เพจ “หมอแล็บแพนด้า” เตือนการสูดดมควันธูปเป็นอันตรายกว่าที่คิด มีทั้งก๊าซและสารอินทรีย์หลายชนิด มีผลต่อการทำงานของปอด โรคทางเดินหายใจ
วันนี้ (28 ม.ค.) เพจ “หมอแล็บแพนด้า” หรือ ทนพ.ภาคภูมิ เดชหัสดิน นักเทคนิคการแพทย์ชื่อดัง ได้โพสต์เตือนระวังอันตรายจากการสูดดมควันธูป ระบุว่า “การสูดดมควันธูปเป็นอันตรายกว่าที่คิด
ปกติแล้วการจุดธูป 1 ก้านจะใช้เวลาโดยเฉลี่ยประมาณ 50 ถึง 90 นาที ขึ้นอยู่กับชนิดธูป แปลว่าเราต้องสูดดมควันค่อนข้างนาน และสูดควันค่อนข้างเยอะ เพราะการจุดธูปจะผลิตอนุภาคมากกว่า 45 มก./ก.
ในควันธูปประกอบไปด้วยอนุภาคขนาดเล็ก อย่าง PM 2.5 ที่เรารู้จักกันอยู่แล้วว่าอันตรายต่อร่างกายเกือบทุกระบบ แถมยังทำให้เป็นมะเร็งปอดแบบสุ่มได้อีกต่างหาก
นอกจาก PM 2.5 แล้ว ควันธูปยังมีก๊าซและสารอินทรีย์หลายชนิดที่เป็นอันตราย อย่างเช่น
- ก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์
จะไปแย่งรวมตัวกับฮีโมโกลบิน ก็เลยลดความสามารถในการลำเลียงออกซิเจนของเลือด ทำให้ปวดศีรษะ เวียนศีรษะ อ่อนแรง และคลื่นไส้ ถ้ามากเกินไปก็อาจทำให้เสียชีวิตได้
- ซัลเฟอร์ไดออกไซด์ (SO2) และไนโตรเจนไดออกไซด์ (NO2) จะทำให้โรคหัวใจและหลอดเลือดที่มีอยู่เดิมรุนแรงขึ้น มีผลต่อการทำงานของปอด โรคทางเดินหายใจ
- สารอินทรีย์ระเหยง่าย (VOCs) คือสารเคมีที่มีจุดเดือดต่ำ ระเหยได้ง่าย เช่น เบนซิน โทลูอีน ไซลีน และไอโซพรีน ถ้าอาการเฉียบพลัน จะทำให้ระคายเคืองตา จมูก คอ ปวดศีรษะ คลื่นไส้ อาเจียน เวียนศีรษะ และหอบหืดกำเริบ ถ้าอาการเรื้อรังจะทำให้เป็น มะเร็ง ตับเสียหาย ไตเสียหาย ระบบประสาทส่วนกลางเสียหาย
อัลดีไฮด์
เป็นสารระเหยง่าย ระคายเคืองต่อผิวหนัง ตา และทางเดินหายใจส่วนบนแล้ว แถมมีผลต่อเยื่อเมือกจมูกและช่องปากอีกด้วย ทำให้เกิดอาการแสบร้อน หลอดลมตีบ หายใจไม่ออก และไอ และมะเร็ง
โพลีไซคลิกอะโรมาติกไฮโดรคาร์บอน เป็นสารก่อมะเร็ง
ไดเอทิลฟทาเลต ทำให้การเผาผลาญไขมันลดลง และเป็นพิษต่อตับ
และสารอื่นๆ
เพื่อป้องกันโรคทางเดินหายใจและปัญหาสุขภาพในหลายระบบที่ว่ามา ถ้าเป็นไปได้ให้ลดระยะเวลาการสัมผัสควันธูปนะครับ อย่าไปสูดดมนานๆ และควรระบายอากาศภายในบ้านเมื่อมีการจุดธูป หรือลดการจุดได้ก็จะที่สุดครับ”