ผู้ว่าฯ กทม.น้อมรับเสียงตำหนิประชาชนเรื่องการแก้ปัญหาฝุ่น PM 2.5 แต่แนะก่อนด่าให้ศึกษาเรื่องฝุ่นและเข้าใจปัญหาที่แท้จริงก่อน ระบุต้องใช้เหตุผลและวิทยาศาสตร์เป็นหลัก จะใช้ความรู้สึกไม่ได้
วันนี้ (23 ม.ค.) นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) กล่าวถึงเสียงตำหนิจากประชาชนถึงสถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 ว่า ช่วงนี้มีเข้ามาเยอะก็ขอน้อมรับ แต่ก็ต้องชี้แจงว่าเราต้องเข้าใจปัญหาด้วยเช่นกันว่าฝุ่น PM 2.5 ที่เพิ่มสูงขึ้นนั้นมาจากไหน โดยมี 3 ปัจจัย ได้แก่ รถยนต์ การเผา และสภาพอากาศปิด เมื่ออากาศไม่ถ่ายเทฝุ่นที่มียิ่งสะสมหนาขึ้น ซึ่งปัจจัยที่ควบคุมไม่ได้คือสภาพอากาศปิดเพราะเป็นวิถีธรรมชาติ และการเผาที่มาจากรอบนอก เพราะใน กทม.แทบไม่มีการเผา และจัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังตลอด แต่รอบนอก กทม.ควบคุมไม่ได้ ทั้งปริมณฑลและจังหวัดใกล้เคียง รวมถึงประเทศเพื่อนบ้าน ที่มีสถิติการเผาสูงกว่าปีที่แล้วในเวลาเดียวกัน รวมถึงเรื่องทิศทางลมที่พัดมาจากรอบนอกเข้ามาหมุนวนในพื้นที่ กทม.
สิ่งที่ กทม.ทำได้ คือพยายามควบคุมเรื่องฝุ่นควันจากรถให้มากที่สุด แต่ต่อให้สั่งหยุดรถวิ่งทั้ง กทม. คุณภาพอากาศคงไม่ได้เปลี่ยนเป็นสีเขียวโดยฉับพลัน เพราะมีปัจจัยเกี่ยวข้องมากมายดังที่กล่าว ทุกอย่างเป็นวิทยาศาสตร์ที่ต้องเข้าใจ ส่วนสถานที่ก่อสร้างที่มีประชาชนร้องเรียนว่าอยากให้หยุดการก่อสร้าง ที่ผ่านมา กทม.ไม่เคยสั่งหยุด เพียงแต่ขอความร่วมมือเพราะต้องดูสาเหตุที่แท้จริงของฝุ่นว่ามาจากอะไร กทม.เคยวิจัยร่วมกับมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ โดยวิเคราะห์มวลฝุ่นในช่วงค่าฝุ่นสูงในฤดูหนาว พบว่าธาตุของฝุ่นโดยหลักมาจากการเผา
“การจะแก้ปัญหาฝุ่นนั้น เราต้องใช้เหตุผล ใช้วิทยาศาสตร์เป็นหลัก จะใช้ความรู้สึกไม่ได้” นายชัชชาติกล่าว
ส่วนเรื่องฝุ่นจากการเผาไหม้ของรถยนต์ กทม.พยายามหามาตรการเท่าที่มีอำนาจรองรับ โดยเมื่อคืนที่ผ่านมาได้เริ่มมาตรการที่เรียกว่า LEZ (Low Emission Zone) จำกัดโซนรถบรรทุก 6 ล้อขึ้นไป ที่ไม่ลงทะเบียนบัญชีสีเขียว ห้ามเข้าพื้นที่ถนนวงแหวนรัชดาภิเษก รวมพื้นที่ 9 เขต และแนวถนนผ่าน 13 เขต ซึ่งถือเป็นครั้งแรก หลังจากประกาศย้ำอีกครั้งว่าจะบังคับใช้มาตรการนี้ในวันที่มีค่าฝุ่นสูง มีรถมาลงทะเบียนเพิ่มอีกกว่า 2,000 คันภายในวันเดียว
“เสียงที่บอกว่าเราไม่ได้ทำมาตรการเชิงรุกเรื่องฝุ่น อยากให้ดูข้อมูลและการทำงานเพราะเราทำมาตลอด ไม่ได้เพิ่งเริ่ม เรื่อง LEZ เราคุยกันมากว่าครึ่งปีเพื่อให้เกิดขึ้นและไม่มีที่ไหนในประเทศไทยที่ทำสิ่งนี้มาก่อน คืนวานนี้ หลังบังคับใช้ LEZ เที่ยงคืนถึงหกโมงเช้า กล้องที่เรามี เทคโนโลยีที่เราใช้ ตรวจพบว่ามีรถบรรทุก 6 ล้อขึ้นไป เข้ามาในเขตที่จำกัด 779 คัน ลงทะเบียนบัญชีสีเขียว 54 คัน หมายความว่า 725 คัน ต้องโดนปรับ สิ่งที่ต้องการสื่อสารคือเราเอาจริง” นายชัชชาติกล่าว
พร้อมกันนี้ นายชัชชาติได้ติดตามสถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 ในพื้นที่ กทม. ที่ศูนย์ข้อมูลคุณภาพอากาศกรุงเทพมหานคร สำนักสิ่งแวดล้อม เขตดินแดง โดยระบุว่า วันนี้สถานการณ์ฝุ่น กทม.ยังรุนแรงอยู่ ค่าฝุ่นสีแดงเพิ่มมากขึ้นรวม 21 เขต โดยเฉพาะเขตรอบนอก ส่วนเขตด้านในยังคงตัว
ด้านนายพรพรหม วิกิตเศรษฐ์ ที่ปรึกษาของผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และผู้บริหารด้านความยั่งยืนของกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า เรื่องการตรวจรถยนต์ควันดำ กทม.ได้ตรวจสอบอย่างต่อเนื่องแบบไม่แจ้งล่วงหน้า และไม่บอกว่าไปที่ไหน ให้เซอร์ไพรส์จะได้ไม่ทันตั้งตัว แต่เรื่องควันขาวของรถที่ถือว่าสร้างมลภาวะเช่นกัน แต่ไม่เข้าเกณฑ์การตรวจ ได้เสนอรัฐบาลควรปรับเปลี่ยนกฎให้เข้ากับบริบทสถานการณ์ และอยากย้ำว่าการเปลี่ยนน้ำมันเครื่องและไส้กรองจะช่วยลดฝุ่นและ PM 2.5 ได้ ซึ่งอยากให้เจ้าของรถ เจ้าของกิจการได้ดำเนินการร่วมกัน