอดขายเป็นที่น่าพอใจอย่างยิ่ง
อะไรคือเคล็ดลับความสำเร็จ? อะไรคือเหตุผลที่ทำให้เจ้าของโรงงานตัดสินใจมุ่งไปอีคอมเมิร์ซ? และเพราะอะไรถึงเลือก Shopee เป็นนัมเบอร์วัน? ฯลฯ ผู้จัดการออนไลน์ พาไปสนทนาแบบเจาะลึกถึงคำตอบของถามเหล่านั้นกับ “คุณเซ็น - พรพรรณ อั้น” และสามีคู่ชีวิตที่สร้างเนื้อสร้างตัว และสร้างธุรกิจ จนประสบความสำเร็จมาด้วยกันทุกวันนี้ ที่เราเชื่อว่าน่าจะเป็นอีกหนึ่งแรงบันดาลใจให้กับเจ้าของโรงงาน เจ้าของแบรนด์ หรือแม้กระทั่งแม่ค้าพ่อขายตัวเล็ก ๆ ให้พร้อมก้าวเดินเข้าสู่ยุทธจักรอีคอมเมิร์ซได้อย่างมั่นใจ
จากโรงงานไม้แปรรูป สู่ผู้ผลิต-จำหน่ายเฟอร์นิเจอร์
และจุดเปลี่ยนจากออฟไลน์ สู่ออนไลน์เต็มตัว
ตั้งแต่ปี 2546 Zen Collection เริ่มต้นมาจากการเป็นโรงงานผลิตไม้แปรรูปเพื่อจำหน่ายให้ผู้ผลิตเฟอร์นิเจอร์ต่าง ๆ อย่างไรก็ดี อีกประมาณสองปีต่อมา คุณเซ็นเล่าว่า จากสถานการณ์การส่งออกที่เกิดปัญหา ทำให้ลูกค้าที่ซื้อไม้แปรรูปไปผลิตเฟอร์นิเจอร์ ขาดสภาพคล่องทางการเงินและกลายเป็นที่มาของความเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในกิจการ ของเธอ
“ตอนนั้นคนที่ซื้อไม้แปรรูปของเราไปทำโซฟาส่งออกต่างประเทศ เขาติดหนี้เรา ประมาณ 3-4 ล้านบาท เขาก็เล่าปัญหาให้เราฟังพร้อมถามเราว่า ตอนนี้มีโซฟาที่ส่งออก ไม่ได้ทั้งหมด 8 ตู้ พี่จะเอาไปขายมั้ย (ต่างว่าใช้หนี้) ตอนแรกเราก็ไม่รู้ว่าจะเอาไปขายที่ไหน ขายให้ใคร หรือขายยังไง เพราะตั้งแต่เกิดมา เราก็ขายแต่ไม้ แต่พอเราได้ไปดูโซฟา เห็นว่าสวย และคุณภาพดี ราคา 3-4 หมื่น แต่เขาขายให้เราราคาไม่แพง เราก็เลยโอเค เดี๋ยวเราลองก็ได้ เพราะไม่มีอะไรเสียหาย เราก็ลองเอาไปขายที่งาน Exhibition ปรากฏว่าขายดีมาก”
จากจุดนั้น ด้วยวิสัยทัศน์ที่มองการณ์ไกล ทำให้คุณเซ็นมองเห็นโอกาสใหม่และเกิดไอเดียว่า ไหนๆ เราก็มีไม้แปรรูปอยู่ในมือแล้ว ทำไมเราไม่ผลิตเฟอร์นิเจอร์เองไปเลย และนั่นก็นำไปสู่จุดออกสตาร์ทในฐานะผู้ผลิตเฟอร์นิเจอร์โดยมีคอนเซปต์คือ Make to Order (ผลิตสินค้าเฉพาะเมื่อมีคำยืนยันการสั่งซื้อจากลูกค้า)
อย่างไรก็ดี หลังจากจำหน่ายหน้าร้านมานานกว่า 18 ปี จุดเปลี่ยนครั้งสำคัญก็มาถึง เมื่อเกิดสถานการณ์โควิด ซึ่งศูนย์การค้าส่วนใหญ่ปิดแทบทั้งหมด เช่นเดียวกับงาน Exhibition ต่าง ๆ ที่จำเป็นต้องงดไป ทำให้คุณเซ็นและสามีเริ่มมองหาช่องทางใหม่ในการจำหน่าย นั่นก็คือออนไลน์ จนกระทั่งมาพบกับ Shopee แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซซึ่งมาแรงมากในช่วงเวลานั้น...
