xs
xsm
sm
md
lg

กัปตันอธิบาย! "ฝุ่นกับหมอก" หลังคนไทยยังเข้าใจผิดอยู่เยอะ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เจ้าของเพจ "บันทึกไม่ลับของคนขับเครื่องบิน" โพสต์ข้อความอธิบายความแตกต่างระหว่าง "ฝุ่นกับควัน" หลังตนเองโพสต์ภาพฝุ่นที่ภาคเหนือแต่โดนชาวเน็ตเถียงว่าเป็นหมอก

จากกรณีก่อนหน้านี้เพจ "บันทึกไม่ลับของคนขับเครื่องบิน" ได้โพสต์ภาพบรรยากาศของ จ.เชียงใหม่ในยามเช้าจากเครื่องบิน ซึ่งพบว่ามีฝุ่นหนาจนเห็นยอดดอยอินทนนท์โผล่ขึ้นมาเหนือ PM 2.5 เพียงนิดเดียวเท่านั้น อย่างไรก็ตาม มีชาวเน็ตจำนวนมากเข้ามาแสดงความคิดเห็นว่าสิ่งที่เห็นอาจจะเป็นหมอกหรือเปล่า อาจจะไม่ใช่ฝุ่น เพราะเช็กค่าฝุ่นแล้วก็ไม่เยอะมาก

อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 26 ม.ค. ทางเพจ "บันทึกไม่ลับของคนขับเครื่องบิน" ได้ออกมาโพสต์ข้อความอีกครั้งเกี่ยวกับประเด็นดังกล่าว ชี้คนไทนยังเข้าใจผิดระหว่างหมอกตอนเช้ากับควันมาก โดยได้ระบุข้อความว่า

"สวัสดีครับ

หลังจากที่ผมโพสต์รูปเรื่องฝุ่น PM 2.5 ที่ภาคเหนือไป มีหลาย comment ไม่เชื่อว่ามันคือฝุ่น บางคนก็บอกว่าหมอกหรือเปล่า หนักถึงขั้นบางคนบอกว่า “คนกำลังทำมาหากิน ค้าขาย อย่ามาทำลายเศรฐกิจของภาคเหนือ ที่กำลังโกยนักท่องเที่ยวช่วงนี้เลย แม้ภาคอื่นๆ ของประเทศไทยก็เหมือนกัน มันคือหมอกไม่ใช่ฝุ่นนะ”

ผมขอเล่าแบบนี้ครับ รูปที่ผมถ่ายก่อนหน้านี้คือเวลาเกือบๆ บ่ายสองโมงตามเวลาประเทศไทย ผมบินกลับมาจากเมือง osaka ครับไม่ใช่ช่วงเช้า ซึ่งเป็นเวลาที่พระอาทิตย์ส่องแสงถึงพื้นดินเต็มที่แล้ว และตัวอย่างในรูปนี้คือเหนืออ่าวไทยครับ

หลายๆ คนยังเข้าใจผิด กับคำว่าฝุ่นควันหรือหมอกอยู่พอสมควร ผมอยากเล่าให้ฟังง่ายๆ แบบนี้ครับ ปกติหมอกก็มีหลายชนิด มีชื่อเรียกตามความสูง และวิธีการที่เกิด (ผมขอไม่ลงรายละเอียดนะครับ) ซึ่งจะเกิดในช่วงอากาศเย็น และต้องมีจุดไอน้ำกลั่นตัวใกล้เคียงกับอุณหภูมิ ณ เวลานั้นๆ (dew point) ส่วนมากทำให้ทัศนวิสัยในการมองเห็นลดลง เหลือต่ำกว่า 1 กิโลเมตร ซึ่งมีผลด้านการบิน แต่หมอกในช่วงเช้านั้นจะเกิดขึ้นไม่นาน เมื่ออุณหภูมิสูงขึ้นมีความร้อนจากแสงอาทิตย์ส่องมา ทำให้พื้นดินเริ่มคายความร้อน หมอกเหล่านี้จะค่อยๆ จางหายไปเอง และเกิดในความสูงที่ไม่มาก ต่ำเตี้ยเรี่ยพื้นครับ

ส่วนฝุ่นควันนั้นจะเกิดขึ้นเมื่อความกดอากาศสูงในหน้าหนาว มีกำลังเพียงพอที่จะกดให้ฝุ่นเหล่านั้นไม่สามารถลอยขึ้นมาเหนือพื้นดินได้ เพราะมีความหนาแน่น และเมื่อเกิดแสงอาทิตย์ส่องมาที่พื้นดิน ฝุ่นเหล่านั้นก็ยังไม่สามารถลอยหายไปได้เพราะถูกความกดอากาศสูงกดไว้ให้อยู่กับที่ จากรูปตัวอย่างจะเห็นได้ค่อนข้างชัดเจนว่าหลังจากเครื่องบินเทกออฟมาได้ความสูงระดับหนึ่งซึ่งสูงพอควรเราจะเห็นว่ามีการแบ่งชั้นของฝุ่นควัน (ซึ่งถูกความกดอากาศกดเอาไว้ด้านล่าง กับท้องฟ้าซึ่งมีความสดใสชัดเจน และไม่ค่อยมีเมฆเพราะไม่มีความชื้น) ถ้าท่านที่ยังคิดว่ามันคือหมอก อยากให้ลองนั่งเครื่องบินในช่วงนี้แล้วขึ้นมาดู ถ้ามันคือหมอก ปกติสายๆ ควันเหล่านี้จะหายไป และเกิดที่ความสูงไม่มากครับ

ท่านไหนยังคิดว่าที่เราเจอทุกเช้าช่วงนี้มันคือหมอก ก็ให้ลองสังเกตดูครับว่ามันมีความชื้นหรือไม่ ซึ่งอาจจะเกิดได้บางพื้นที่ที่มีความชื้น ถ้าท่านยังไม่เชื่อลองขึ้นเครื่องบินมาดูนะครับ ท่านจะเห็นการแบ่งตัวชัดเจนครับของ “ฟ้ากับฝุ่น” ดูแลปอดของทุกท่านให้ดีนะครับ ดูแลสุขภาพกันด้วยนะครับ ขอเสริมอีกนิด บนเครื่องบินมีระบบกรองอากาศ HEPA กรองฝุ่นได้เกือบ 100% ครับ อากาศในเครื่องบินสะอาดมากกว่าข้างนอกแน่นอน"


กำลังโหลดความคิดเห็น