xs
xsm
sm
md
lg

"ไม่คิดว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้" บุคลากรทางการแพทย์ช็อก! หลังโรงพยาบาลถูกวางเพลิง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



แพทย์ช็อก หลังโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช เดชอุดม ถูกวางเพลิง เผย ทำงานมาเกือบ 15 ปี ไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้ วอนขออย่าให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้อีกเพราะกระทบต่อผู้ป่วยและทรัพย์สินของ รพ.

จากกรณี คนร้ายก่อเหตุวางเพลิงเผา รพ.สมเด็จพระยุพราช อ.เดชอุดม จ.อุบลราชธานี จนเกิดเพลิงไหม้ชั้นที่ 3 ของตึกรักษาผู้ป่วยในโรคหู คอ จมูก ซึ่งเป็นอาคาร 6 ชั้น ทำให้ต้องมีการเคลื่อนย้ายคนป่วยออกมาจากตึกอย่างฉุกเฉินตามที่ได้นำเสนอไปก่อนหน้านี้แล้วนั้น

ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 31 ม.ค. ผู้ใช้เฟซบุ๊ก "Wilpong Promnoy" ผู้โพสต์ซึ่งเป็นแพทย์ที่กำลังกำลังเตรียมผ่าตัดอยู่ที่ตึก 4 ได้ออกมาโพสต์ข้อความเผยถึงความวุ่นวายในโรงพยาบาลหลังมีคนร้ายวางเพลิงอาคาร เจ้าตัวเผยว่าเหตุการณ์นี้สร้างความสะเทือนใจและขวัญเสียให้กับบุคลากรทางการแพทย์และผู้ป่วยเป็นอย่างมาก ทำให้ต้องเลื่อนการผ่าตัดผู้ป่วยหลายรายออกไป ผู้เล่าเรื่องหวังว่าเหตุการณ์เช่นนี้จะไม่เกิดขึ้นอีก เพราะความเสียหายที่เกิดขึ้นนั้นประเมินค่าไม่ได้ ทั้งต่อชีวิตและทรัพย์สิน

ทั้งนี้ ผู้โพสต์ได้ระบุข้อความว่า วันนี้เป็นวันที่โกลาหลมากที่สุดในโรงพยาบาล เนื่องจากคนร้ายได้ทำการวางเพลิงโรงพยาบาล ซึ่งไม่คิดว่ามันจะกล้าทำได้ขนาดนี้ ใน รพ.มีคนเจ็บคนป่วยมากมาย บางคนช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ แม้ในสภาวศึกสงครามเขายังละเว้น รพ. จิตใจมันต้องทำด้วยอะไรจึงกล้าทำขนาดนี้ จนท.ต้องช่วยกันอพยพกันอย่างโกลาหล

ในขณะเกิดเหตุผมกำลังผ่าตัดอยู่ที่ตึก 4 ชั้น 4 ติดกับจุดเกิดเหตุตึก 3 ชั้น 3 พอดี ตึกห่างกันประมาณ 10 กว่าเมตร ขณะที่ผมกำลังแต่งชุดผ่าตัดกำลังจะผ่าตัดคนไข้ ได้ยินน้องผู้ช่วยตะโกนออกมาจากด้านข้างตึกผ่าตัดว่าเกิดไฟไหม้ที่ตึกหูคอจมูก ที่แรกคิดว่าไม่น่าจะรุนแรง แต่ความชุลมุนดังขึ้นเรื่อยๆ จึงเดินออกไปดูด้านข้างตึก เจอควันไฟขนาดใหญ่กำลังพวยพุ่งออกมาจากหน้าต่างตรงระเบียง ทันใดนั้นเหลือบไปเห็นน้องหมอหูคอจมูกและหัวหน้าตึกกำลังติดอยู่ที่ระเบียงและวิ่งหลบควันไฟที่กำลังออกมาจากหน้าต่างชั้น 3 ควันไฟสีดำพวยพุ่งออกมาจากหน้าต่างเป็นระยะๆ มีน้องสครับได้ต่อสายน้ำจากตึก 4 ฉีดดับควันที่ออกมาเพื่อให้น้องหายใจได้และให้ตัวเปียกอยู่ตลอดเวลา ควันไฟที่ออกมาบางช่วงออกมาเยอะมากจนน้องแทบจะหายใจไม่ออก แต่บางช่วงก็ลดลงไปบ้าง มีคนพยายามโยนอุปกรณ์ขึ้นไปช่วยแต่ก็ไม่ได้ผล ผมฉีดน้ำอยู่เกือบครึ่งชั่วโมง เมื่อไฟสงบจึงมีทีมเข้าไปช่วยเหลือน้องทั้ง 2 คน ออกมาได้ประสบการณ์ครั้งนี้ถือว่าหนักสุดในชีวิตที่เจอกับเพื่อนร่วมงานและคนไข้ ทำให้เสียขวัญกำลังใจเป็นอย่างมาก 

เพราะอยู่ใน รพ.นี้มาเกือบ 15 ปี ไม่เคยเจอเหตุการณ์อะไรหนักเท่านี้เลยวันนี้ผมต้องเลือกผ่าตัดเฉพาะผู้ป่วยที่เร่งด่วนเท่านั้น ส่วนผู้ป่วยที่รอได้ก็เลื่อนนัด ออกไป และยังมีผู้ป่วยอีกหลายรายที่ต้องรอผ่าตัดเมื่อเหตุการณ์ภายใน รพ.สงบลง ต้องยอมรับว่าเหตุการณ์วันนี้ทำให้ จนท.และคนไข้เสียขวัญกำลังใจเป็นอย่างมาก ไม่มีใครคาดคิดว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นขอให้อย่าเกิดกับทุกที่เลย เพราะความเสียหายมันประเมินค่าไม่ได้จจริงทั้งกับคนไข้ จนท. และทรัพย์สินของ รพ.ที่มาจากภาษีของประชาชนทั้งนั้น


กำลังโหลดความคิดเห็น