ทำไมต้องเป็น Shopee ?
และความท้าทายของ “มือใหม่” บนอีคอมเมิร์ซ
ปฏิเสธไม่ได้ว่า การซื้อขายผ่านช่องทางอีคอมเมิร์ซหรือออนไลน์ เป็นเทรนด์ที่ผู้ประกอบการยุคใหม่ไม่มีทางหลีกเลี่ยงได้ เพื่อตอบสนองให้เท่าทันต่อไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคที่นิยมซื้อของออนไลน์ และในมุมมองของคุณเซ็น เธอพูดอย่างชัดถ้อยชัดคำว่า การเลือกแพลตฟอร์ม Shopee เป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องที่สุด
“เรากล้าที่จะตัดสินใจเข้ามาสู่ออนไลน์เต็มตัว เพราะเห็นว่ามันเป็นเทรนด์ของยุคนี้ ที่ผู้บริโภคนิยมซื้อของผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์กันหมดแล้ว ซึ่งเราเองก็ซื้อ เพราะมันมีความสะดวกสบาย และที่สำคัญคือ การทำมาร์เก็ตติ้งออนไลน์ มีตัวช่วยเยอะ โดยเฉพาะ Shopee ที่มีความเก่งและเชี่ยวชาญอยู่แล้วในเรื่องแพลตฟอร์มออนไลน์ ทั้งเรื่องการใช้งาน ไม่ยุ่งยาก ไม่ซับซ้อน โค้ดก็ใช้ง่าย เข้าถึงง่าย เป็นแพลตฟอร์มที่ใคร ๆ ก็เข้าถึงได้ ซื้อได้ ตอนนี้ตอบโจทย์ที่สุดคือ Shopee”
อย่างไรก็ดี ในช่วงที่ออกสตาร์ท คุณเซ็นยอมรับว่าก็มีอุปสรรคท้าทายให้ต้องจัดการ แก้ไขไม่น้อยเช่นกัน เช่น การตั้งราคาขายที่ต้องกำหนดว่าเท่าไหร่ถึงจะพอดีและขายได้ และ จะขายอย่างไร อีกทั้งต้องดูเรื่องคู่แข่งว่าเขาขายกันอย่างไร และทำอย่างไรเราถึงจะตีตลาดได้
“นอกจากนั้น ด้วยความที่สินค้าเราเป็น Mass Product ลูกค้าซื้อเยอะ ต้องจัดส่งเยอะ แม้ว่าเราจะผลิตทัน แต่การ Manage ในช่วงแรกมีติดขัด หรือลูกค้าได้รับของช้าอยู่บ้าง เราจะ Follow up ยังไงหรือเคลียร์ยังไงให้สินค้าถึงลูกค้า Shipping ยังไงจึงจะไปถึงภูเก็ต ข้ามเกาะอย่างไร ทุกอย่างไม่ใช่ง่ายนะคะ ยากเหมือนกันในช่วงใหม่ ๆ เพราะสินค้าของเราชิ้นใหญ่ กว่าขนส่งจะถนัดในการส่งสินค้าให้เรา ก็ใช้เวลาเกือบปี กว่าจะลงตัว
“แต่ด้วยความที่ Zen Collection เป็นแบรนด์มีมาตรฐานและความน่าเชื่อถือ และฐานลูกค้าของเราก็ดีอยู่ นอกจากบน Shopee เรามีหน้าร้านเป็นพื้นที่ให้ลูกค้ามี Experience ให้ลูกค้าได้เห็นและจับต้องสัมผัสได้เช่นกัน พอเราลงราคาขายใน Shopee ทุกคนเลยไม่คิดมาก เพราะเขาเชื่อมั่นว่า ถ้าแบรนด์คุณภาพนี้ ราคานี้ เขาซื้อได้ ในช่วงแรก ๆ แฟนเราบอกว่ายังไม่ต้องเอากำไรหรอก เราต้องสร้างวอลุ่มก่อน เค้าบอกว่ามันเป็นกลยุทธ์อย่างหนึ่งซึ่งจะทำให้เราก้าวขึ้นไปอยู่อันดับ Top บน Shopee ให้ได้ นี่คือเป้าหมายของเราในช่วงแรก”
