รองผู้กำกับการสายตรวจ 191 เตือนเล่นเกมเก็บเหรียญ Jagat อันตรายกว่าที่คิด ต่างชาติ บัญชีม้า คนโปรยเหรียญ ใครได้รางวัลเสี่ยงถูกดำเนินคดีฟอกเงิน หลังชาวบ้านเดือดร้อนละเมิดพื้นที่ส่วนบุคคล ด้านตำรวจ 191 ยกระดับการป้องกันเหตุ หลังพบทรัพย์สินเสียหาย เสี่ยงมิจฉาชีพแฝงตัว
วันนี้ (22 ม.ค.) จากกรณีที่ชาวบ้านในหลายจังหวัด ได้แก่ จังหวัดเชียงใหม่ จังหวัดเชียงราย และจังหวัดภูเก็ต ได้รับความเดือดร้อนจากกลุ่มวัยรุ่นที่เข้าไปเล่นเกมหาเหรียญที่ชื่อว่า "Jagat Coin Hunt" โดยมีการนำเหรียญที่จัดทำขึ้นไปซุกซ่อนตามสถานที่ต่างๆ แล้วให้คนที่เล่นเกมไปตามหาเหรียญบนแผนที่ จากนั้นเมื่อพบเหรียญจะมีรางวัลตั้งแต่ 500 บาท ถึง 200,000 บาท ทำให้วัยรุ่นจำนวนมากตามหาเหรียญโดยบุกรุกพื้นที่ส่วนบุคคลสร้างความเดือดร้อนรำคาญ
ทั้งนี้ เกมดังกล่าวอยู่ในแอปพลิเคชัน Jagat มีต้นกำเนิดจากประเทศอินโดนีเซีย เปิดให้คนไทยดาวน์โหลดทั้งระบบ Android และ iOS ซึ่งภารกิจล่าเหรียญเพิ่งมีขึ้นเมื่อวันที่ 15 ม.ค.ที่ผ่านมา ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร พัทยา ภูเก็ต เชียงใหม่ และเชียงราย โดยภายในแอปพลิเคชันมีแผนที่แสดงตำแหน่งของเหรียญ 3 สี และมีมูลค่าแตกต่างกัน โดยเหรียญสีทอง จะแทนมูลค่า 200,000 บาท เหรียญสีเงิน จะแทนมูลค่า 20,000 บาท และเหรียญสีบรอนซ์ จะแทนมูลค่า 500 ถึง 2,000 บาท โดยเหรียญจะถูกซุกซ่อนอยู่ในสถานที่ต่างๆ บางครั้งเป็นพื้นที่รกร้าง หรือพื้นที่ส่วนตัว ถ้าอยากได้เบาะแสคำใบ้ ต้องจ่ายหรือเติมเงิน
ก่อนหน้านี้เฟซบุ๊ก "ไม่เป็นตำรวจไม่รู้หรอก Police Don't Cry" ของ พ.ต.ท.วสุเทพ ใจอินทร์ รองผู้กำกับการสายตรวจ กองบังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ (191) ระบุว่า บริษัทที่ทำเรื่องนี้เป็นสัญชาติอินโดนีเซีย เข้าไปดูโปรไฟล์ใน LinkedIn ไม่มีทีมงานคนไทยเลย หากเกิดเหตุไม่รู้จะติดต่อกับใคร App ออกแบบให้คนที่ไม่ระวัง อาจเผลอไปกด สมัครแบบเสียเงิน รายสัปดาห์ รายเดือน และรายปี โดยไม่รู้ตัวได้ โดยเฉพาะเด็กและเยาวชน การแชร์พิกัดตำแหน่งของผู้ใช้ อาจเป็นช่องทางให้มิจฉาชีพเฝ้าติดตามและฉวยโอกาสลงมือขโมยทรัพย์สินไปได้ คำแนะนำสำหรับผู้ปกครอง พูดคุยกับบุตรหลานเกี่ยวกับความเสี่ยงในการตามหาเหรียญผ่าน App Jagat ก่อนที่จะสูญเสีย
ล่าสุดได้กล่าวว่า "แอปฯ Jagat อันตรายกว่าที่คิด แอปฯ ต่างชาติ บวกบัญชีม้า บวกคนโปรยเหรียญ เรากำลังเจอกับอะไรกันแน่ ขอให้เตือนคนในครอบครัว คนที่คุณรักให้หยุดเล่นก่อน เพราะเงินที่ได้มา ถ้าสุดท้ายแล้วเป็นการฉ้อโกงประชาชน เงินที่ได้จะผิดตามมูลฐานฟอกเงิน เราต้องโดนตรวจสอบไปด้วยทันที ขอเวลาตำรวจและสื่อมวลชนตรวจสอบเรื่องนี้ นำคนที่โปรยเหรียญมาชี้แจงให้กระจ่าง เรากำลังทำงานแข่งกับเวลา เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการสูญเสียไปมากกว่านี้"
ขณะที่ พล.ต.ต.วรวิทย์ ญาณจินดา ผู้บังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ ได้รับรายงานว่า ตั้งแต่วันที่ 15 ม.ค.ที่ผ่านมา ในพื้นที่กรุงเทพมหานครมีประชาชนจำนวนมากออกตามหาเหรียญ Jagat ซึ่งเป็นแอปพลิเคชันจากอินโดนีเซีย เพื่อแลกเหรียญเป็นเงิน อย่างไรก็ตาม กิจกรรมดังกล่าวได้ส่งผลให้เกิดการละเมิดพื้นที่ส่วนบุคคล ทำให้ทรัพย์สินเสียหาย และอาจก่อให้เกิดความเสี่ยงจากมิจฉาชีพที่แฝงตัวเข้ามาในพื้นที่
พล.ต.ต.วรวิทย์จึงได้สั่งการให้กองกำกับการสายตรวจ (191) ยกระดับการป้องกันเหตุ โดยออกเตือนประชาชนให้ระมัดระวังการใช้แอปพลิเคชันดังกล่าว หลีกเลี่ยงการรุกล้ำพื้นที่ส่วนบุคคล และเฝ้าระวังภัยจากมิจฉาชีพที่อาจแฝงตัวเข้ามาในพื้นที่ หากประชาชนในกรุงเทพฯ บริเวณใดได้รับความเดือดร้อน หรือพบเหตุผิดปกติ สามารถแจ้ง สายด่วน 191 เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าตรวจสอบได้ทันที