แต่ไม่ว่าจะเจออุปสรรคอย่างไร คุณเซ็นยอมรับว่า ด้วยระบบที่ดีของ Shopee นั้นสามารถช่วย Seller ได้อย่างดีเยี่ยม
“ข้อได้เปรียบของ Shopee คือหนึ่ง ซื้อง่าย สอง คนเห็นร้านของเราเร็ว และสาม เครื่องมือการตลาดใช้งานง่าย พูดได้ว่าอุปสรรคเกี่ยวกับการจำหน่ายไม่มีเลย เพราะ Shopee ซัพพอร์ตเต็มที่ อุปสรรคเกี่ยกับแพลตฟอร์มไม่มีเลย เพราะเขาทำเพอร์เฟคต์อยู่แล้ว” เจ้าของแบรนด์ Zen Collection เล่าด้วยน้ำเสียงเชื่อมั่น
ทุกเครื่องมือการตลาดของ Shopee
พร้อมผลักดันสู่ผลลัพธ์ความสำเร็จ
สำหรับพ่อค้าแม่ขายที่จำหน่ายสินค้าใน Shopee ย่อมรู้กันดีว่า ในแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซเจ้านี้มีเครื่องมือการตลาดให้เลือกใช้อย่างหลากหลายซึ่งพร้อมจะผลักดันยอดขาย ให้มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นโปรแกรมสำหรับผู้ขาย เช่น Coin Cashback Program, Shopee Livestrem, Shopee Video หรือ Shopee Mega-campaign เป็นต้น
และที่สำคัญอีกหนึ่งโปรแกรมก็คือ Affiliate Marketing Solution ซึ่งเป็นเครื่องมือการตลาดช่วยสร้างโอกาสเพิ่มยอดขายรวมทั้งการเข้าถึงของลูกค้ากลุ่มเป้าหมายได้เป็นอย่างดี
“Zen Collection ของเราใช้เครื่องมือที่มีอยู่ทุกอย่างใน Shopee เช่น Shopee Affiliate Program หลังจากเราเริ่มใช้เมื่อปีที่แล้ว ยอดขายเพิ่มขึ้นมาสูงกว่า 20% โดยการทำงานของ โปรแกรมนี้ก็คือจะมีอินฟลูเอนเซอร์ที่เห็นว่าสินค้าเราดีและขายดี เค้าก็ไป Live หรือทำคลิป แนะนำ พร้อมทั้งเอาสินค้าเราไปใส่ตะกร้าเขาไว้ พอมีคนมาซื้อ เค้าก็ได้ค่าคอมมิชชั่นไป โดยที่เค้าไม่จำเป็นต้องมีหน้าร้านหรือสินค้าในสต็อก
“โปรแกรมนี้เราทำเยอะ และทำง่ายด้วย เป็นเครื่องมือที่ช่วยให้เรามียอดขายได้เยอะขึ้น เรายินดีที่จะจ่ายส่วนต่างหรือคอมมิชชั่นในส่วนนั้นอยู่แล้ว เพราะหนึ่ง เราไม่จำเป็นต้องไปเปิดสาขา เราให้อินฟลูเอนเซอร์ช่วยโปรโมต คนเห็นก็ตามมาซื้อ ถ้าพูดแบบภาษาของเราก็คือ มีคนมาช่วยขายในแพลตฟอร์ม เป็นทางเลือกที่ดีอีกแบบหนึ่ง เหมือนกับว่าเรามีสาขาย่อย ใครอยากเป็นสาขาย่อยของเรา คุณไม่จำเป็นต้องเอาสินค้าเราไปขาย แค่คุณโปรโมตแนะนำ หรือรีวิวในหน้าวอลล์ของคุณ ข้อมูลเราก็มีให้หมดเลย พอมีคนมาซื้อ คุณก็ได้ค่าคอมมิชชั่น”
ทั้งนี้ คุณเซ็นกล่าวเพิ่มเติมว่า ตรงนี้ถือเป็นข้อดีของ Shopee ที่ Win-Win ทั้งคู่ ทั้งแพลตฟอร์มและผู้ขาย ... “เราใช้โปรโมชั่น แคมเปญ และเครื่องมือทุกอย่างที่มีอยู่ใน แพลตฟอร์มซึ่งดีต่อธุรกิจของเรามาก อย่างบางวันที่มีโปรโมชั่น 11.11 หรือ 12.12 คนซื้อถล่มทลายเลย อันที่จริงตอนแรกที่ขายในออนไลน์ตั้งเป้าไว้น้อยมาก คิดว่ายอดจำหน่าย หนึ่งเดือน ได้สัก 5 แสนบาทก็ดีแล้ว แต่ผลลัพธ์กลับเหนือความคาดหมายอย่างมาก” คุณเซ็นเล่าเพิ่มเติม
“จำได้ว่าปีแรกที่เราขายบน Shopee เราตั้งไว้ที่เดือนละ 5 แสน เดือนแรกได้มา 3 แสนกว่า เดือนที่สองได้ 5 แสน ผ่านไปอีก 2-3 เดือน เพิ่มเป็นหลักล้าน อย่างเดือนที่แปดนี่ วันเดียวยอดมาทะลุล้านเลย เราเห็นอย่างนั้น แฟนก็บอกว่า ถ้าอย่างนี้อัดโฆษณาได้แล้ว กล้าสู้แล้ว ซึ่งเทียบกับตอนที่ขายออฟไลน์ ถึงแม้ว่ายอดขายจะได้ประมาณ 5-6 ล้าน หรือบางเดือนก็ได้ถึง 7 ล้าน ยอดเยอะก็จริง แต่ก็มีค่าใช้จ่ายสูงมาก อย่างค่าพื้นที่ครั้งหนึ่ง ก็หลายแสนบาทต่องาน บางงานแตะล้านบาทก็มี ก็เลยคิดว่า เอาเงินมาลง Shopee ดีกว่า มีแคมเปญอะไรก็อัดเต็มที่ แถมได้ยอดดีด้วย
“ตั้งแต่มีนาคมปีที่แล้ว (2567) เราไม่ได้ออก Exhibition แล้วนะ เราขายใน Shopee อย่างเดียว ลดค่าใช้จ่ายและไม่เหนื่อย ไม่ต้องขนของไปตามบูธ สะดวกสบายมาก ต้องขอบคุณ Shopee ปี้ที่ทำให้เราเห็นว่ามันเป็นไปได้จริง ๆ ในการขายออนไลน์”
เคล็ดลับความสำเร็จ
จากมือใหม่ สู่ผู้ขายมืออาชีพ
“ถ้าคิดเป็นตัวเลขที่เราขายใน Shopee กล้าพูดได้เลยว่าเราประสบความสำเร็จ ร้อยเปอร์เซ็นต์”
คุณเซ็นกล่าวด้วยรอยยิ้ม โดยประจักษ์พยานผลลัพธ์อย่างหนึ่งซึ่งเห็นได้ชัดก็คือ ขนาดของโรงงานผลิตที่แต่เดิมมีเพียง 1.5 ไร่ ตอนนี้ขยับขยายเป็น 4 ไร่ที่พร้อมจะเติบโตไปอีกหลายเลเวล
“เป้าหมายของ Zen Collection จะไม่หยุดอยู่เพียงแค่นี้ เราคิดว่ามันสามารถไปได้ ไกลกว่านี้อีกหลายเท่าตัว เราอยากจะเป็นโรงงานผลิตในไทยและขายทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็น เครื่องนอน ที่นอน หมอน มุ้ง โซฟา ผ้าปูที่นอน พรมปูพื้น ฯ เราจะนำมารวมอยู่ในนี้หมดเลย วันสต็อปเซอร์วิสใน Zen Collection ซึ่งเราจะทำเร็ว ๆ นี้แน่นอน คือที่ผ่านมาเราก็ต้องพูดตรง ๆ ว่า ที่โรงงานหนึ่งไร่ครึ่ง เราทำงานไม่ทัน เราทำเฉพาะที่มีออเดอร์เข้ามา แต่ตอนนี้เรามีที่ดินเพิ่มเป็น 4 ไร่ Capacity ของเราอยู่ตัวแล้ว เราพร้อมลุยเต็มที่ เรามีครบวงจร และเรามั่นใจใน Shopee แล้ว”
ทั้งนี้ จากประสบการณ์ตรงและผลที่ได้รับ คุณเซ็นแชร์ให้ฟังว่า เสน่ห์ของการจำหน่ายออนไลน์ มีดีตรงที่ว่าเราสามารถขายได้ทุกจังหวัดทั่วประเทศ หน้าที่ของเราก็คือ เราจะทำอย่างไรให้ลูกค้าใน 70 กว่าจังหวัดทั่วประเทศเห็นสินค้าของเรา
“เมื่อก่อนเราบอกว่าอยู่แค่นี้ Profit พอแล้ว แต่พอเราได้คุยกับลูกซึ่งจะก้าวเป็นนักบริหารเจนฯ ใหม่ เค้าบอกว่า จริง ๆ แล้วโซฟาหรือเฟอร์นิเจอร์มันไปได้ไกลกว่านี้อีกมาก ถ้าศักยภาพเรามี เพราะยังมีคนอีกมากมายใน 70 กว่าจังหวัดที่อาจจะยังไม่เห็นเรา หรือยังไม่กล้าซื้อแพลตฟอร์มออนไลน์ ดังนั้น เรายังสามารถไปไกลได้อีกเยอะ”
ในฐานะเจ้าของโรงงานที่ก้าวขึ้นมาสู่ตลาดออนไลน์เต็มตัวด้วยการเป็นสมาชิกของครอบครัว Shopee และพิสูจน์ผลลัพธ์ความสำเร็จมาแล้ว คุณเซ็นพร้อมส่งต่อแรงบันดาลใจนี้ให้กับเจ้าของโรงงาน เจ้าของกิจการทุกแห่ง รวมไปถึงคนตัวเล็กตัวน้อยถึงเหตุผลที่ควรเลือก Shopee เป็นนัมเบอร์วันในการเริ่มต้นขายออนไลน์
“สำหรับใครที่ยังไม่เคยขายของในแพลตฟอร์ม Shopee เราอยากบอกว่าแพลตฟอร์มนี้ เป็นตลาดที่ใหญ่มาก คุณไม่จำเป็นต้องขายเมืองนอกเลยก็ได้ มีคนถามเราว่าส่งออกมั้ย เราบอกว่าไม่เคยคิดเรื่องนี้ เพราะเรามองว่าเค้กที่อร่อยที่สุดคือเค้กที่เมืองไทยนี่แหละ และตลาดเมืองไทยนี่แหละดีที่สุด”
“และอย่าลืมว่า เราไม่ได้ขายแค่กรุงเทพและปริมณฑลเท่านั้น งานของเราคือ 70 กว่า จังหวัดทั่วไทย ไม่จำเป็นต้องขายโซฟาหรือเฟอร์นิเจอร์อย่างเราก็ได้ สินค้าทุกอย่างขายได้หมด ถ้าใครพร้อม คุณจะขายอะไรก็ได้ใน Shopee ขายได้แน่นอน อีกทั้ง Shopee ก็มีทีมงานที่เก่ง และระบบที่ดีอยู่แล้ว และและที่สำคัญ Shopee พร้อมจะผลักดันเต็มที่เพื่อให้คุณบรรลุ เป้าหมายความสำเร็จ” เจ้าของแบรนด์ Zen Collection กล่าวทิ้งท้ายด้วยน้ำเสียงเชื่อมั่น